เมนูเบเกอรี่ดูจะเป็นเมนูที่ใครหลายคนชอบกัน เวลาไปร้านอาหารข้างนอก พอกินของคาวเสร็จก็ต้องตามด้วยของหวานปิดท้าย เป็นเมนูเบเกอรี่กันทั้งนั้น ในบทความนี้เราจะมาแจกสูตรทำเบเกอรี่ง่าย ๆ แบบที่มีแค่
เตาอบ ตัวเดียวก็สามารถทำเมนูเบเกอรี่เหล่านี้ได้ด้วยตัวคุณ
รวมสูตรเมนูเบเกอรี่อบที่คุณก็ทำเองได้
1. มัฟฟินช็อกโกแลต
เมนูเบเกอรี่แรกที่น่าทำ สำหรับคนรักช็อกโกแลตจะต้องชอบแน่นอน เพราะมีส่วนผสมของช็อกโกแลตอยู่เต็ม ๆ เข้มข้น นั้นก็คือมัฟฟินช็อกโกแลต โดยวิธีทำก็ไม่ได้ยุ่งยากเกินไป สามารถทำได้เอง วิธีทำคือ
- เพียงละลายเนย
- นำดาร์กช็อกโกแลตที่เตรียมไว้มาสับไม่ต้องละเอียดมาก และนำดาร์กช็อกโกแลตที่เตรียมไว้ส่วนที่ 2 มาสับด้วย
- นำไข่ไก่ ใส่น้ำมันพืช ตีให้เข้ากัน ใส่นมจืด ตามด้วยกลิ่นวานิลลา และเนยที่ละลายลงไปตีให้เข้ากัน
- ผสมแป้งอเนกประสงค์ น้ำตาลทราย ผงโกโก้ ผงฟู เบกกิ้งโซดา มาคนให้เข้ากัน
- เทส่วนผสมไข่ใส่ลงไป คนให้เข้ากันอย่างรวดเร็ว
- ใส่ดาร์กช็อกโกแลต ส่วนที่ 1 ลงไป ผสมให้เข้ากัน
- ตักแป้งใส่ในพิมพ์มัฟฟิน นำดาร์กช็อกโกแลตที่สับแล้ว ส่วนที่ 2 โรยแต่งหน้ามัฟฟิน
- นำไปอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส 3 นาที และจึงค่อยปรับอุณหภูมิของเตาอบลง 175 องศา และอบต่อไปอีกประมาณ 15 – 18 นาที หรือจนกว่ามัฟฟินจะสุก
2. คุกกี้บราวนี่
คุกกี้บราวนี่ เป็นอีกเมนูเบเกอรี่ยอดฮิตที่เห็นขายกันอยู่ทั่วไป อาจจะดูเหมือนทำยาก แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ยากขนาดนั้น เพียงแต่ต้องมีการใช้สัดส่วนของส่วนผสมต่าง ๆ ให้พอดีและแม่นยำ แล้วค่อยปรับเปลี่ยนรสชาติได้ตามความชอบ วิธีทำคือ
- ให้นำดาร์กช็อกโกแลตกับละเนยไปละลาย
- ผสมไข่ไก่ น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายแดง และกลิ่นวานิลลา ตีให้เข้ากันและต้องตีอย่างน้อย 5 นาที
- นำเนยกับช็อกโกแลตที่ละลายแล้ว มาผสมให้เข้ากัน
- นำผงโกโก้ ผงฟู แป้งและเกลือที่ร่อนแล้วมาผสมไข่ให้เข้ากัน ตามด้วยใส่ดาร์กช็อกโกแลตชิพแล้วคนให้เข้ากัน นำที่ตักไอศกรีมมาตักแป้งคุกกี้ โดยเว้นให้ระยะห่างกัน และกดแป้งคุกกี้ให้แบนเล็กน้อย
- อบคุกกี้ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 12 – 14 นาที
3. คุกกี้สติ๊ก
ใครที่อยากจะทำขนมอบแบบไซส์เล็ก ๆ น่ารัก ไม่ต้องมีขั้นตอนเยอะ ต้องลองทำคุกกี้สติ๊ก ซึ่งเราสามารถออกแบบตกแต่งเองได้ อาจจะทำในวันสำคัญ งานเลี้ยงวันเกิด ก็สามารถทำได้เอง แค่มีเตาอบอยู่ที่บ้านก็ทำได้แล้ว วิธีทำคือ
- เริ่มจากร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ ตามด้วยร่อนน้ำตาลทรายป่นหรือไอซิ่ง ผงฟู เกลือป่น และอัลมอนด์ป่น
