รวมวิธีเลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้ายังไง ให้เหมาะกับการใช้งาน

เตาแม่เหล็กไฟฟ้าต้องเลือกอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน

การเลือกใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้านอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังปลอดภัยกว่าการใช้เตาแก๊สทั่วไป โดยวิธีเลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้านั้นควรพิจารณาตั้งแต่ขนาด กำลังไฟ ไปจนถึงฟังก์ชันการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครัวที่ต้องการความแม่นยำในการควบคุมอุณหภูมิ ความสะดวกในการใช้งาน และความปลอดภัยสูงสุด การมีข้อมูลที่ครบถ้วนจะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกเตาที่เหมาะสมกับการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น

รู้จักประเภทเตาไฟฟ้า ก่อนดูวิธีเลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

โดยก่อนที่เราจะไปดูวิธีเลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้ากันนั้น เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของเตาไฟฟ้าแต่ละชนิดให้ดีก่อน เพราะแต่ละแบบมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ดังนี้  

เตาไฟฟ้าเพลทร้อน (Hot Plate)

เตาไฟฟ้าเพลทร้อนเป็นรูปแบบดั้งเดิมที่สุดของเตาไฟฟ้า ใช้หลักการทำงานด้วยขดลวดความร้อนที่อยู่ด้านในแผ่นเหล็กหล่อ เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านจะทำให้ขดลวดร้อนและส่งความร้อนไปยังแผ่นเหล็ก จากนั้นจึงถ่ายเทไปยังภาชนะที่ใช้ปรุงอาหาร ข้อดีคือราคาไม่แพง ใช้ภาชนะได้ทุกประเภท เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้เตาไฟฟ้า แต่มีข้อเสียคือใช้เวลานานในการทำให้ร้อน สิ้นเปลืองไฟฟ้า และต้องระวังความร้อนตกค้างหลังปิดเตา นอกจากนี้ การควบคุมอุณหภูมิอาจไม่แม่นยำเท่าเตาประเภทอื่น และอาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวสำหรับผู้ที่เคยใช้เตาแก๊ส

เตาไฟฟ้า (Ceramic hob)

เตาไฟฟ้าเซรามิกใช้เทคโนโลยีการทำความร้อนผ่านแผ่นกระจกเซรามิก โดยมีขดลวดความร้อนอยู่ด้านล่าง ถือเป็นการพัฒนาที่ก้าวหน้าขึ้นจากเตาเพลทร้อน เมื่อเปิดใช้งานความร้อนจะส่งผ่านแผ่นกระจกไปยังภาชนะ ข้อดีคือทำความสะอาดง่าย ดูสวยงาม ทันสมัย และสามารถใช้ภาชนะได้หลากหลายประเภท การกระจายความร้อนสม่ำเสมอกว่าเตาเพลทร้อน เหมาะสำหรับการทำอาหารที่ต้องการความร้อนคงที่ แต่ต้องระวังการกระแทกที่อาจทำให้กระจกแตกได้ การทำความสะอาดต้องใช้น้ำยาเฉพาะเพื่อไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนบนหน้าเตา

เตาแม่เหล็กไฟฟ้า (Induction)

เตาแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นนวัตกรรมล่าสุดที่ใช้หลักการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า สร้างความร้อนโดยตรงที่ก้นภาชนะ ทำให้ประหยัดพลังงานมากกว่าเตาไฟฟ้าประเภทอื่น การทำงานเกิดจากการสร้างสนามแม่เหล็กที่มีความถี่สูง เมื่อภาชนะที่มีคุณสมบัติแม่เหล็กสัมผัสกับสนามแม่เหล็กนี้จะเกิดความร้อนขึ้นทันที ให้ความร้อนรวดเร็ว ควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำ และปลอดภัยเพราะหน้าเตาไม่ร้อน เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก หรือผู้ที่ต้องการความปลอดภัยสูง การทำความสะอาดทำได้ง่ายเพราะอาหารไม่ไหม้ติดหน้าเตา แต่มีข้อจำกัดคือต้องใช้ภาชนะที่มีคุณสมบัติแม่เหล็กเท่านั้น และราคาค่อนข้างสูงกว่าเตาประเภทอื่น

วิธีเลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

วิธีเลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

การเลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่เหมาะสมนั้น เราควรพิจารณาปัจจัยหลายด้าน ทั้งขนาดพื้นที่ใช้งาน จำนวนหัวเตา กำลังไฟ และงบประมาณ นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงรูปแบบการใช้งาน ความถี่ในการทำอาหาร และประเภทอาหารที่ปรุงเป็นประจำ เพื่อให้ได้เตาที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงและคุ้มค่ากับการลงทุน

ใช้งานเตาแม่เหล็กไฟฟ้านานแค่ไหน

อายุการใช้งานของเตาแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้นอยู่กับคุณภาพการผลิตและการดูแลรักษา เตาคุณภาพดีจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือสามารถใช้งานได้นานกว่า 10 ปี การเลือกซื้อควรคำนึงถึงความถี่ในการใช้งาน หากใช้งานเป็นประจำทุกวันควรเลือกรุ่นที่มีความทนทานสูง มีระบบระบายความร้อนที่ดี และมีการรับประกันอะไหล่ที่ยาวนาน นอกจากนี้ ควรพิจารณาระบบการทำงานของเตา เช่น ระบบควบคุมอุณหภูมิ ระบบป้องกันไฟกระชาก และระบบตัดไฟอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเตาได้ดียิ่งขึ้น การดูแลรักษาที่ถูกต้อง เช่น การทำความสะอาดหลังใช้งาน การใช้ภาชนะที่เหมาะสม และการไม่วางของหนักทับบนหน้าเตา จะช่วยให้เตาใช้งานได้ยาวนานขึ้น

ฟังก์ชันการใช้งานเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

ฟังก์ชันการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ควรมีระบบตั้งเวลา ควบคุมอุณหภูมิ และระบบความปลอดภัย ระบบตั้งเวลาช่วยให้ควบคุมการทำอาหารได้แม่นยำ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารไหม้ ระบบควบคุมอุณหภูมิควรมีหลายระดับ ตั้งแต่อุ่นอาหารไปจนถึงการผัดด้วยไฟแรง ระบบความปลอดภัยควรมีทั้งระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อความร้อนสูงเกิน ระบบล็อกเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก และหน้าจอแสดงผลที่ชัดเจน บางรุ่นมีโปรแกรมทำอาหารอัตโนมัติที่ช่วยให้การปรุงอาหารง่ายขึ้น เช่น โปรแกรมต้ม ผัด ทอด หรือตุ๋น นอกจากนี้ ยังควรมีระบบตรวจจับภาชนะอัตโนมัติ และระบบแจ้งเตือนเมื่อความร้อนสูงเกินกำหนด

วัสดุของเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

วัสดุที่ใช้ผลิตเตาแม่เหล็กไฟฟ้าต้องทนทานต่อความร้อนและการใช้งานหนัก หน้าเตาควรเป็นกระจกเซรามิกคุณภาพสูง ผ่านการทดสอบการทนความร้อนและการกระแทก มีความหนาที่เหมาะสม ไม่แตกร้าวง่าย ขอบเตาควรทำจากวัสดุที่แข็งแรง เช่น สเตนเลสคุณภาพสูงที่ทนต่อความร้อนและการกัดกร่อน การเชื่อมต่อระหว่างกระจกและขอบเตาต้องแน่นหนา ไม่มีช่องว่างที่อาจทำให้น้ำหรือเศษอาหารเล็ดลอดเข้าไปด้านใน ระบบไฟฟ้าภายในต้องได้มาตรฐาน มีฉนวนกันความร้อนที่ดี และมีระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการสะสมความร้อนที่อาจทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสียหาย

ประกันและบริการหลังการขาย

การรับประกันและบริการหลังการขายเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ควรเลือกแบรนด์ที่มีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ มีการรับประกันสินค้าอย่างน้อย 1-2 ปี และมีอะไหล่พร้อมสำหรับการซ่อมบำรุงในระยะยาว การบริการหลังการขายที่ดีควรครอบคลุมทั้งการติดตั้ง การให้คำแนะนำการใช้งาน และการซ่อมบำรุง ศูนย์บริการควรมีช่างที่ผ่านการอบรมโดยตรงจากบริษัท สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว นอกจากนี้ ควรมีช่องทางติดต่อที่สะดวก เช่น สายด่วน เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน สำหรับแจ้งปัญหาและติดตามสถานะการซ่อม

สรุปบทความ

การเลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้าต้องดูวัสดุที่ทนความร้อนและมีการรับประกัน

การรู้วิธีเลือกซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่เหมาะสมจะช่วยให้การทำอาหารเป็นเรื่องง่าย ประหยัดพลังงาน และปลอดภัย สำหรับคนที่กำลังมองหาเตาไฟฟ้าหรือเตาแม่เหล็กไฟฟ้าคุณภาพสูง Tecnogas เรามีเตาแม่เหล็กไฟฟ้าผลิตจากประเทศอิตาลี ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย มาพร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน และฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ทุกการทำอาหาร ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในครัวไทย พร้อมการันตีด้วยประสบการณ์กว่า 35 ปีในประเทศไทย และมากกว่า 60 ปีในการพัฒนานวัตกรรมเครื่องครัวจากประเทศอิตาลี

วัสดุกระทะเตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบไหนใช้ได้และใช้ไม่ได้บ้าง

กระทะเตาแม่เหล็กไฟฟ้าต้องใช้วัสดุแบบไหนถึงจะใช้ได้

เตาแม่เหล็กไฟฟ้า (Induction Cooker) เป็นตัวเลือกยอดนิยมของหลาย ๆ ครัวเรือน เนื่องจากให้ความร้อนเร็ว ปลอดภัย และประหยัดพลังงาน แต่การเลือกกระทะมาใช้กับเตาประเภทนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไม่ใช่วัสดุทุกชนิดจะรองรับการทำงานของเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้ หากเลือกกระทะผิดประเภท อาจทำให้ใช้งานไม่ได้หรือทำให้ประสิทธิภาพของเตาลดลง มาดูกันว่าวัสดุกระทะเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่ใช้ได้ควรเป็นแบบไหนกัน

วิธีเลือกกระทะเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

การเลือกกระทะเตาแม่เหล็กไฟฟ้านั้นมีหลักการสำคัญที่ต้องพิจารณา เริ่มตั้งแต่การตรวจสอบสัญลักษณ์ที่ระบุว่าใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้ ไปจนถึงลักษณะทางกายภาพของกระทะ ทั้งความหนาและความเรียบของพื้นผิว เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย

กระทะมีเครื่องหมาย Induction

กระทะเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่ใช้ได้จะมีสัญลักษณ์ขดลวดหรือคำว่า Induction ติดอยู่ที่ก้นกระทะหรือบรรจุภัณฑ์ สัญลักษณ์นี้รับรองว่ากระทะผ่านการทดสอบและได้มาตรฐานสำหรับการใช้งานกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าโดยเฉพาะ การมองหาสัญลักษณ์นี้เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดในการเลือกกระทะ นอกจากนี้ ผู้ผลิตอาจระบุข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกำลังไฟและอุณหภูมิที่กระทะรองรับ ซึ่งช่วยให้เราสามารถเลือกกระทะที่เหมาะกับการใช้งานได้อย่างแม่นยำ

