15 เมนูอาหารไทยี่ต้องใช้เตาแก๊สไฟแรง
1. ผัดซีอิ๊ว
การใช้เตาแก๊สไฟแรงระหว่างผัดซีอิ๊ว จะทำให้เส้นใหญ่ไม่ติดกระทะ และผัดซีอิ๊วมีกลิ่นหอมคั่วกระทะ วัตถุดิบ- เส้นใหญ่ 100 กรัม
- หมูหรือเนื้อสัตว์ตามชอบ ⅓ ถ้วย
- คะน้า 3 ต้น
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- กระเทียมสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว ½ ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น ตามต้องการ
- หั่นคะน้าเป็นท่อน ๆ เตรียมไว้
- ตั้งกระทะให้ร้อน เทน้ำมัน แล้วใส่กระเทียมบสับลงไปเจียวให้หอม จากนั้นเร่งไฟ แล้วนำเนื้อหมูลงไปผัดจนสุก
- ปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำ น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว จากนั้นใส่เส้นใหญ่ลงไปผัดให้เข้ากัน
- ผัดส่วนผสมทั้งหมดไปไว้ข้างหนึ่งของกระทะ แล้วตอกไข่ไป เมื่อไข่เริ่มสุกให้ยกเส้นมากลบไข่
- ใส่คะน้าลงไปผัดให้สุกทั่วกัน ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
2. ผักบุ้งไฟแดง
ผักบุ้งไฟแดง อาหารจานโปรดของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นเมนูที่ต้องใช้ไฟแรงสมชื่อไฟแดงเพราะจะทำให้ผักกรอบ หากไฟไม่แรงผักบุ้งจะเหี่ยวและหยาบไม่อร่อย วัตถุดิบ- ผักบุ้งจีน 1 กำ
- น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมปอกเปลือกทุบ 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกชี้ฟ้าทุบ 2 เม็ด
- เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
- ตำกระเทียม และพริกชี้ฟ้า โขลกให้พอหยาบ
- นำผักบุ้งใส่จาน ใส่พริกกระเทียม น้ำตาลทราย เต้าเจี้ยว น้ำมันหอย และน้ำเปล่า
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน โดยใช้ไฟแรง จากนั้นเทส่วนผสมทั้งลงไปผัดในกระทะให้เข้ากัน จนผักบุ้งสลด เป็นอันเสร็จ
3. กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา
มาถึงอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตที่ต้องมีทุกร้านอย่าง กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา เมนูปราบเซียนที่ดูเหมือนง่าย แต่ทำทีไรก็ไม่อร่อยเหมือนที่ร้าน เพราะมีเคล็ดลับเด็ดคือการใช้ไฟแรงขณะผัด จะทำให้ผักสุกแต่ยังมีความกรอบ และได้กลิ่นหอมของกระทะ วัตถุดิบ- กะหล่ำปลี 1 หัว
- กระเทียมไทยบุบ 4 หัว
- น้ำปลาแท้ 4 ช้อนโต๊ะ
- แกะกะหล่ำปลีเป็นใบ ๆ แล้วนำไปล้างให้สะอาด
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ร้อน แล้วนำกระเทียมลงไปผัดให้หอม
- ใส่ใบกะหล่ำปลีตามลงไป ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วค่อยคลุกเคล้ากะหล่ำปลีให้เข้ากับน้ำมัน ขั้นตอนนี้จะใช้ไฟแรง
- เกลี่ยกะหล่ำปลีให้อยู่กลางกระทะ จากนั้นเหยาะน้ำปลาที่ขอบกระทะให้รอบ ๆ โดยไม่ให้โดนกะหล่ำปลี
- รอจนน้ำปลาแห้งติดกระทะและส่งกลิ่นหอม จากนั้นนำกะหล่ำปลีไปคลุกเคล้ากับน้ำปลารอบ ๆ ขอบกระทะ เป็นอันเสร็จ
4. ผัดขี้เมา
ผัดขี้เมา เมนูที่อุดมไปด้วยสมุนไพรที่ผัดทีไรก็หอมฟุ้งไปทั่วบ้าน โดยจะใช้ไฟแรงในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันดี และได้กลิ่นหอมของสมุนไพรและกลิ่นกระทะ วัตถุดิบ- เนื้อสัตว์ตามชอบ 150 กรัม
- กระเทียมสับ ½ หัว
- กระชายหั่นละเอียด 50 กรัม