- ใส่ชอร์ตเทนนิ่ง น้ำมันรำข้าว ตามด้วยกลิ่นวานิลลา นวดจนแป้งจับตัวกันเป็นก้อน แล้วรีดเป็นแผ่นหนาประมาณ 3 มิลลิเมตร และตัดเป็นแท่งขนาดเล็ก
- อบด้วยเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศา 12 – 15 นาที เสร็จแล้วพักบนตะแกรงจนเย็น
- แล้วตกแต่งด้วยช็อกโกแลตโค้ทติ้งหรือจะเป็นรสชาติอื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน แล้วตกแต่งลวดลายตามใจชอบ
4. เค้กฝอยทองครีมสดมะพร้าวอ่อน
อีกหนึ่งเมนูเบเกอรี่ยอดฮิตก็คือ เค้กฝอยทองครีมสดมะพร้าวอ่อนที่เคยเป็นกระแสอยู่ในช่วงหนึ่ง ด้วยการผสมผสานระหว่างฝอยทองที่เป็นขนมหวานไทย มาจับคู่กับเค้กครีมสดมะพร้าวอ่อน แล้วทำออกมาได้อย่างลงตัว วิธีทำคือ
- นำฝอยทองใส่ลงไปในพิมพ์
- นำแป้งอเนกประสงค์ ผงฟู และเกลือ ร่อนเข้าด้วยกัน ผสมไข่แดงน้ำตาลทราย ตีให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย
- ใส่กลิ่นวานิลลา นมสด ส่วนของแป้งที่ร่อนไว้ ตีให้เข้ากัน เทน้ำมันรำข้าว พร้อมกับตีไปด้วยและสังเกตว่าเนื้อเข้ากันแล้ว จึงพักไว้
- ทำการตีเมอแรงก์ โดยนำไข่ขาวใส่ลงไปในชามผสม ตีให้ขึ้นฟอง จากนั้นค่อย ๆ ใส่น้ำตาลลงไป และตีต่อ
- นำเมอแรงก์มาผสมกับแป้งเตรียมไว้ จากนั้นนำไปใส่พิมพ์ที่ใส่ฝอยทองเตรียมไว้
- อบด้วยไฟอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส 7 นาที และพักไว้บนตะแกรง
5. ขนมปังช็อกโกแลตเนยสด
เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ใช้วัตถุดิบในการทำน้อยมาก ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยากเป็น สูตรทำเบเกอรี่ง่าย ๆ เหมาะกับการทำที่ไม่ต้องใช้เวลาเยอะ แต่ทำออกมาแล้วอร่อย น่ากิน ใครที่ชอบความเข้มของช็อกโกแลตในขนมปัง ต้องลองทำกันดู วิธีทำ
- ร่อนแป้ง ผงโกโก้ และเกลือ ผสมกับน้ำตาลทรายและยีสต์ และผสมนมข้นจืด ไข่ไก่ น้ำอุ่น ให้เข้ากัน
- ค่อย ๆ เทส่วนผสมต่าง ๆ และสลับกับนวดให้เข้ากันทีละนิด
- ใส่เนยจืด และนวดจนเข้ากัน แล้วพักไว้ 40 – 60 นาที ให้จนเห็นว่าแป้งขึ้นฟูมากกว่าเดิมแล้ว
- ใช้ไฟอ่อนใส่นมข้นหวาน นมสด แป้งข้าวโพดละลายน้ำ คนจนกว่าส่วนผสมจะมีความข้นจากนั้นใส่เนยจืดลงไป และพักไว้ให้ทั้งหมดอุ่น
- ใส่ไข่ไก่ กลิ่นวานิลลาลงไปในส่วนผสม และคนให้เข้ากัน เปิดไฟอ่อนอีกครั้ง จากนั้นคนอีกเรื่อย ๆ แล้วนำไปใส่ถุงบีบและทำการแช่ทิ้งไว้ในตู้เย็น
- นำแป้งที่ขึ้นฟูแล้วมา ใส่ในภาชนะที่ทาเนยเอาไว้ นำแป้งไปพักอีกครั้งประมาณ 40 – 60 นาที จนขนาดแป้งขึ้นฟู
- ทานมผสมเนยบนตัวแป้ง ก่อนนำไปอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส 20 นาที