กระทะต้องมีความหนาพอสมควร

ความหนาของกระทะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการกระจายความร้อนและความทนทานในการใช้งาน กระทะที่เหมาะสมควรมีความหนาอย่างน้อย 2.5 มิลลิเมตร เพื่อให้สามารถกระจายความร้อนได้อย่างสม่ำเสมอและไม่บิดงอง่ายเมื่อโดนความร้อนสูง กระทะที่มีความหนามากเกินไปอาจทำให้ใช้เวลาในการทำความร้อนนานขึ้น ในขณะที่กระทะที่บางเกินไปอาจทำให้อาหารไหม้ได้ง่ายและเสียรูปทรงเร็ว การเลือกความหนาที่เหมาะสมจึงช่วยให้การทำอาหารได้ผลลัพธ์ที่ดี

กระทะต้องมีความเรียบ

พื้นผิวที่เรียบของก้นกระทะช่วยให้การถ่ายเทความร้อนเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ก้นกระทะที่เรียบสนิทกับผิวเตาจะทำให้การทำงานของเตาแม่เหล็กไฟฟ้ามีความแม่นยำและควบคุมอุณหภูมิได้ดี หากก้นกระทะไม่เรียบหรือมีรอยบุบ จะทำให้การกระจายความร้อนไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้อาหารสุกไม่เท่ากัน นอกจากนี้ ความไม่เรียบของก้นกระทะอาจทำให้กระทะโยกเยกขณะใช้งาน ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้

วัสดุที่ใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ได้

วัสดุที่ใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ได้

ไม่ใช่กระทะทุกประเภทที่สามารถใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้ วัสดุบางชนิดไม่มีคุณสมบัติทางแม่เหล็กที่จำเป็นต่อการทำงานของเตา การใช้กระทะที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เตาไม่ทำงานหรือเกิดความเสียหายได้ เราจึงควรทราบว่าวัสดุใดบ้างที่ไม่สามารถใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

กระทะเหล็กหล่อ

กระทะเหล็กหล่อแบบดั้งเดิมอาจไม่เหมาะกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า เนื่องจากพื้นผิวที่ขรุขระและไม่เรียบ ทำให้การสัมผัสกับผิวเตาไม่สมบูรณ์ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำความร้อน นอกจากนี้ น้ำหนักที่มากของกระทะเหล็กหล่ออาจทำให้ผิวเตาเป็นรอยได้ง่าย แม้ว่าเหล็กหล่อจะมีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็ก แต่การใช้งานอาจไม่สะดวกและอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเตาในระยะยาว

กระทะอะลูมิเนียม

กระทะอะลูมิเนียมทั่วไปไม่สามารถใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้ เนื่องจากอะลูมิเนียมไม่มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็ก แม้ว่าจะนำความร้อนได้ดี แต่ไม่สามารถทำงานร่วมกับระบบเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าได้ ยกเว้นกระทะอะลูมิเนียมที่มีการเคลือบก้นด้วยวัสดุที่มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็ก ซึ่งต้องระบุไว้อย่างชัดเจนว่าใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้

กระทะสเตนเลส

กระทะสเตนเลสทั่วไปไม่สามารถใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้ เนื่องจากสเตนเลสส่วนใหญ่ไม่มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็ก ยกเว้นสเตนเลสบางชนิดที่ผสมเหล็กในปริมาณสูง หรือมีการเสริมชั้นวัสดุที่เป็นแม่เหล็กที่ก้นกระทะ การเลือกกระทะสเตนเลสจึงต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รับการออกแบบมาสำหรับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าโดยเฉพาะ

กระทะทองเหลือง

กระทะทองเหลืองไม่สามารถใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้ เนื่องจากทองเหลืองเป็นโลหะผสมระหว่างทองแดงกับสังกะสี ซึ่งไม่มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็ก แม้ว่าทองเหลืองจะนำความร้อนได้ดีและเป็นที่นิยมในการทำอาหารบางประเภท แต่ไม่สามารถทำงานร่วมกับระบบเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าได้ การใช้กระทะทองเหลืองกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าจะทำให้เตาไม่ทำงาน

กระทะเคลือบ

กระทะเคลือบทั่วไปที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าโดยเฉพาะไม่สามารถใช้งานได้ เพราะวัสดุเคลือบส่วนใหญ่ไม่มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็ก แม้ว่าจะมีกระทะเคลือบบางรุ่นที่ออกแบบมาให้ใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้ โดยการเสริมชั้นวัสดุที่เป็นแม่เหล็กที่ก้นกระทะ แต่ต้องเลือกซื้อรุ่นที่ระบุไว้ชัดเจนว่าใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้เท่านั้น

วิธีเช็กกระทะที่ใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

วิธีง่าย ๆ ในการตรวจสอบว่ากระทะสามารถใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้หรือไม่ คือการนำแม่เหล็กมาทดสอบที่ก้นกระทะ หากแม่เหล็กดูดติดแสดงว่ากระทะมีคุณสมบัติที่เหมาะสม แต่หากแม่เหล็กไม่ดูดติด แสดงว่ากระทะไม่สามารถใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบความเรียบของก้นกระทะโดยวางกระทะบนพื้นผิวเรียบและดูว่ามีการโยกเยกหรือไม่ รวมถึงสังเกตความหนาของกระทะว่าเพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่ การทดสอบเหล่านี้จะช่วยให้เราเลือกกระทะที่เหมาะสมกับการใช้งานได้

สรุปบทความ 

กระทะที่ใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าต้องหนา ก้นกระทะเรียบ และทำจากแม่เหล็ก

การเลือกกระทะเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่เหมาะสมกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งวัสดุ ความหนา และความเรียบของก้นกระทะ ซึ่ง Tecnogas เรามีชุดกระทะที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าและเตาไฟฟ้าโดยเฉพาะ ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง มีความหนาที่เหมาะสม และก้นกระทะเรียบสนิท ทำให้สามารถกระจายความร้อนได้อย่างทั่วถึง การเลือกใช้กระทะที่ถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเตาและทำให้การทำอาหารได้ผลลัพธ์ที่ดี

10 วิธีทำความสะอาดห้องครัว ให้สะอาดเหมือนใหม่ ไม่มีกลิ่น

วิธีทำความสะอาดห้องครัว ให้สะอาดเหมือนใหม่

ห้องครัวเป็นพื้นที่ที่ต้องใช้งานทุกวัน ทั้งการเตรียมอาหาร ปรุงอาหาร และล้างจาน หากปล่อยให้มีคราบมัน กลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือเศษอาหารสะสม อาจทำให้ครัวดูสกปรกและเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้ การทำความสะอาดอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ครัวของเราดูใหม่อยู่เสมอและไม่มีกลิ่นกวนใจ ซึ่งวิธีทำความสะอาดห้องครัวอย่างถูกต้องจะมีวิธีอะไรบ้างไปดูกัน

10 วิธีทำความสะอาดห้องครัวตามขั้นตอน

วิธีทำความสะอาดห้องครัวให้ได้ผลดีนั้น ต้องทำตามขั้นตอนอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มจากการจัดการกับกลิ่นและอากาศ ตามด้วยการทำความสะอาดอุปกรณ์และเครื่องใช้ต่าง ๆ ก่อนจบที่การดูแลพื้นผิวทั้งหมดในห้องครัว วิธีต่อไปนี้จะช่วยให้การทำความสะอาดห้องครัวง่ายขึ้น

1. เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ

การระบายอากาศเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการทำความสะอาดห้องครัว เริ่มจากการเปิดหน้าต่างและประตูทุกบานเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก กลิ่นอาหารและความชื้นที่สะสมจะได้ระบายออกไป หากมีพัดลมดูดอากาศให้เปิดทิ้งไว้ระหว่างทำความสะอาด การระบายอากาศที่ดีจะช่วยลดกลิ่นอับชื้น และป้องกันการเกิดเชื้อราในห้องครัว นอกจากนี้ ยังช่วยให้น้ำยาทำความสะอาดระเหยได้เร็วขึ้น ทำให้พื้นผิวต่าง ๆ แห้งเร็ว ไม่เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย

2. ล้างจานและเครื่องครัว

การล้างจานและเครื่องครัวที่ค้างในซิ้งค์ล้างจานให้สะอาดเป็นพื้นฐานสำคัญของห้องครัวที่น่าใช้งาน เริ่มจากการแยกประเภทภาชนะ ทั้งจาน ชาม แก้วน้ำ และเครื่องครัวต่าง ๆ จากนั้นล้างด้วยน้ำยาล้างจานที่มีคุณสมบัติตัดคราบมัน ขัดถูให้ทั่วด้วยฟองน้ำหรือแปรงที่เหมาะกับวัสดุแต่ละชนิด ล้างน้ำให้สะอาด และเช็ดให้แห้งทันที อย่าปล่อยให้มีน้ำขังในภาชนะเพราะจะทำให้เกิดคราบน้ำและกลิ่นอับ จัดเก็บในที่แห้งและอากาศถ่ายเทได้ดี

3. ทำความสะอาดเตา

เตาแก๊สเป็นจุดที่มักมีคราบมันและคราบอาหารสะสม ถอดหัวเตาและตะแกรงออกมาแช่ในน้ำผสมน้ำยาล้างจาน ใช้แปรงขัดคราบสกปรกออกให้หมด เช็ดพื้นผิวเตาด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะกับวัสดุ หากเป็นเตาแก๊สกระจก ให้ใช้น้ำยาเฉพาะสำหรับกระจกเพื่อไม่ให้เกิดรอยขีดข่วน เช็ดให้แห้งและประกอบกลับเข้าที่ ตรวจสอบว่าทุกชิ้นส่วนประกอบแน่นหนาดีเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

4. ทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ

เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว เช่น ไมโครเวฟ เครื่องปั่น หม้อหุงข้าว ต้องได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี ถอดปลั๊กและรอให้เครื่องเย็นลงก่อนทำความสะอาด ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ เช็ดภายนอก สำหรับภายในไมโครเวฟ ให้ใช้น้ำผสมน้ำส้มสายชูอุ่นในไมโครเวฟเพื่อไอน้ำช่วยละลายคราบ แล้วเช็ดออกด้วยผ้าสะอาด ส่วนเครื่องปั่นและหม้อหุงข้าว ล้างส่วนที่ถอดได้ด้วยน้ำยาล้างจาน เช็ดให้แห้งสนิทก่อนประกอบกลับ