- ข้าวโพดอ่อน 5 ฝัก
- พริกชี้ฟ้าแดง 4 เม็ด
- พริกไทยสด 3 พวง
- ใบมะกรูด 4-5 ใบ
- น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา ½ ช้อนโต๊ะ
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน โดยใช้ไฟร้อนปานกลาง จากนั้นใส่พริก กระเทียมสับ และกระชายลงไปผัดจนหอม
- ใส่ข้าวโพดอ่อน และเนื้อสัตว์ตามลงไปผัดจนเกือบสุก
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำมันหอย และน้ำปลา ตามด้วยใส่ใบมะกรูดและพริกไทยสด
- ปรับไฟให้แรงขึ้น แล้วผัดให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันอย่างรวดเร็ว เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟร้อน ๆ
5. ผัดผัก
ผัดผัก เมนูย่อยง่าย อร่อย และได้ประโยชน์ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ต้องใช้ไฟแรงในการผัด เพื่อให้ผักกรุบกรอบ เคี้ยวง่าย วัตถุดิบ- ผักรวมตามชอบ 400 กรัม
- กระเทียมบุบ 2-3 กลีบ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- นำผักไปลวกในน้ำเดือด แล้วนำไปแช่น้ำเย็นเพื่อความกรอบ
- ตั้งกระทะใส่น้ำมัน โดยใช้ไฟแรงเพื่อให้น้ำมันเซ็ตตัว หลังจากนั้นปรับเป็นไฟกลาง แล้วนำกระเทียมบุบลงไปผัดจนได้กลิ่นหอม
- นำผักลวกลงไปผัดในกระทะ และเติมน้ำเล็กน้อย
- ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทรายจนได้รสตามชอบ คนให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ
6. ปีกไก่ทอด
ปีกไก่ทอด เมนูแทะเพลินที่ใคร ๆ ก็ตกหลุมรัก ต้องใช้ไฟแรงขณะที่ไก่เริ่มสุกเพื่อให้ไก่ไม่อมน้ำมัน กรอบนอก นุ่มใน วัตถุดิบ- ปีกไก่บน 300 กรัม
- ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- หมักไก่โดยคลุกเคล้ากับผงปรุงรสและเกลือให้เข้ากัน
- ตั้งน้ำมันให้เดือด แล้วนำปีกไก่ที่หมักแล้วเทลงไป
- ขณะทอดไก่ให้ใช้ไฟกลาง เมื่อใกล้สุกให้เร่งไฟให้แรงเพื่อไล่น้ำมัน จากนั้นปิดไฟพร้อมเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บ
7. ผัดหอยลาย
ผัดหอยลาย เมนูอร่อยจัดจ้าน ที่ต้องใช้ไฟแรงในการผัดเพื่อให้ความร้อนแผ่ไปทั่วกระทะอย่างทั่วถึง ทำให้พระเอกของจานอย่างหอยลายสุกเร็วขึ้น และสุกอย่างทั่วถึง วัตถุดิบ- หอยลายสด 500 กรัม
- ใบโหระพา 30 กรัม
- กระเทียมสับละเอียด 1 หัว
- พริกชี้ฟ้า 1-2 ถ้วย
- พริกขี้หนูบุบ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา ½ ช้อนโต๊ะ
- นำหอยลายมาล้างให้สะอาด และพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ผัดกระเทียมกับพริกขี้หนูด้วยไฟกลางจนมีกลิ่นหอม แล้วใส่น้ำพริกเผาลงไปผัดให้เข้ากัน
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลา ซอสหอยนางรม
- เร่งไฟแรง แล้วใส่หอยลายลงไปผัดจนสุก ใส่ใบโหระพาและพริกชี้ฟ้าลงไปผัดให้ผักสลด ปิดเตาแก๊สพร้อมเสิร์ฟได้เลย
8. ข้าวผัด
ข้าวผัด เมนูถูกปากของใครหลาย ๆ คน รู้หรือไม่ว่าเคล็ดลับความอร่อยของจานนี้คือการใช้ไฟแรงผัดข้าว เพื่อให้ข้าวร่วนดี มีกลิ่นหอมกระทะนั่นเอง วัตถุดิบ- ข้าวสวย 400 กรัม
- มันหมูแข็ง 80 กรัม
- เต้าหู้เนื้อแข็ง 90 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กระเทียมสับ 2 กลีบ
- หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- หัวไชโป๊สับ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำพริกเผา 1½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนชา
- ตั้งกระทะไฟอ่อน นำมันหมูแข็งลงไปเจียวจนน้ำมันออกจากมันหมู แล้วพักไว้จนสะเด็ดน้ำมัน
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันที่ได้จากการเจียวหมู พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่เต้าหู้ลงไปผัดจนเต้าหู้มีสีน้ำตาลสวย ตักขึ้นพักไว้
- นำกระเทียมซับ หอมแดงซอย และหัวไชโป๊สับ ลงไปผัดต่อในกระทะเดิม
- ใส่ไข่ไก่ลงไปยีให้แตกทั่วทั้งกระทะ เมื่อไข่เริ่มสุกให้ใส่ข้าวลงไป ใช้ไฟแรงผัดต่อ
- ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำพริกเผา และน้ำปลาจนได้รสชาติที่พอใจ
- ใส่เต้าหู้ที่พักไว้ตามลงไป ผัดให้เข้ากันดี ตักใส่จานโรยด้วยกากหมูเจียวพร้อมเสิร์ฟ
9. ไข่เจียว
มาถึงเมนูโปรดของทุกเพศทุกวัยอย่าง ไข่เจียว เคล็ดลับความอร่อยของไข่เจียว คือการใช้ไฟแรงให้น้ำมันร้อน เพื่อให้ได้ไข่เจียวที่ฟูสวย ไม่อมน้ำมัน น่ารับประทาน วัตถุดิบ- ไข่ไก่ 2-3 ฟอง
- น้ำปลา 1 ช้อนชา
- ตอกไข่ใส่ถ้วย ปรุงรสด้วยน้ำปลา แล้วตีไข่ให้เข้ากัน
- ใช้หม้อในการทอดแทนกระทะ โดยเทน้ำมันลงหม้อ ใช้เตาแก๊สไฟแรงให้ร้อนจนควันขึ้น
- เทไข่ลงกระทะ ใช้ไฟกลางจนไข่เริ่มเซ็ตตัวให้พลิกด้านทอดเพื่อให้กรอบฟูทั่วแผ่น
- เมื่อไข่สุกให้ใช้ไฟแรงเพื่อไล่น้ำมัน จากนั้นยกพักให้สะเด็ดน้ำมันพร้อมเสิร์ฟ
10. ผัดกะเพรา
ผัดกะเพรา เมนูยอดฮิตประจำร้านอาหารตามสั่ง เคล็ดลับตอนผัดคือต้องใช้ไฟแรงเพื่อให้มีกลิ่นหอมพริกกระเทียมและใบกะเพรา วัตถุดิบ- หมูสับ 2 ขีด
- กระเทียมไทย 1-2 หัว
- พริกแดง 9 เม็ด หรือตามระดับความเผ็ดที่ชอบ
- น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- ซีอิ๊วดำ ½ ช้อนชา
- ใบกะเพรา 1 กำมือ
- นำพริกแดงและกระเทียมไทยมาโขลกให้เข้ากัน
- ตั้งกระทะไฟค่อนไปทางแรง ใส่น้ำมัน แล้วนำพริกกระเทียมลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม
- ใส่หมูสับตามลงผัด ใส่น้ำเปล่าตามลงไป
- ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และซีอิ๊วดำจนได้รสตามชอบ
- เร่งไฟแรง ใส่ใบกระเพราลงไปผัดเร็ว ๆ แล้วปิดไฟทันที พร้อมเสิร์ฟคู่ข้าวสวยร้อน ๆ
11. กากหมูกรอบ
เคยสงสัยไหมว่าทำไมกากหมูกรอบตามร้านก๋วยเตี๋ยวมันกรุบกรอบ และเคี้ยวเพลินขนาดนี้ เพราะใช้ไฟแรง และลงทอดในน้ำมันร้อนจัด ทำให้ได้กากหมูกรอบแสนอร่อย วัตถุดิบ- เนื้อหมูสามชั้นติดมัน
- เกลือ
- พริกไทย
- หั่นเนื้อหมูเป็นชิ้นพอดีคำ คลุกเนื้อหมูด้วยเกลือ แล้วนำไปล้างด้วยน้ำเพื่อล้างเมือกสีขาวบนเนื้อหมู
- ปรุงรสเนื้อหมูด้วยเกลือและพริกไทย หมักทิ้งไว้ 15-20 นาที
- ตั้งกระทะ ใช้ไฟต่ำ นำเนื้อหมูลงไปเจียวจนน้ำมันหมูออก โดยเจียวประมาณ 1-2 ชั่วโมงจนเนื้อหมูหดตัว และได้น้ำมันเกือบท่วมเนื้อหมู
- นำเนื้อหมูออกมาพักประมาณ 1 ชั่วโมง
- ตั้งกระทะเตรียมทอดครั้งที่สอง โดยใช้น้ำมันที่เจียวได้ เปิดไฟแรงจนน้ำมันร้อนจัด
- นำเนื้อหมูลงไปทอดจนได้สีสวย จากนั้นให้ใช้ไฟกลาง ทอดจนเหลืองกรอบ เป็นอันเสร็จ
12. ไข่ดาวกรอบ
ไข่ดาวกรอบ เมนูง่าย ๆ แต่จะทำให้กรอบอร่อย แต่ไม่ไหม้ ไม่ง่ายเลย เคล็ดลับคือต้องใช้ไฟแรงทอดตลอด เพื่อให้ไข่ขาวกรอบ ไข่แดงไม่สุกจนเกินไป วัตถุดิบ- ไข่สด เพราะจะทำให้ไข่ขึ้นฟูสวยกว่าไข่เก่า