- เมื่อตัวแป้งสุกดีแล้ว นำมาเจาะรูข้างบน แล้วบีบไส้จากถุงบีบที่แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นลงไป ตามด้วยการทาเนยสดที่ตีไว้ด้านบนขนมปัง และโรยผงโกโก้ปิดท้าย
6. พัฟฟ์ผลไม้สด
พัฟฟ์ผลไม้สด แค่เห็นหน้าตาก็รู้แล้วว่าต้องอร่อยแน่นอน วิธีทำเมนูเบเกอรี่นี้ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด จะทำไปเป็นของฝาก ทำเป็นเค้กวันเกิด หรือจะเอาไปต่อยอดสร้างอาชีพ ทำขายก็ได้เช่นกัน ไปดูกันเลยว่ามีวิธีทำอย่างไรบ้าง
- อย่างแรก คือ การวอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส
- นำแป้งพัฟฟ์สำเร็จรูปมาพักในตู้เย็นช่องธรรมดา จนแป้งอ่อนตัวจนรีดได้
- ก่อนรีดแป้งพัฟฟ์ให้แผ่ออก แล้วตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 5 x 10 เซนติเมตร
- รองถาดอบด้วยกระดาษไข แล้วเรียงแผ่นแป้งลงไป วางกระดาษไขทับด้วยถาดอีกชั้นก่อนนำไปอบประมาณ 15 นาที
- ทำตัวครีม ด้วยการใส่นมสดลงในหม้อตั้งไฟกลางให้ร้อน
- ตีไข่แดง น้ำตาลทราย กลิ่นวานิลลาเข้าด้วยกันจนขึ้นฟู
- ทำการร่อนแป้งข้าวโพดลงไป คนให้เข้ากัน แล้วค่อย ๆ เทนมร้อนลงไป และค่อย ๆ ใส่ทีละนิดสลับกับการคนให้เข้ากัน คนเรื่อย ๆ จนข้นเซตตัวเป็นครีมดี เสร็จแล้วพักไว้ให้เย็น
- นำแป้งพัฟฟ์ที่อบเสร็จแล้วออกจากเตา แล้วนำมาประกอบกับครีมที่ทำไว้ โดยวางแป้งพัฟฟ์ชั้นแรก แล้วบีบครีมลงไปจนเต็มแผ่น แล้ววางทับด้วยแป้งพัฟฟ์อีกชั้น ทำซ้ำกันจนได้ครีมสองชั้น และแป้งพัฟฟ์สามชั้น
- ตกแต่งด้านบนด้วยผลไม้ตามชอบได้เลย
7. ชูครีม
ชูครีม เป็นเมนูโปรดสำหรับใครหลาย ๆ คนจุดเด่นคือ รสชาติด้านในที่มีความหวานกำลังดี ผสมกับตัวแป้งข้างนอก เมื่อกินแล้วจะผสมกันออกมาอย่างลงตัว แล้วต้องทำยังไงให้ออกมาอร่อย เรามีสูตรเบเกอรี่ง่าย ๆ มาให้ทุกคนได้ลองทำตามกันดู
- วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส
- ใส่น้ำเปล่า เนยเค็มลงในหม้อ ตั้งไฟให้เนยละลายจนหมด แล้วจึงใส่แป้งขนมปังลงไป รีบคนให้เข้ากัน จนแป้งจับตัวกันเป็นก้อน
- นำแป้งที่ผัดจนเป็นก้อนแล้วมาเทใส่ชาม แล้วนำไข่ไก่ที่ตีพอแตกไว้แล้วค่อย ๆ เทลงไปทีละนิด
- ใช้ไม้พายคนแป้งให้เข้ากับไข่ ตัวแป้งกับไข่เข้ากันดี
- นำส่วนผสมแป้งใส่ถุงบีบ บีบแป้งลงไปเป็นวงกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 นิ้ว
- นำเข้าเตาอบ อบเป็นเวลา 30 นาที
- ทำครีมด้วยการใส่นมข้นจืด และนมข้นหวาน นำขึ้นตั้งไฟกลางให้ร้อน
- ผสม ไข่แดง น้ำตาลทราย กับกลิ่นวานิลลาเข้าด้วยกันจนขึ้นฟู ร่อนแป้งข้าวโพดลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง แล้วค่อย ๆ เทนมร้อนที่ตั้งไฟไว้เมื่อสักครู่ลงไป