5. ทำความสะอาดอ่างล้างจาน

ทำความสะอาดอ่างล้างจาน

อ่างล้างจานเป็นจุดที่ต้องดูแลเป็นพิเศษเพราะเป็นที่สะสมของเศษอาหารและคราบมัน เริ่มจากการกำจัดเศษอาหารในตะแกรงกรอง ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อขัดทั้งภายในอ่างและบริเวณรอบ ๆ หากมีคราบหินปูน ใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำอุ่นแช่ทิ้งไว้ แล้วขัดออก ล้างน้ำให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง อย่าลืมทำความสะอาดก๊อกน้ำและท่อระบายน้ำด้วย

6. เช็ดผนังที่มีคราบอาหารกระเด็น

ผนังห้องครัวมักมีคราบน้ำมันและอาหารกระเด็น โดยเฉพาะบริเวณใกล้เตาและอ่างล้างจาน ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะกับวัสดุผนัง เช่น กระเบื้อง หรือสีทาผนัง เช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ จากบนลงล่าง สำหรับคราบมันที่ฝังแน่น อาจใช้น้ำยาขจัดคราบมันโดยเฉพาะ แต่ต้องทดสอบบนพื้นที่เล็ก ๆ ก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ทำลายพื้นผิว เช็ดให้แห้งเพื่อป้องกันความชื้นสะสม

7. จัดระเบียบตู้เย็น

การจัดระเบียบตู้เย็นเริ่มจากการนำอาหารทั้งหมดออก ตรวจสอบวันหมดอายุและคัดแยกอาหารที่เสีย ถอดชั้นวางและลิ้นชักออกมาล้างด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานอ่อน ๆ เช็ดภายในตู้เย็นด้วยน้ำผสมเบกกิ้งโซดาเพื่อดับกลิ่น รอให้แห้งสนิท จัดวางอาหารกลับเข้าที่โดยแยกประเภทให้เป็นระเบียบ วางอาหารที่ต้องใช้ก่อนไว้ด้านหน้า เพื่อป้องกันการลืมจนอาหารเสีย

8. ทำความสะอาดช่องแช่แข็ง

ช่องแช่แข็งต้องละลายน้ำแข็งและทำความสะอาดเป็นระยะ นำอาหารออกและเก็บในกล่องแช่เย็นชั่วคราว ปิดตู้เย็นและถอดปลั๊ก รอให้น้ำแข็งละลายเอง อย่าใช้ของมีคมแงะน้ำแข็ง เช็ดน้ำที่ละลายด้วยผ้าแห้ง ทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำยาทำความสะอาดอ่อน ๆ เช็ดให้แห้งสนิท เปิดตู้เย็นและรอให้อุณหภูมิลดลงก่อนนำอาหารกลับเข้าไป

9. กวาดพื้นและทิ้งขยะ

กวาดเศษอาหารและฝุ่นทั้งหมด โดยเฉพาะตามซอกมุมและใต้เครื่องใช้ต่าง ๆ แยกขยะเปียกและขยะแห้ง ทิ้งขยะในถุงที่แน่นหนาและมัดปากถุงให้แน่น นำไปทิ้งในที่ที่จัดไว้ ล้างถังขยะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและตากให้แห้ง ใส่ถุงขยะใหม่เพื่อพร้อมใช้งาน การจัดการขยะที่ดีจะช่วยป้องกันกลิ่นและแมลงรบกวน

10. ถูพื้นห้องครัว

การถูพื้นเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำความสะอาด โดยใช้น้ำยาถูพื้นที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อผสมน้ำตามสัดส่วนที่กำหนด เริ่มถูจากมุมที่ไกลที่สุดและถอยหลังมาทางประตู เพื่อไม่ให้เดินย้ำบนพื้นที่เพิ่งถู เปลี่ยนน้ำเมื่อเห็นว่าสกปรก ถูซ้ำด้วยน้ำสะอาดเพื่อล้างน้ำยา เช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด หรือปล่อยให้แห้งเองโดยเปิดพัดลมช่วย

สรุปบทความ

การทำความสะอาดห้องครัวจะช่วยให้ห้องครัวน่าใช้งานและปลอดภัย

วิธีทำความสะอาดห้องครัวที่ถูกต้องจะช่วยให้ห้องครัวน่าใช้งานและปลอดภัย แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลามานั่งทำความสะอาดทั้งหมด เราสามารถใช้ตัวช่วยอย่างเครื่องล้างจานคุณภาพดีใช้งานง่ายจาก Tecnogas เพื่อช่วยประหยัดเวลาในการล้างภาชนะ ทำให้การทำความสะอาดห้องครัวสะดวกและเร็วขึ้น

12 วิธีกำจัดคราบมันในห้องครัว ทำง่ายและเร็วด้วยของใช้ใกล้ตัว

12 วิธีกำจัดคราบมันในห้องครัว ทำง่ายและเร็วด้วยของใช้ใกล้ตัว

คราบมันในห้องครัวเป็นปัญหากวนใจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นคราบน้ำมันที่กระเด็นจากการทอดอาหาร คราบเหนียวตามเตาแก๊ส หรือคราบฝังแน่นบนพื้นผิวต่าง ๆ หากปล่อยไว้นานจะยิ่งทำความสะอาดยาก แต่ไม่ต้องกังวลไปเราสามารถกำจัดคราบมันได้ง่าย ๆ ด้วยของใช้ในบ้านที่หาได้ใกล้ตัว ซึ่งจะมีวิธีอะไรบ้างไปดูกัน

12 วิธีกำจัดคราบมันในห้องครัว

วิธีทำความสะอาดที่เราจะแนะนำต่อไปนี้จะช่วยให้การกำจัดคราบมันและทำความสะอาดห้องครัวเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์ในครัวได้อีกด้วย

1. ใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำอุ่น

น้ำส้มสายชูเป็นตัวช่วยธรรมชาติที่ดีในการกำจัดคราบมันเหนียว ด้วยความเป็นกรดอ่อน ๆ จะช่วยสลายคราบมันได้อย่างอ่อนโยน เราสามารถผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำอุ่นในอัตราส่วน 1:1 แล้วใส่ในขวดสเปรย์ ฉีดพ่นบริเวณที่มีคราบมัน ทิ้งไว้ 5-10 นาที จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาด วิธีนี้เหมาะสำหรับคราบมันบนพื้นผิวหลายประเภท ทั้งกระเบื้อง สแตนเลส หรือพื้นผิวเคลือบ แต่ควรระวังการใช้กับพื้นผิวหินอ่อนหรือหินแกรนิต เพราะความเป็นกรดอาจทำให้พื้นผิวเสียหายได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทำความสะอาดเครื่องดูดควันได้ดี แต่ต้องเช็ดออกให้หมดเพื่อป้องกันกลิ่นตกค้าง

2. เบกกิ้งโซดาและน้ำเปล่า

เบกกิ้งโซดาเป็นสารทำความสะอาดอเนกประสงค์ที่มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อน ๆ สามารถขจัดคราบมันได้ดี โดยวิธีใช้ให้นำเบกกิ้งโซดามาผสมกับน้ำเปล่าให้ข้น ๆ ทาลงบนบริเวณที่มีคราบมัน แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้เบกกิ้งโซดาดูดซับคราบมัน จากนั้นใช้ฟองน้ำหรือผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดออก สำหรับคราบมันฝังแน่น อาจต้องทำซ้ำ 2-3 ครั้ง วิธีนี้ปลอดภัยกับทุกพื้นผิว ไม่ทำลายวัสดุ และไม่ทิ้งกลิ่นตกค้าง เหมาะสำหรับทำความสะอาดเตาแก๊ส อ่างล้างจาน และพื้นผิวในครัวทั่วไป

3. น้ำมะนาวขจัดคราบมัน

น้ำมะนาวมีกรดซิตริกธรรมชาติที่ช่วยย่อยสลายคราบมันได้ดี เพียงนำน้ำมะนาวสด ๆ มาคั้น ผสมกับน้ำอุ่นในอัตราส่วน 1:2 ใส่ในขวดสเปรย์ ฉีดพ่นบริเวณที่มีคราบมัน ปล่อยทิ้งไว้ 10 นาที แล้วใช้ผ้าเช็ดออก น้ำมะนาวยังมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรคและให้กลิ่นหอมสดชื่น แต่ควรระวังการใช้กับพื้นผิวที่เป็นหินธรรมชาติ เพราะความเป็นกรดอาจกัดกร่อนได้ วิธีนี้เหมาะสำหรับทำความสะอาดพื้นผิวสแตนเลส กระเบื้อง และเครื่องใช้ในครัวทั่วไป

4. ใช้แป้งข้าวโพดดูดซับคราบมัน

แป้งข้าวโพดเป็นตัวดูดซับคราบมันธรรมชาติที่ใช้ได้ผลดี โดยเฉพาะกับคราบมันใหม่ที่ยังไม่แห้งติดแน่น วิธีใช้เพียงโรยแป้งข้าวโพดลงบนคราบมัน ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีให้แป้งดูดซับน้ำมัน จากนั้นใช้ไม้กวาดหรือเครื่องดูดฝุ่นดูดออก สำหรับคราบที่แห้งแล้ว ให้พ่นน้ำอุ่นเล็กน้อยก่อนโรยแป้ง จะช่วยให้การดูดซับดีขึ้น วิธีนี้เหมาะกับพื้นครัว พื้นผิวเรียบ และเฟอร์นิเจอร์ไม้ เพราะไม่ทำให้พื้นผิวเสียหายและไม่ทิ้งคราบ

5. ใช้น้ำยาล้างจานผสมเบกกิ้งโซดา

การผสมน้ำยาล้างจานกับเบกกิ้งโซดาเป็นสูตรที่ช่วยขจัดคราบมันได้ดีเยี่ยม โดยผสมน้ำยาล้างจาน 2 ช้อนโต๊ะกับเบกกิ้งโซดา 1 ถ้วย และน้ำอุ่นเล็กน้อยให้เป็นเพสต์ นำมาทาบริเวณที่มีคราบ ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วใช้ฟองน้ำถูเบา ๆ ล้างออกด้วยน้ำสะอาด วิธีนี้เหมาะกับพื้นผิวที่ทนความเป็นด่าง เช่น กระเบื้อง สแตนเลส หรือพื้นซีเมนต์ แต่ไม่ควรใช้กับพื้นผิวที่เป็นหินธรรมชาติ

6. น้ำมันพืชกำจัดคราบมันเก่า

น้ำมันพืชกำจัดคราบมันเก่า

แม้จะฟังดูแปลกแต่การใช้น้ำมันพืชสามารถกำจัดคราบมันเก่าได้ดี ตามหลักน้ำมันละลายน้ำมันให้ทาน้ำมันพืชบาง ๆ บนคราบมันเก่า ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำอุ่นเช็ดออก วิธีนี้จะช่วยให้คราบมันเก่าอ่อนตัวและหลุดออกง่ายขึ้น เหมาะสำหรับคราบมันที่แห้งแข็งบนพื้นผิวแข็ง เช่น เตาแก๊ส กระเบื้อง หรือสแตนเลส