- ตอกไข่ใส่ถ้วยเตรียมไว้
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ใช้ไฟแรง
- เมื่อน้ำมันร้อน ให้ลดไฟเหลือไฟกลาง
- ค่อย ๆ เทไข่ลงไปในกระทะ จากนั้นใช้ตะหลิวหมุนไข่ไปเรื่อย ๆ
- เมื่อไข่สีเหลืองทองให้กลับด้าน และใช้ตะหลิวหมุนไข่ไปเรื่อย ๆ จนมีสีเหลืองทอง เป็นอันเสร็จ
13. สารพัดเมนูผัดเผ็ด
เอาใจคนรักอาหารรสชาติจัดจ้านถึงเครื่องพริกแกงอย่างเมนูผัดเผ็ด ซึ่งเป็นเมนูที่ต้องใช้ไฟแรงในการผัดตอนท้ายในระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนปิดไฟ เพื่อให้มีกลิ่นหอมไปทั่วทั้งบ้าน วัตถุดิบ- เนื้อสัตว์ตามชอบ 500 กรัม
- พริกแกงเผ็ด 2 ½ ช้อนโต๊ะ
- ใบกะเพรา 10 กรัม
- ใบมะกรูด 3 กรัม
- พริกชี้ฟ้าแดง 20 กรัม
- พริกไทยอ่อน 15 กรัม
- น้ำปลา 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- น้ำเปล่า
- หั่นเนื้อสัตว์ให้เป็นชิ้นพอดีคำ
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ร้อน แล้วนำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนกลิ่นหอม
- ใส่เนื้อสัตว์ลงไปผัดกับพริกแกง เติมน้ำเปล่าเล็กน้อยพอขลุกขลิก
- ปรุงรสชาติด้วยน้ำปลา น้ำตาลทรายจนได้รสชาติตามชอบ
- ขั้นตอนสุดท้ายใส่พริกชี้ฟ้า พริกไทยอ่อน ใบกะเพรา และใบกรูดตามลงไป เร่งไฟแรง ผัดให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ
14. สารพัดเมนูผัดฉ่า
ผัดฉ่า เมนูสุดท้ายที่รสจัดถึงใจไม่แพ้ผัดเผ็ด เคล็ดลับความอร่อยคือการใช้ไฟแรง วัตถุดิบ- เนื้อสัตว์ตามชอบ 300 กรัม
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกแดงสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- กระชายซอย ¼ ถ้วย
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยสด ตามชอบ
- พริกสด ตามชอบ
- ใบมะกรูด ตามชอบ
- ล้างเนื้อสัตว์ให้สะอาด
- ตั้งกระทะไฟปานกลาง ใส่น้ำมัน ตามด้วยพริกสับและกระเทียมสับลงไปผัด
- ใส่กระชายซอย พริกไทยสด พริกสด และใบมะกรูดตามลงไป จากนั้นผัดให้พอเข้ากัน
- ใส่เนื้อสัตว์ลงไปผัด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมันหอย และน้ำตาลทรายจนได้รสตามชอบ เร่งไฟแรงและผัดเร็ว ๆ ให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ
15. คะน้าหมูกรอบ
มาถึงเมนูสุดท้ายกันแล้วกับ คะน้าหมูกรอบ เมนูยอดฮิตประจำร้านข้าวต้มที่ต้องใช้ไฟแรงในการผัดเพื่อให้ผักคะน้าสุกกรอบ หอมกลิ่นกระทะ วัตถุดิบ- คะน้า 400 กรัม
- กระเทียมทุบ 20 กรัม
- พริกแดงจินดา 10 กรัม
- หมูกรอบ 150 กรัม
- น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1 – 2 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1 – 2 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1 – 2 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
- นำคะน้าไปล้างให้สะอาด เด็ดแยกใบและก้าน
- ใส่หมูกรอบ พริกแดงจินดา น้ำมันหอย น้ำปลา พริกไทยป่น น้ำเปล่า กระเทียมทุบ และก้านคะน้าลงในจานเตรียมไว้
- ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ไฟแรงจัด
- เมื่อกระทะร้อนให้ใส่ส่วนผสมทุกอย่างที่เตรียมไว้ลงไป
- ผัดเร็วให้เข้ากันจนก้านคะน้าสุก จากนั้นใส่ใบคะน้าตามลงไป ผัดให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