- เทวิปปิ้งครีมในชามผสม ตีจนขึ้นฟูตั้งยอดแข็ง แล้วนำครีมที่พักไว้เมื่อสักครู่มาตะล่อมให้เข้ากันด้วยไม้พาย
- ตักครีมใส่ถุงบีบเตรียมไว้ บีบครีมลงไปให้เต็มแป้งส่วนล่าง ปิดด้วยแป้งส่วนบน
8. มาเดอลีนช็อกโกแลต
ขนมที่หน้าตาสวย และถ่ายรูปออกมาดูดีอย่าง มาเดอลีนช็อกโกแลต ก็มีขั้นตอนการทำที่ไม่ได้ยุ่งยาก เนื้อนุ่มหอมเนย และยังได้รสเข้มข้นจากโกโก้ด้วย ใครเบื่อขนมไทยแล้ว ลองมาทำ มาเดอลีนช็อกโกแลตกินกันดูนะ วิธีทำไม่ยากเลย
- ใส่ไข่ไก่ น้ำตาลทราย เกลือ และเติมกลิ่นวานิลลากับน้ำผึ้ง คนจนเข้ากัน
- ร่อนแป้ง ผงฟู และผงโกโก้ลงไปในส่วนผสมของไข่ไก่ ใส่เนยเค็มละลาย แบ่งใส่สัก 2 – 3 รอบ คนจนเข้ากัน แล้วคลุมพลาสติกถนอมอาหารไว้ แช่ตู้เย็นไว้ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
- หยอดขนมใส่พิมพ์ อบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน – ล่าง ประมาณ 15 นาที
9. ขนมปังกรอบเนยกระเทียม
เมนูที่เราคุ้นเคยกันดี อย่าง ขนมปังกรอบเนยกระเทียม กินเพลิน กินกับอะไรก็ได้ แล้วจริง ๆ วิธีการทำก็ง่ายแสนง่าย ไม่มีขั้นตอนอะไรที่ยุ่งยาก ก็สามารถทำเองได้ที่บ้านเลย และเมนูนี้ยังใช้วัตถุดิบน้อยด้วย ทำยังไงบ้างไปดูกัน
- นำขนมปังไปอบจนมีความแห้ง
- ตีเนยสดรสเค็มกับน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน
- นำกระเทียมไปสับหรือปั่น ผสมเนย ตามด้วยพาร์สลีย์ ผสมจนเข้ากัน
- ทาเนยกระเทียมลงไปบนขนมปัง และนำไปอบที่อุณหภูมิ 145 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 – 12 นาที
10. เค้กไข่ญี่ปุ่น
เค้กไข่ญี่ปุ่นเป็นอีกเมนูเบเกอรี่ที่สามารถทำกินได้ ทุกวัย เพราะรสชาติจะไม่หวานจนเกินไป จะทานเดี่ยว ๆ หรือทานคู่กับเครื่องดื่มใด ๆ ก็ได้ตามความชอบ วิธีการทำไม่ได้ยุ่งยากมากมายสามารถลองทำกินเองได้
- นำน้ำมันพืชเข้าไมโครเวฟ 1 นาที เทน้ำมันใส่อีกภาชนะแล้วร่อนแป้งเค้กลงไป คนให้เข้ากัน
- ใส่นมลงไป ตามด้วยไข่แดง และคนให้เนื้อเนียนสีอ่อน
- ตีไข่ขาวให้เป็นฟองหยาบ ๆ และใส่เกลือลงไป ใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไป คนพอเข้ากัน
- เทส่วนผสมของไข่แดงลงไปในไข่ขาว คนให้เข้ากัน
- เทใส่พิมพ์เค้ก นำเข้าเตาอบ ใช้ไฟบน – ล่าง 170 องศาเซลเซียส ประมาณ 35 – 40 นาที
เมนูเบเกอรี่อบที่สามารถต่อยอดอาชีพได้
เมนูเบเกอรี่ที่เรารวบรวมมาให้ในวันนี้ สามารถทำได้เองทั้งหมด เพียงแค่ต้องมีเตาอบเท่านั้นเอง เบเกอรี่แต่ละชนิดก็มีวิธีการทำที่แตกต่างกันไป ระยะเวลาในการทำก็แตกต่างกันไปเช่นกัน แต่รับประกันมือใหม่สามารถหัดทำได้และอร่อยแน่นอน รวมถึงเมนูเบเกอรี่ง่าย ๆ เหล่านี้ คุณยังสามารถนำไปต่อยอดเป็นอาชีพได้อีกด้วย