7. ใช้หนังสือพิมพ์และน้ำสบู่

หนังสือพิมพ์เป็นตัวช่วยที่น่าแปลกใจในการกำจัดคราบมัน เพราะเนื้อกระดาษมีคุณสมบัติดูดซับน้ำมันได้ดี วิธีใช้ให้ผสมน้ำสบู่กับน้ำอุ่นให้เป็นฟอง แล้วนำหนังสือพิมพ์ชุบน้ำสบู่วางทาบบนคราบมัน ทิ้งไว้ 15-20 นาที จากนั้นใช้หนังสือพิมพ์แห้งเช็ดซ้ำอีกครั้ง วิธีนี้เหมาะกับการทำความสะอาดพื้นผิวเรียบ โดยเฉพาะกระจกหรือสแตนเลสที่มีคราบมันฝังแน่น แต่ควรระวังไม่ให้หมึกพิมพ์ติดบนพื้นผิวสีอ่อน

8. เกลือ

เกลือเป็นสารขัดถูธรรมชาติที่ช่วยขจัดคราบมันได้อย่างออกดี นำเกลือหยาบมาผสมกับน้ำอุ่นเล็กน้อยให้เป็นเพสต์ ทาลงบนคราบมัน ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วใช้ฟองน้ำถูเบา ๆ ล้างออกด้วยน้ำสะอาด เกลือจะช่วยดูดซับน้ำมันและขัดคราบออกอย่างอ่อนโยน เหมาะสำหรับพื้นผิวที่ทนการขัดถู เช่น กระทะเหล็ก เตาแก๊ส หรือพื้นกระเบื้อง แต่ไม่ควรใช้กับพื้นผิวที่ขัดง่ายเพราะอาจเกิดรอยขีดข่วน

9. น้ำร้อน

น้ำร้อนเป็นวิธีพื้นฐานแต่ได้ผลดีในการละลายคราบมัน โดยเฉพาะในบริเวณที่เข้าถึงยาก เช่น ท่อระบายน้ำหรือซอกมุม ให้ต้มน้ำให้เดือดแล้วเทลงบนคราบมัน ทิ้งไว้สักครู่ให้ความร้อนละลายไขมัน จากนั้นใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง วิธีนี้เหมาะสำหรับท่อระบายน้ำในอ่างล้างจาน พื้นกระเบื้อง และพื้นผิวที่ทนความร้อน แต่ต้องระวังการสัมผัสน้ำร้อนโดยตรง

10. ผงซักฟอก

ผงซักฟอกมีคุณสมบัติในการขจัดคราบมันได้ดีเยี่ยม เพราะมีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยสลายไขมัน วิธีใช้ให้ผสมผงซักฟอกกับน้ำอุ่นให้เป็นน้ำยาเข้มข้น นำผ้าสะอาดชุบน้ำยาเช็ดบริเวณที่มีคราบ ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดออก ทำซ้ำจนคราบหลุดออกหมด จากนั้นเช็ดให้แห้ง วิธีนี้เหมาะกับพื้นผิวที่ทนด่าง เช่น กระเบื้อง พื้นซีเมนต์ แต่ควรระวังการใช้กับพื้นผิวที่มีสีหรือลวดลาย

11. ทรายแมว

ทรายแมวไม่เพียงใช้สำหรับสัตว์เลี้ยง แต่ยังเป็นตัวดูดซับคราบมันที่ดี ด้วยคุณสมบัติการดูดซับสูง วิธีใช้ให้โรยทรายแมวลงบนคราบมันที่หกใหม่ ๆ ทิ้งไว้ 30 นาทีให้ดูดซับ แล้วกวาดหรือดูดออก จากนั้นใช้น้ำยาทำความสะอาดเช็ดอีกครั้ง วิธีนี้เหมาะสำหรับคราบมันบนพื้นครัว พรม หรือพื้นผิวที่ดูดซับ แต่ต้องระวังไม่ให้ทรายแมวเข้าไปอุดตันท่อระบายน้ำ

12. น้ำยาขจัดคราบมัน

น้ำยาขจัดคราบมันสำเร็จรูปเป็นทางเลือกที่สะดวกและรวดเร็ว มีส่วนผสมเฉพาะสำหรับการกำจัดคราบมันโดยตรง วิธีใช้ให้ฉีดน้ำยาลงบนคราบ ทิ้งไว้ตามเวลาที่ระบุบนฉลาก แล้วเช็ดออกด้วยผ้าสะอาด สำหรับคราบฝังแน่นอาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง ควรเลือกน้ำยาที่เหมาะกับพื้นผิว และทดสอบบนพื้นที่เล็ก ๆ ก่อนใช้งานจริง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

สรุปบทความ

การกำจัดคราบมันเลือกใช้ตามความเหมาะสมของพื้นผิวและประเภทของคราบมัน

การทำความสะอาดห้องครัวให้ปราศจากคราบมันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วย 12 วิธีกำจัดคราบมันที่แนะนำไป สามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมของพื้นผิวและประเภทของคราบมัน แต่หากเราใช้เครื่องครัวที่มีพื้นผิวดีก็จะช่วยให้การทำความสะอาดง่ายขึ้น สำหรับใครที่อยากได้เครื่องครัวคุณภาพดี Tecnogas เรามีเตาแก๊สอินฟาเรดและเตาแก๊สแบบตั้งโต๊ะที่มีพื้นผิวที่ได้รับการออกแบบให้ทำความสะอาดง่าย ทนต่อคราบมัน และรักษาความสวยงามได้ยาวนาน

วิธีจัดห้องครัวร้านอาหารขนาดเล็กให้ครบทุกฟังก์ชันการใช้งาน

ครัวร้านอาหารขนาดเล็กจัดอย่างไรให้มีพื้นที่ใช้งาน

การเปิดร้านอาหารขนาดเล็กเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ แต่ปัญหาที่มักพบคือพื้นที่ครัวร้านอาหารขนาดเล็กมีจำกัด ส่งผลต่อการจัดวางอุปกรณ์และการทำงาน  ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพอาหารและการให้บริการ เราจึงต้องวางแผนจัดการพื้นที่อย่างรอบคอบ เพื่อให้ครัวร้านอาหารของเราสามารถรองรับการทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะมีวิธีจัดร้านอย่างไรบ้างไปดูกัน

ข้อจำกัดของครัวร้านอาหารขนาดเล็ก

ครัวร้านอาหารขนาดเล็กที่มีพื้นที่จำกัดเป็นอุปสรรคสำคัญในการทำงาน ทั้งการเคลื่อนไหว การจัดวางอุปกรณ์ และการจัดการกับกลิ่นอาหาร ซึ่งแต่ละข้อจำกัดส่งผลกับร้านอาหารดังนี้

ไม่สะดวกในการใช้งาน

พื้นที่แคบทำให้การเคลื่อนไหวในครัวเป็นไปอย่างลำบาก พนักงานต้องระมัดระวังในการเดินสวนกัน โดยเฉพาะเวลาถือของร้อนหรืออุปกรณ์มีคม การที่ต้องเอื้อมหยิบของหรือก้มเก็บอุปกรณ์บ่อยครั้งทำให้เกิดความเมื่อยล้าได้ง่าย การจัดวางที่ไม่เป็นระเบียบยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ระยะห่างระหว่างโต๊ะทำงานและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่แคบเกินไปทำให้การหยิบจับและเคลื่อนย้ายวัตถุดิบหรืออุปกรณ์ทำได้ยาก ส่งผลให้การทำงานล่าช้าและเกิดความเครียดในช่วงเวลาเร่งด่วน

จำนวนพนักงานในครัว

ด้วยพื้นที่จำกัดทำให้ไม่สามารถรับพนักงานครัวได้มาก ส่งผลให้การทำงานในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเป็นไปด้วยความยากลำบาก พนักงานต้องรับผิดชอบหลายหน้าที่พร้อมกัน ทั้งการปรุงอาหาร ล้างจาน และจัดเตรียมวัตถุดิบ การขาดแคลนพนักงานทำให้การแบ่งงานไม่เหมาะสม บางคนต้องรับภาระงานมากเกินไป ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและความพึงพอใจของลูกค้า นอกจากนี้ การที่พนักงานต้องทำงานหลายอย่างพร้อมกันยังเพิ่มโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาดระหว่างการทำงาน

วางเครื่องครัวได้น้อย

ข้อจำกัดด้านพื้นที่ส่งผลให้ไม่สามารถติดตั้งอุปกรณ์ครัวได้ครบตามที่ต้องการ ต้องเลือกใช้เฉพาะอุปกรณ์ที่จำเป็น ทำให้เมนูอาหารที่สามารถทำได้มีจำนวนจำกัด การขาดอุปกรณ์บางอย่างอาจทำให้ต้องใช้วิธีการทำอาหารที่ยุ่งยากหรือใช้เวลานานขึ้น ส่งผลต่อความรวดเร็วในการให้บริการ การขาดพื้นที่จัดเก็บวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่เพียงพอยังทำให้ต้องสั่งซื้อวัตถุดิบบ่อยครั้ง เพิ่มต้นทุนในการดำเนินงาน และอาจต้องปฏิเสธออเดอร์พิเศษที่ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะ

ครัวมีกลิ่นอาหาร

พื้นที่แคบทำให้การระบายอากาศเป็นไปได้ยาก กลิ่นอาหารจึงสะสมในครัว ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงาน และอาจรบกวนลูกค้าที่นั่งใกล้ครัว ความชื้นจากการปรุงอาหารยังทำให้เกิดเชื้อราบนผนัง ควันและไอร้อนที่ไม่สามารถระบายออกได้อย่างเพียงพอทำให้อุณหภูมิในครัวสูงขึ้น ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมในการทำงาน และอาจทำให้อาหารสดเสื่อมคุณภาพเร็วขึ้น

เคล็ดลับจัดห้องครัวร้านอาหารขนาดเล็กให้ใช้งานสะดวก

เคล็ดลับจัดห้องครัวร้านอาหารขนาดเล็กให้ใช้งานสะดวก

เราสามารถแก้ไขข้อจำกัดของครัวร้านอาหารขนาดเล็กได้ด้วยการจัดการพื้นที่อย่างชาญฉลาด เน้นการเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม และการจัดวางที่เอื้อต่อการทำงาน ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งาน ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับพนักงาน

หน้าต่างห้องครัวขนาดเล็กต้องเปิดโล่งได้

การติดตั้งหน้าต่างบานเลื่อนหรือบานเปิดขนาดใหญ่ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี ลดการสะสมของกลิ่นและความร้อน ควรติดตั้งในตำแหน่งที่ลมพัดผ่านและไม่มีสิ่งกีดขวาง ขนาดของหน้าต่างควรกว้างพอที่จะช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ ช่วยประหยัดพลังงานในการใช้ไฟฟ้า การติดตั้งมุ้งลวดและผ้าม่านช่วยป้องกันแมลงและควบคุมแสงแดด สำหรับครัวที่อยู่ชั้นบนอาจพิจารณาติดตั้งหน้าต่างแบบดันขึ้นเพื่อประหยัดพื้นที่

ใช้อุปกรณ์ขนาดกะทัดรัด

เลือกใช้อุปกรณ์ครัวที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ เช่น เตาแก๊สแบบตั้งโต๊ะ ตู้เย็นขนาดกลาง หรืออ่างล้างจานแบบชั้นเดียว ควรเลือกอุปกรณ์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย เช่น เตาอบที่สามารถอบ ย่าง และนึ่งได้ในเครื่องเดียว หรือเครื่องปั่นอเนกประสงค์ การเลือกอุปกรณ์ที่มีล้อช่วยให้เคลื่อนย้ายและทำความสะอาดได้สะดวก วัสดุควรทนทานและง่ายต่อการดูแลรักษา

เพิ่มพื้นที่จัดเก็บแนวตั้ง

การใช้ประโยชน์จากพื้นที่แนวตั้งช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บโดยไม่รบกวนพื้นที่ทำงาน ติดตั้งชั้นวางของแบบลอย ราวแขวนอุปกรณ์ หรือตู้แขวนผนัง โดยจัดวางตามความถี่ในการใช้งาน ของที่ใช้บ่อยควรอยู่ในระดับสายตาหรือเอื้อมถึงได้ง่าย ส่วนของที่ใช้นาน ๆ ครั้งเก็บไว้ชั้นบนสุด การเลือกใช้ชั้นวางที่ปรับระดับได้ช่วยให้จัดเก็บอุปกรณ์ได้หลากหลายขนาด

ออกแบบครัวร้านอาหาร รูปตัว I

การจัดวางครัวแบบตัว I เหมาะสำหรับพื้นที่แคบ โดยจัดเรียงอุปกรณ์ตามลำดับขั้นตอนการทำอาหาร เริ่มจากพื้นที่เตรียมวัตถุดิบ โซนปรุงอาหาร และพื้นที่จัดจาน รูปแบบนี้ช่วยให้การทำงานเป็นระบบ ลดการเดินไปมา และป้องกันการชนกันระหว่างพนักงาน การจัดวางอุปกรณ์ตามความถี่ในการใช้งานช่วยเพิ่มความสะดวกและลดเวลาในการทำงาน

ติดตั้งระบบระบายอากาศที่ดี

เครื่องดูดควันเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยกำจัดกลิ่นและควันในครัวขนาดเล็ก ควรเลือกรุ่นที่มีกำลังดูดเหมาะสมกับขนาดพื้นที่ และติดตั้งให้ครอบคลุมบริเวณประกอบอาหาร ตำแหน่งการติดตั้งควรอยู่เหนือเตาและอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดควัน นอกจากนี้ การติดตั้งพัดลมระบายอากาศเพิ่มเติมช่วยให้การหมุนเวียนอากาศดีขึ้น ลดความร้อนและความชื้นในครัว

สรุปบทความ

การจัดการพื้นที่ครัวขนาดเล็กที่ดีจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและพื้นที่ในร้านได้

การจัดการพื้นที่ครัวขนาดเล็กอย่างเหมาะสมช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานได้ สำหรับเจ้าของร้านที่กำลังมองหา Tecnogas เราเครื่องครัวยุโรปขนาดกะทัดรัดหลากหลายแบบและครบครันด้านฟังก์ชันการใช้งาน โดยเฉพาะเครื่องดูดควันที่ช่วยกำจัดกลิ่นและควันได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับการติดตั้งในครัวขนาดเล็กที่ต้องการความ

การออกแบบครัวร้านอาหารให้เหมาะกับขนาดครัว ตอบโจทย์เชฟมืออาชีพ

การออกแบบครัวร้านอาหารให้เหมาะกับขนาดครัว ตอบโจทย์เชฟมืออาชีพ

การออกแบบครัวร้านอาหารที่ดีต้องคำนึงถึงการใช้งานจริงและพื้นที่ที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางอุปกรณ์เครื่องครัว ระบบระบายอากาศ หรือพื้นที่สำหรับพนักงาน ทั้งหมดนี้ส่งผลต่อการทำงานของเชฟและทีมครัว การออกแบบที่เหมาะสมจะช่วยให้การทำอาหารราบรื่น รวดเร็ว และสะดวกต่อการใช้งาน

ขนาดครัวมีผลกับการออกแบบครัวร้านอาหารอย่างไร

ขนาดของครัวเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดรูปแบบการจัดวางและการเลือกใช้อุปกรณ์ การออกแบบครัวร้านอาหารที่ดีจะช่วยให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดโซนการทำงาน การเลือกขนาดอุปกรณ์ หรือการจัดระเบียบพื้นที่สำหรับการเก็บวัตถุดิบ

1. กำหนดฟังก์ชันและการใช้งานพื้นที่

การแบ่งโซนการทำงานในครัวเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร้านอาหารทุกขนาด เริ่มจากการกำหนดพื้นที่เตรียมวัตถุดิบ โซนปรุงอาหาร พื้นที่จัดเพลท และส่วนล้างทำความสะอาด แต่ละโซนควรมีขนาดที่เหมาะสมกับปริมาณงาน และเชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบ การจัดวางที่ดีจะช่วยลดการเคลื่อนที่ที่ไม่จำเป็น และเพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน นอกจากนี้ ควรเผื่อพื้นที่สำหรับการขยายกิจการในอนาคต โดยเฉพาะส่วนเก็บวัตถุดิบและอุปกรณ์เสริม

2. เลือกอุปกรณ์และเครื่องครัว

การเลือกอุปกรณ์ครัวต้องสอดคล้องกับเมนูอาหารและปริมาณการผลิต เตาแก๊สควรมีกำลังไฟที่เหมาะสม และมีจำนวนหัวเตาที่เพียงพอ ตู้แช่ควรมีขนาดที่รองรับวัตถุดิบได้เพียงพอสำหรับการใช้งานอย่างน้อย 1 วัน เครื่องครัวควรเลือกแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์ทุกชิ้นควรมีขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่และสะดวกต่อการทำความสะอาด

3. การระบายอากาศและระบบความปลอดภัย

ระบบระบายอากาศที่ดีเป็นหัวใจสำคัญของครัวร้านอาหาร ควรติดตั้งเครื่องดูดควันที่มีกำลังเหมาะสมกับพื้นที่ และวางตำแหน่งให้ครอบคลุมบริเวณประกอบอาหาร ระบบปรับอากาศควรแยกส่วนกับพื้นที่รับประทานอาหาร เพื่อป้องกันกลิ่นรบกวน ส่วนระบบดับเพลิงต้องติดตั้งให้ครอบคลุมและเข้าถึงได้ง่าย พร้อมติดตั้งสัญญาณเตือนควันและความร้อน การวางถังดับเพลิงควรอยู่ในตำแหน่งที่หยิบใช้ได้สะดวกเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

4. งบประมาณในการก่อสร้างและตกแต่ง

การจัดสรรงบประมาณสำหรับการออกแบบครัวร้านอาหารต้องครอบคลุมทั้งค่าก่อสร้าง อุปกรณ์ และการตกแต่ง ควรแบ่งสัดส่วนงบประมาณให้เหมาะสม โดยให้ความสำคัญกับอุปกรณ์หลักที่ใช้งานประจำ เช่น เตาแก๊ส เตาอบ และระบบระบายอากาศ การเลือกวัสดุปูพื้นและผนังควรคำนึงถึงความทนทานและการทำความสะอาด รวมถึงการวางระบบไฟฟ้าและประปาที่ได้มาตรฐาน

5. ความคล่องตัวของพนักงาน

พื้นที่ทางเดินในครัวควรกว้างพอสำหรับพนักงาน 2 คนสวนกันได้ ระยะห่างระหว่างเคาน์เตอร์ควรเหมาะสมกับการทำงาน ไม่แคบหรือกว้างจนเกินไป ควรมีพื้นที่สำหรับวางถาดอาหารและอุปกรณ์ชั่วคราว การจัดวางอุปกรณ์ควรคำนึงถึงลำดับการทำงาน เพื่อลดการเคลื่อนที่ที่ไม่จำเป็น และป้องกันอุบัติเหตุจากการชนกันของพนักงาน

การออกแบบครัวร้านอาหารให้เหมาะกับขนาดครัว

การออกแบบครัวร้านอาหารให้เหมาะกับขนาดครัว

การออกแบบครัวต้องคำนึงถึงขนาดพื้นที่ที่มี เพื่อให้การใช้งานเกิดประโยชน์สูงสุด แต่ละขนาดมีข้อจำกัดและความท้าทายที่แตกต่างกัน การเลือกอุปกรณ์และการจัดวางต้องสอดคล้องกับพื้นที่ที่มี

ขนาดเล็ก

ครัวขนาดเล็กต้องเน้นการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า เลือกอุปกรณ์แบบ Built-in หรือแบบตั้งซ้อนได้ เช่น ชั้นวางของแบบติดผนัง เตาแก๊สแบบตั้งโต๊ะที่สามารถเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน การจัดวางควรเป็นแบบตัว L หรือ U เพื่อให้มีพื้นที่ทำงานต่อเนื่อง และประหยัดพื้นที่ การเลือกอุปกรณ์ควรเน้นแบบอเนกประสงค์ที่ใช้งานได้หลากหลาย

ขนาดกลาง

ครัวขนาดกลางสามารถจัดสรรพื้นที่ได้ยืดหยุ่นกว่า สามารถแบ่งโซนการทำงานได้ชัดเจน มีพื้นที่สำหรับอุปกรณ์เฉพาะทาง เช่น เตาย่าง เตาทอด การจัดวางสามารถทำได้หลายรูปแบบ ทั้งแบบเป็นเกาะกลาง หรือแบบขนานกัน เพื่อให้พนักงานทำงานได้พร้อมกันหลายคน

ขนาดใหญ่

ครัวขนาดใหญ่เหมาะสำหรับร้านอาหารที่มีเมนูหลากหลายและปริมาณลูกค้ามาก สามารถแบ่งโซนได้อย่างชัดเจน มีพื้นที่สำหรับเก็บวัตถุดิบ และอุปกรณ์ขนาดใหญ่ การจัดวางควรคำนึงถึงระยะการเดินของพนักงาน และการขนส่งวัตถุดิบ ควรมีทางเข้าออกหลายทาง เพื่อความสะดวกในการทำงาน

สรุปบทความ

การออกแบบครัวร้านอาหารที่ดีต้องเหมาะกับพื้นที่และความต้องการใช้งาน

การออกแบบครัวร้านอาหารที่ดีต้องเริ่มจากการวิเคราะห์พื้นที่และความต้องการใช้งาน สำหรับคนที่มองหา เครื่องครัวคุณภาพดีหลากหลายขนาด Tecnogas เรามีเครื่องครัวยุโรปช่วยตอบโจทย์การทำงานในครัวทุกขนาดทั้งร้านขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ ด้วยดีไซน์ที่ประหยัดพื้นที่ และเครื่องดูดควันที่มีประสิทธิภาพสูงช่วยให้การทำงานในครัวดีมากยิ่งขึ้น

วิธีเลือกเครื่องครัวคอนโดอย่างไรให้โมเดิร์นทันสมัย

เครื่องครัวคอนโดเลือกอย่างไรให้โมเดิร์น

การอยู่คอนโดในปัจจุบันไม่ใช่แค่เรื่องที่พักอาศัย แต่ยังต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เครื่องครัวคอนโดจึงต้องผสมผสานระหว่างฟังก์ชันการใช้งานและความสวยงาม ทั้งยังต้องจัดสรรพื้นที่อย่างลงตัว วันนี้เราจึงมีไอเดียวิธีเลือกเครื่องครัวที่ทำให้ครัวคอนโดดูโมเดิร์นสวยงามและใช้งานได้ดีมาฝากกัน

เครื่องครัวคอนโดที่ควรมี

เครื่องครัวคอนโดที่ดีต้องตอบโจทย์การใช้งานในพื้นที่จำกัด ทั้งความสะดวก ความปลอดภัย และการดูแลรักษาง่าย โดยก่อนที่เราจะไปดูวิธีเลือกเครื่องครัวคอนโดโมเดิร์นกันนั้น เราไปดู 5 อุปกรณ์สำคัญที่ควรมีในครัวคอนโดสมัยใหม่กันก่อน

เครื่องดูดควัน

เครื่องดูดควันเป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับครัวคอนโด เพราะช่วยกำจัดกลิ่นและควันจากการทำอาหาร รุ่นใหม่มาพร้อมระบบกรองไขมันและกลิ่นแบบอัตโนมัติ ทำงานเงียบ เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่จำกัด ควรเลือกรุ่นที่มีกำลังดูดเหมาะสมกับขนาดห้องครัว ระบบควบคุมแบบสัมผัส และไฟส่องสว่างแบบ LED ที่ช่วยประหยัดพลังงาน บางรุ่นมีระบบตรวจจับควันอัตโนมัติ ปรับระดับความแรงตามปริมาณควัน ทำให้การทำอาหารสะดวกยิ่งขึ้น

ตู้เย็น

ตู้เย็นสำหรับคอนโดควรมีพื้นที่จัดเก็บเพียงพอสำหรับวัตถุดิบหลายวัน ซึ่งตู้เย็นรุ่นใหม่จะมาพร้อมระบบถนอมอาหารทันสมัย ช่องแช่แข็งแยกส่วน และชั้นวางปรับระดับได้ ควรเลือกรุ่นที่มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ ประตูปิดสนิท และระบบแจ้งเตือนเมื่อประตูปิดไม่สนิท บางรุ่นมีช่องแช่พิเศษสำหรับผักและผลไม้ ช่วยรักษาความสดได้นานขึ้น รวมถึงระบบกระจายความเย็นที่ทั่วถึง

เตาไฟฟ้า

เตาไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการทำอาหารในคอนโด ด้วยความปลอดภัยและการควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ เตาไฟฟ้าระบบอินดักชันให้ความร้อนเฉพาะจุด ทำให้ประหยัดพลังงาน หน้าเตาทำความสะอาดง่าย และมีระบบป้องกันการลืมปิดเตา ควรเลือกรุ่นที่มีหน้าจอดิจิทัล ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส และฟังก์ชันตั้งเวลา บางรุ่นมีโซนทำอาหารแบบยืดหยุ่น สามารถรวมพื้นที่ทำอาหารให้ใหญ่ขึ้นได้

เครื่องล้างจาน

เครื่องล้างจานช่วยประหยัดเวลาและน้ำในการทำความสะอาด รุ่นสำหรับคอนโดมักมีขนาดกะทัดรัด สามารถติดตั้งแบบบิลท์อินหรือวางบนเคาน์เตอร์ ควรเลือกรุ่นที่มีโปรแกรมล้างหลากหลาย ระบบล้าง 3 มิติที่ทำความสะอาดได้ทั่วถึง และระบบอบแห้งแบบธรรมชาติ ที่สำคัญต้องมีฟังก์ชันประหยัดน้ำและพลังงาน บางรุ่นมีระบบฆ่าเชื้อด้วยไอน้ำร้อน ทำให้ภาชนะสะอาดปลอดภัย

เตาอบ

เตาอบสมัยใหม่มาพร้อมฟังก์ชันครบครัน ทั้งอบ ย่าง และนึ่ง เหมาะสำหรับการทำขนมและอาหารหลากหลายเมนู ควรเลือกรุ่นที่มีขนาดพอเหมาะกับการใช้งาน ระบบทำความร้อนแบบพัดลมกระจายความร้อน ทำให้อาหารสุกทั่วถึง มีโปรแกรมปรุงอาหารอัตโนมัติ และระบบทำความสะอาดตัวเอง หน้าจอสัมผัสและการควบคุมแบบดิจิทัลช่วยให้ใช้งานสะดวก บางรุ่นมีกล้องดูอาหารผ่านแอปพลิเคชัน

วิธีเลือกเครื่องครัวให้โมเดิร์น

วิธีเลือกเครื่องครัวให้โมเดิร์น

การเลือกเครื่องครัวคอนโดให้ทันสมัยนั้น ต้องคำนึงถึงทั้งดีไซน์และการใช้งาน เน้นความเรียบง่ายแต่แฝงด้วยเทคโนโลยี ผสมผสานวัสดุที่ดูดี ทนทาน และดูแลรักษาง่าย ต่อไปนี้คือเคล็ดลับการเลือกเครื่องครัวให้โมเดิร์น

เลือกดีไซน์และสีที่เรียบง่าย

เครื่องครัวที่มีดีไซน์เรียบง่ายจะช่วยสร้างความรู้สึกกว้างขวางให้กับพื้นที่ ควรเลือกโทนสีที่เป็นกลาง เช่น ขาว เทา หรือดำ ซึ่งสามารถผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งได้ง่าย เน้นพื้นผิวมันเงาที่สะท้อนแสงเพื่อเพิ่มมิติให้ห้อง หลีกเลี่ยงลวดลายที่ฉูดฉาดหรือซับซ้อนเกินไป เพราะจะทำให้พื้นที่ดูรกและล้าสมัยเร็ว ดีไซน์แบบมินิมอลยังช่วยให้ทำความสะอาดง่าย และยังคงความทันสมัยได้ยาวนาน

ใช้อุปกรณ์แบบมัลติฟังก์ชัน

อุปกรณ์มัลติฟังก์ชันช่วยประหยัดพื้นที่และงบประมาณ เช่น เตาอบที่มีฟังก์ชันไมโครเวฟ หรือเครื่องทำอาหารอเนกประสงค์ที่สามารถปั่น บด สับ และนวดแป้งได้ในเครื่องเดียว ควรเลือกเครื่องครัวที่มีระบบอัจฉริยะ สามารถควบคุมผ่านสมาร์ตโฟน และมีโปรแกรมการทำอาหารอัตโนมัติ นอกจากนี้ ควรพิจารณาอุปกรณ์ที่สามารถพับเก็บหรือซ้อนกันได้เพื่อประหยัดพื้นที่จัดเก็บ

เลือกขนาดกะทัดรัด

เครื่องครัวสำหรับคอนโดควรมีขนาดที่พอเหมาะกับพื้นที่ ไม่ใหญ่เกินไปจนเกะกะ หรือเล็กเกินไปจนใช้งานไม่สะดวก ควรวัดพื้นที่และวางแผนการจัดวางก่อนเลือกซื้อ เน้นเครื่องครัวแบบบิลท์อินที่ติดตั้งในตู้หรือผนัง เพื่อประหยัดพื้นที่และดูเป็นระเบียบ อุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้บ่อยควรเลือกแบบพับเก็บได้ หรือมีล้อเลื่อนเพื่อเคลื่อนย้ายสะดวก

วัสดุที่สะท้อนความหรูหรา

วัสดุคุณภาพสูงช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับครัว เช่น สเตนเลสสตีลเกรดพรีเมียม กระจกนิรภัยเทมเปอร์ หรือวัสดุเคลือบผิวนาโนที่ทนรอยขีดข่วน ควรเลือกวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย ไม่เก็บคราบมัน และทนต่อความร้อน พื้นผิวมันเงาช่วยสะท้อนแสงทำให้ห้องดูสว่างและกว้างขึ้น ขอบและมุมของเครื่องครัวควรมีความประณีต เก็บงานเรียบร้อย สะท้อนถึงคุณภาพการผลิต

สรุปบทความ

เครื่องครัวคอนโดที่ดีต้องสวยงามทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งาน

เครื่องครัวคอนโดที่ดีต้องผสมผสานระหว่างดีไซน์ทันสมัยและการใช้งานที่ตอบโจทย์ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องครัวสำหรับคอนโด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องล้างจานที่ช่วยประหยัดเวลา หรือเตาไฟฟ้าที่ปลอดภัยและควบคุมง่าย Tecnogas แบรนด์เครื่องครัวชั้นนำจากอิตาลี มีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในคอนโด ด้วยดีไซน์ที่ผสมผสานความหรูหราและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกระดับห้องครัวให้ทันสมัย

วิธีใช้เครื่องล้างจานสำหรับมือใหม่ ใช้งานง่ายในไม่กี่ขั้นตอน

วิธีใช้เครื่องล้างจานสำหรับมือใหม่ ใช้งานง่ายในไม่กี่ขั้นตอน

วิธีใช้เครื่องล้างจานนั้นไม่ยุ่งยากอย่างที่หลายคนกังวล เพียงทำความเข้าใจขั้นตอนพื้นฐาน เราก็สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง ช่วยประหยัดเวลาในการล้างจาน และยืดอายุการใช้งานของเครื่องไปพร้อมกัน บทความนี้จะแนะนำวิธีใช้เครื่องล้างจานตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ รวมถึงการดูแลรักษาให้ใช้งานได้ยาวนานกัน

วิธีใช้เครื่องล้างจาน

วิธีใช้เครื่องล้างจานมีขั้นตอนที่ต้องทำอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่การเตรียมจานชามก่อนใส่เครื่อง การจัดวางอย่างถูกวิธี การเลือกใช้น้ำยาที่เหมาะสม ไปจนถึงการเลือกโปรแกรมล้าง ทุกขั้นตอนล้วนสำคัญทั้งหมด

เตรียมจานชามก่อนใส่เครื่อง

ก่อนนำภาชนะเข้าเครื่องล้างจาน เราควรกำจัดเศษอาหารขนาดใหญ่ออกก่อน เพื่อป้องกันการอุดตันของท่อระบายน้ำและตะแกรงกรอง แนะนำให้ใช้กระดาษเช็ดคราบน้ำมันออกเบื้องต้น โดยเฉพาะภาชนะที่ใช้ทอดอาหาร นอกจากนี้ ควรแยกประเภทภาชนะที่ไม่ควรล้างด้วยเครื่อง เช่น ภาชนะไม้ เครื่องแก้วคริสตัล หรือภาชนะอะลูมิเนียมที่ไม่ได้ระบุว่าล้างด้วยเครื่องได้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

จัดเรียงจานชามในเครื่อง

การจัดเรียงภาชนะเป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลต่อความสะอาด ควรวางจานใหญ่ในชั้นล่าง โดยหันด้านที่สกปรกเข้าหาช่องพ่นน้ำ ส่วนชั้นบนเหมาะสำหรับแก้วน้ำ ถ้วยกาแฟ และภาชนะขนาดเล็ก ช้อนส้อมควรวางในตะกร้าสำหรับเครื่องใช้ โดยหันด้ามจับลงด้านล่าง ระวังไม่วางภาชนะซ้อนทับกัน เพราะจะทำให้น้ำเข้าถึงได้ไม่ทั่วถึง

เติมน้ำยาล้างจานสำหรับเครื่องล้างจาน

การเลือกน้ำยาล้างจานต้องใช้ชนิดที่ออกแบบมาสำหรับเครื่องล้างจานโดยเฉพาะ ห้ามใช้น้ำยาล้างจานทั่วไปเด็ดขาด เพราะจะเกิดฟองมากเกินไป เติมน้ำยาในช่องใส่น้ำยาตามปริมาณที่กำหนด ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 25-30 มิลลิลิตร หรือตามที่ระบุในคู่มือ ควรตรวจสอบระดับเกลือปรับความกระด้างและน้ำยาเคลือบแก้วให้เพียงพอด้วย

เลือกโปรแกรมล้างที่เหมาะสม

เครื่องล้างจานแต่ละรุ่นมีโปรแกรมล้างให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่แบบประหยัด แบบปกติ ไปจนถึงแบบล้างหนัก สำหรับภาชนะทั่วไปที่ไม่มีคราบติดแน่น แนะนำให้ใช้โปรแกรมปกติที่อุณหภูมิ 50-60 องศา ส่วนภาชนะที่มีคราบไขมันมาก ควรเลือกโปรแกรมล้างหนักที่อุณหภูมิสูงกว่า หากต้องการประหยัดไฟ สามารถเลือกโปรแกรม ECO ที่ใช้เวลานานกว่าแต่ใช้พลังงานน้อยลง

เริ่มต้นการทำงาน

หลังจากตรวจสอบทุกอย่างพร้อมแล้ว ปิดฝาเครื่องให้สนิท กดปุ่มเริ่มการทำงาน เครื่องจะเริ่มทำงานตามโปรแกรมที่เลือก ไม่ควรเปิดฝาเครื่องระหว่างการล้าง เพราะจะทำให้น้ำร้อนพุ่งออกมาและรบกวนขั้นตอนการล้าง ยกเว้นกรณีจำเป็นต้องเพิ่มภาชนะ ให้รอจนเครื่องหยุดพ่นน้ำก่อนค่อยเปิดฝา

หลังการล้างเสร็จ

เมื่อเครื่องทำงานเสร็จ จะมีสัญญาณแจ้งเตือน ควรรอประมาณ 15-20 นาทีให้ภาชนะเย็นลงและแห้งสนิทก่อนนำออก การนำภาชนะออกควรเริ่มจากตะกร้าล่างก่อน เพื่อป้องกันน้ำหยดจากภาชนะชั้นบนลงมา หากพบว่ามีคราบตกค้าง อาจต้องปรับปริมาณน้ำยาหรือเลือกโปรแกรมล้างที่เหมาะสมมากขึ้นในครั้งต่อไป

การดูแลและบำรุงรักษาเครื่องล้างจาน

การดูแลและบำรุงรักษาเครื่องล้างจาน

หลังจากที่เราดูวิธีใช้เครื่องล้างจานกันไปแล้ว การดูแลรักษาเครื่องล้างจานอย่างสม่ำเสมอก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานโดยควรให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดส่วนประกอบต่าง ๆ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ไปจนถึงการดูแลระหว่างที่ไม่ได้ใช้งาน

ทำความสะอาดถาดหรือตะแกรงล้างจาน

ควรถอดล้างตะแกรงกรองเศษอาหารทุกสัปดาห์ โดยล้างด้วยน้ำอุ่นและแปรงขนนุ่ม เช็ดทำความสะอาดขอบยางกันรั่วรอบฝาเครื่องเพื่อป้องกันการรั่วซึม ส่วนตะแกรงวางจานควรเช็ดทำความสะอาดเดือนละครั้ง และตรวจสอบหัวฉีดน้ำว่ามีการอุดตันหรือไม่ หากพบว่ามีคราบสะสมให้ใช้แปรงขนนุ่มหรือไม้จิ้มฟันทำความสะอาดรูฉีดน้ำเบา ๆ

ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างจานที่ออกแบบสำหรับเครื่องล้างจาน

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ต้องใช้น้ำยาล้างจาน เกลือปรับความกระด้าง และน้ำยาเคลือบแก้วที่ออกแบบมาสำหรับเครื่องล้างจานโดยเฉพาะ ควรเติมเกลือเมื่อไฟแสดงระดับเกลือสว่างขึ้น และเติมน้ำยาเคลือบแก้วเมื่อสังเกตเห็นว่าภาชนะแห้งช้าหรือมีคราบน้ำ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องและภาชนะได้

ระหว่างที่ไม่ใช้เครื่องเปิดฝาเครื่อง

เมื่อไม่ได้ใช้งานเครื่องเป็นเวลานาน ควรเปิดฝาเครื่องเล็กน้อยเพื่อระบายความชื้น ป้องกันการเกิดกลิ่นอับและเชื้อรา ก่อนกลับมาใช้งานอีกครั้ง ควรเช็ดทำความสะอาดภายในเครื่องและลองเปิดเครื่องเปล่าที่อุณหภูมิสูงสุดหนึ่งรอบ เพื่อกำจัดกลิ่นและเชื้อโรคที่อาจสะสม หากไม่ได้ใช้งานนานกว่าหนึ่งเดือน ควรปิดวาล์วน้ำและถอดปลั๊กไฟออก

สรุปบทความ

วิธีใช้เครื่องล้างจานใช้งานง่ายเพียงทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง

เครื่องล้างจานเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกในครัวเรือน แม้จะดูซับซ้อนสำหรับมือใหม่แต่ด้วยวิธีใช้เครื่องล้างจานไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเพียงทำตามขั้นตอนและดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน สำหรับผู้ที่สนใจเครื่องล้างจาน Tecnogas เรามีเครื่องล้างจานหลากหลายรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งาน พร้อมระบบความปลอดภัยและฟังก์ชันที่ครบครัน แต่หากยังไม่มั่นใจในการใช้ก็สามารถเลือกซื้อซิ้งค์ล้างจานคุณภาพของเราก่อนได้

เครื่องดูดควันมีกี่แบบ เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

เครื่องดูดควันมีกี่แบบ เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

เครื่องดูดควันเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยกำจัดกลิ่นและควันจากการทำอาหาร ทำให้ห้องครัวสะอาด น่าใช้งาน แต่เจ้าของห้องครัวมักสงสัยเมื่อต้องเลือกซื้อเครื่องดูดควันมีกี่แบบ เพราะปัจจุบันเครื่องดูดควันมีให้เลือกหลายรูปแบบ แต่ละแบบมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน วันนี้เราจึงมีวิธีเลือกเครื่องดูดควันให้เหมาะกับพื้นที่และการใช้งานมาฝากกัน

เครื่องดูดควันมีกี่แบบบ้าง

ก่อนจะเลือกซื้อเครื่องดูดควันเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเครื่องดูดควันมีกี่แบบ และแต่ละแบบเหมาะกับการใช้งานอย่างไร โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ แบบกระโจมติดผนัง แบบกระโจมกลางห้อง แบบ Slim Line และแบบ Down Draft ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีและการใช้งานที่แตกต่างกัน

เครื่องดูดควันแบบกระโจมติดผนัง

เครื่องดูดควันแบบกระโจมติดผนังเป็นรูปแบบที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดในห้องครัวทั่วไป ด้วยการออกแบบที่ติดตั้งชิดผนัง เหนือเตาประกอบอาหาร ทำให้ประหยัดพื้นที่และดูดควันได้ตรงจุด เครื่องดูดควันประเภทนี้มีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ 60-90 เซนติเมตร เหมาะสำหรับครัวที่มีเตาแบบติดผนัง ข้อดีคือติดตั้งง่าย ราคาไม่สูงมาก และดูแลรักษาสะดวก ส่วนข้อควรระวังคือต้องติดตั้งที่ความสูงที่เหมาะสมเพื่อให้ดูดควันได้ดี และควรเลือกขนาดให้กว้างกว่าเตาเล็กน้อยเพื่อครอบคลุมพื้นที่การทำอาหาร

เครื่องดูดควันแบบกระโจมกลางห้อง

เครื่องดูดควันแบบกระโจมกลางห้องออกแบบมาสำหรับครัวที่มีเกาะกลาง โดยติดตั้งแขวนจากเพดานเหนือเตาที่อยู่กลางห้อง ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น สามารถมองเห็นได้รอบทิศทาง จึงกลายเป็นจุดเด่นของห้องครัว เครื่องดูดควันแบบนี้มักมีกำลังดูดสูง เหมาะกับการทำอาหารที่มีควันมาก ข้อดีคือสามารถดูดควันได้จากทุกทิศทาง และสร้างความสวยงามให้ห้องครัว แต่มีข้อควรพิจารณาคือต้องการพื้นที่ติดตั้งที่เหมาะสม โครงสร้างเพดานที่แข็งแรง และการเดินท่อระบายที่ซับซ้อนกว่าแบบติดผนัง

เครื่องดูดควันแบบ Slim Line

เครื่องดูดควันแบบ Slim Line มีขนาดบางกะทัดรัด เหมาะสำหรับห้องครัวที่มีพื้นที่จำกัดหรือต้องการความเรียบง่าย สามารถติดตั้งใต้ตู้ลอยเหนือเตา ทำให้ประหยัดพื้นที่และไม่บดบังทัศนียภาพของห้องครัว เครื่องดูดควันประเภทนี้เหมาะกับการทำอาหารทั่วไปที่ไม่มีควันมากนัก ข้อดีคือราคาย่อมเยา ติดตั้งง่าย และดูแลรักษาสะดวก แต่อาจมีข้อจำกัดด้านกำลังดูดที่น้อยกว่าแบบกระโจม จึงไม่เหมาะกับการทำอาหารที่มีควันมาก

เครื่องดูดควันแบบ Down Draft

เครื่องดูดควันแบบ Down Draft เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ถูกออกแบบให้ซ่อนตัวอยู่ในเคาน์เตอร์ข้างเตา สามารถยกขึ้นมาใช้งานเมื่อต้องการและเก็บลงไปเมื่อไม่ใช้งาน เหมาะสำหรับห้องครัวที่ต้องการความสะอาดตาหรือมีวิวที่สวยงามที่ไม่ต้องการให้มีสิ่งกีดขวาง เครื่องดูดควันแบบนี้ใช้เทคโนโลยีดูดควันจากด้านข้างหรือด้านล่าง ข้อดีคือสวยงาม ทันสมัย และไม่บดบังทัศนียภาพ แต่มีข้อควรพิจารณาคือราคาค่อนข้างสูง ต้องการการติดตั้งที่ซับซ้อน และอาจมีข้อจำกัดในการดูดควันสำหรับการทำอาหารบางประเภท

วิธีเลือกเครื่องดูดควันให้เหมาะสมกับห้องครัว 

วิธีเลือกเครื่องดูดควันให้เหมาะสมกับห้องครัว

การเลือกเครื่องดูดควันให้เหมาะสมกับห้องครัวนั้นต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งขนาดห้อง ลักษณะการใช้งาน ดีไซน์ และข้อจำกัดทางเทคนิค เพื่อให้ได้เครื่องดูดควันที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง

ขนาดห้องครัว

ขนาดห้องครัวเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกเครื่องดูดควัน สำหรับห้องครัวขนาดเล็ก ควรเลือกแบบ Slim Line หรือแบบติดผนังขนาดกะทัดรัด เพื่อประหยัดพื้นที่ ส่วนห้องครัวขนาดกลางถึงใหญ่ สามารถเลือกแบบกระโจมติดผนังหรือแบบกระโจมกลางห้องได้ โดยขนาดของเครื่องดูดควันควรสัมพันธ์กับขนาดของเตา โดยควรมีความกว้างมากกว่าเตาอย่างน้อย 10 เซนติเมตรในแต่ละด้าน เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่การทำอาหารได้อย่างทั่วถึง

ลักษณะการใช้งาน

ลักษณะการใช้งานห้องครัวส่งผลโดยตรงต่อการเลือกเครื่องดูดควัน สำหรับการทำอาหารทั่วไปเครื่องดูดควันแบบ Slim Line หรือแบบติดผนังพื้นฐานอาจเพียงพอ แต่หากทำอาหารที่มีควันมาก เช่น การผัด การทอด ควรเลือกแบบกระโจมที่มีกำลังดูดสูง ส่วนครัวที่ใช้งานหนัก เช่น ร้านอาหาร ควรเลือกแบบกระโจมขนาดใหญ่ที่มีกำลังดูดสูงและระบบกรองที่ทนทาน

ดีไซน์ของห้องครัว

ดีไซน์ของห้องครัวมีผลต่อการเลือกเครื่องดูดควัน ห้องครัวสไตล์โมเดิร์นอาจเหมาะกับเครื่องดูดควันแบบ Down Draft หรือแบบกระโจมที่มีดีไซน์ทันสมัย ส่วนห้องครัวแบบคลาสสิกอาจเลือกแบบกระโจมที่มีดีไซน์เรียบหรู ที่สำคัญคือต้องพิจารณาตำแหน่งการติดตั้งเตาและระบบท่อ เพราะจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการดูดควันและความสะดวกในการใช้งาน

ข้อจำกัดทางเทคนิค

ข้อจำกัดทางเทคนิคเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกเครื่องดูดควัน โดยต้องคำนึงถึงระบบไฟฟ้า ความแข็งแรงของผนังหรือเพดาน และระบบท่อระบายอากาศ เครื่องดูดควันแบบกระโจมกลางห้องต้องการโครงสร้างเพดานที่แข็งแรง ส่วนแบบ Down Draft ต้องการพื้นที่ใต้เคาน์เตอร์สำหรับกลไกการทำงาน นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาระยะทางของท่อระบายอากาศไปสู่ภายนอก เพราะระยะท่อที่ยาวจะส่งผลต่อกำลังดูด

สรุปบทความ

เครื่องดูดควันควรเลือกจากขนาดเครื่อง กำลังดูดอากาศ ระดับเสียง และการบำรุงรักษา

หลังจากที่เราได้รู้ว่าเครื่องดูดควันมีกี่แบบกันไปแล้ว สิ่งที่สำคัญในการเลือกเครื่องดูดควันให้เหมาะสมควรยังควรพิจารณาจากขนาดของเครื่อง กำลังดูดอากาศ ระดับเสียง และการบำรุงรักษา เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้ห้องครัวสะอาด ปลอดกลิ่น ไม่สะสมคราบมัน สำหรับคนที่กำลังมองหาเครื่องดูดควันคุณภาพดี Tecnogas เรามีเครื่องครัวยุโรปและเครื่องดูดควันให้เลือกครบทุกประเภท ทั้งแบบกระโจมติดผนัง แบบกลางห้อง Slim Line และ Down Draft พร้อมเทคโนโลยีการดูดควันที่เงียบและแรง ตอบโจทย์ทุกการใช้งานจากประเทศอิตาลี

เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนดีไหม เหมาะกับใช้ในคอนโดหรือไม่

เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนดีไหม เหมาะกับใช้ในคอนโดหรือไม่

เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนดีไหม? คำถามยอดฮิตของผู้อยู่คอนโดที่กำลังมองหาทางเลือกในการจัดการควันและกลิ่นจากการทำอาหาร โดยเฉพาะเมื่อเจอข้อจำกัดเรื่องการเจาะผนังหรือติดตั้งท่อระบายอากาศ สำหรับคนที่กำลังมองหาเครื่องดูดควันอยู่ วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยว่าเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนดีไหมและเหมาะสมกับการใช้งานในคอนโดหรือไม่กัน

เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนดีไหม มีแบบไหนอีกบ้าง

ก่อนที่เราจะไปดูว่าเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนดีไหมและเหมาะสำหรับครัวในคอนโดหรือไม่ เราควรทำความเข้าใจระบบการทำงานของเครื่องดูดควันแต่ละประเภทกันก่อน เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบและเลือกแบบที่เหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างตรงจุด

เครื่องดูดควันระบบท่อ (Ducting)

เครื่องดูดควันระบบท่อเป็นระบบดั้งเดิมที่นิยมใช้ในบ้านเดี่ยวหรืออาคารที่สามารถติดตั้งท่อระบายอากาศได้ ระบบนี้จะดูดควันและกลิ่นจากการทำอาหารแล้วส่งออกไปนอกตัวอาคารโดยตรง ทำให้สามารถกำจัดควันและกลิ่นได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับการทำอาหารที่มีควันหรือกลิ่นแรง แต่ข้อจำกัดคือจำเป็นต้องมีการติดตั้งท่อระบายอากาศที่มีความยาวพอสมควร และต้องมีการเจาะผนังหรือเพดานเพื่อติดตั้งท่อ ซึ่งอาจไม่สะดวกหรือไม่สามารถทำได้ในคอนโด

เครื่องดูดควันระบบหมุนเวียน (Recycle)

เครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนทำงานด้วยการดูดอากาศที่มีควันและกลิ่นผ่านแผ่นกรองไขมันและแผ่นกรองคาร์บอน เพื่อดักจับกลิ่นและอนุภาคต่าง ๆ ก่อนปล่อยอากาศที่สะอาดกลับเข้าสู่ห้อง ระบบนี้ไม่จำเป็นต้องติดตั้งท่อระบายอากาศ จึงเหมาะกับพื้นที่จำกัดอย่างคอนโด แต่ต้องมีการดูแลรักษาและเปลี่ยนแผ่นกรองตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อรักษาความสามารถในการกรองอากาศให้ยังคงทำงานได้ดี

ข้อดีของเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนใช้ในคอนโด

ข้อดีของเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนใช้ในคอนโด

เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนดีไหม หากพิจารณาถึงการใช้งานในคอนโด จะพบว่ามีข้อดีหลายด้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย ทั้งในแง่การติดตั้ง การใช้งาน และความเหมาะสมกับพื้นที่

ติดตั้งง่ายและสะดวก

การติดตั้งเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนทำได้ง่ายกว่าระบบท่อมาก เนื่องจากไม่ต้องเจาะผนังหรือติดตั้งท่อระบายอากาศ เพียงแค่ยึดตัวเครื่องเข้ากับผนังหรือเพดานตามจุดที่กำหนด และต่อระบบไฟฟ้าเท่านั้น ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขออนุญาตเจาะผนังจากนิติบุคคล หรือปัญหาการรั่วซึมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ยังสามารถถอดย้ายได้ง่ายเมื่อต้องการปรับเปลี่ยนตำแหน่งหรือย้ายบ้าน

ประหยัดพื้นที่

ด้วยการออกแบบที่ไม่ต้องใช้ท่อระบายอากาศ เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนจึงใช้พื้นที่น้อยกว่าระบบท่อ เหมาะกับห้องครัวในคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด สามารถติดตั้งได้ทั้งแบบติดผนังและแบบติดเพดาน โดยไม่กินพื้นที่ส่วนอื่น ทำให้ห้องครัวดูโปร่งและเป็นระเบียบ อีกทั้งยังสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ครัวอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว

ดีไซน์ทันสมัย

เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนในปัจจุบันมาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบกระจก สแตนเลส หรือวัสดุอื่น ๆ ที่สามารถเข้ากับการตกแต่งห้องครัวได้ทุกสไตล์ บางรุ่นยังมาพร้อมระบบควบคุมแบบสัมผัสและไฟ LED ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและความสวยงามให้กับห้องครัว ทำให้ครัวในคอนโดดูหรูหราและทันสมัยยิ่งขึ้น

ทริกเลือกเครื่องดูดควันใช้ในคอนโด

การเลือกเครื่องดูดควันสำหรับคอนโดนั้นต้องพิจารณาหลายปัจจัย ไม่เพียงแต่เรื่องประสิทธิภาพการดูดควันเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งานจริง

ระดับเสียงของเครื่องดูดควัน

เสียงการทำงานของเครื่องดูดควันเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการใช้งานในคอนโด ควรเลือกรุ่นที่มีระดับเสียงต่ำกว่า 65 เดซิเบล เพื่อไม่ให้รบกวนผู้อยู่อาศัยและเพื่อนบ้าน โดยสังเกตค่า dB ที่ระบุในสเปกสินค้า นอกจากนี้ ควรเลือกรุ่นที่มีระดับความแรงให้เลือกหลายระดับ เพื่อปรับการใช้งานให้เหมาะสมกับปริมาณควันและความต้องการในแต่ละครั้ง

ขนาดของเครื่องดูดควัน

การเลือกขนาดเครื่องดูดควันต้องสัมพันธ์กับขนาดของเตาและพื้นที่ครัว โดยทั่วไปความกว้างของเครื่องดูดควันควรมากกว่าหรือเท่ากับความกว้างของเตา เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่การทำอาหารได้ทั้งหมด สำหรับครัวในคอนโดที่มักใช้เตา 2-4 หัว ขนาดความกว้าง 60-90 เซนติเมตรถือว่าเหมาะสม และควรติดตั้งสูงจากเตาประมาณ 65-75 เซนติเมตร เพื่อการดูดควันที่ดี

สรุปบทความ

เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนเหมาะกับชคอนโดเนื่องจากการติดตั้งที่ง่าย ไม่ต้องเจาะผนัง

เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนนับเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในคอนโด ด้วยการติดตั้งที่ง่าย ไม่ต้องเจาะผนัง และดีไซน์ที่ทันสมัย ทำให้ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี โดยเครื่องดูดควัน จาก Tecnogas เราเป็นแบรนด์เครื่องครัวยุโรปชั้นนำ มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งระบบหมุนเวียนและระบบท่อ พร้อมนวัตกรรมการดูดควันที่เงียบและแรง เหมาะสำหรับทุกพื้นที่ครัว