เคาน์เตอร์ครัวมีกี่แบบเลือกยังไงให้ถูกใจ

ปัจจุบันเคาน์เตอร์ครัวมีมาตรฐานและมีให้เลือกหลากหลายแบบ ผู้ที่ต้องการทำห้องครัวหรือออกแบบห้องครัวควรรู้จักเลือกแบบเคาน์เตอร์ครัวให้เหมาะสมกับพื้นที่ เพื่อวางแผนติดตั้งอุปกรณ์ครัวแบบบิ้วอินที่ใช้กับครัวได้ เช่น เตาแก๊สแบบฝัง อ่างล้างจานแกรนิต และ เตาอบบิ้วอิน ทั้ง 3 นี้นับว่าเป็นสิ่งที่ต้องมีในห้องครัวเป็นอย่างมาก และต้องมีพื้นที่วางในการทำอาหารหรือเคาน์เตอร์การทำครัวของแต่ละครอบครัวด้วย

แบบเคาน์เตอร์ครัวที่เป็นมาตรฐานในปัจจุบัน

1. เคาน์เตอร์ครัวปูน

แบบเคาน์เตอร์ครัวครัวปูน จะเป็นการหล่อปูน และก่อฉาบตามที่ได้ออกแบบไว้ โดยใช้เหล็กเส้นและปูนในการก่อสร้างเพื่อสร้างเคาน์เตอร์ให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างข้อดีของการทำเคาน์เตอร์ครัวปูนคือ แข็งแรง ทนทาน เหมาะกับที่คนชอบทำอาหาร เสียค่าใช้จ่ายน้อยเมื่อเทียบกับเคาน์เตอร์ครัวแบบอื่น ในส่วนของการดูแลรักษา สามารถเช็ดคราบและทำความสะอาดง่าย ข้อจำกัดอาจใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างนานพอสมควร และมีแบบให้เลือกน้อย

2. เคาน์เตอร์ครัวบิ้วต์อิน

หากต้องการครัวที่สามารถออกแบบหรือจัดวางอุปกรณ์ให้เข้ากับพื้นที่ในห้องครัวโดยเฉพาะ แนะนำเคาน์เตอร์ครัวแบบบิ้วต์อิน เคาน์เตอร์ประเภทนี้มีดีไซน์สวยงาม สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย แต่มีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องออกแบบชิ้นส่วนต่าง ๆ เพื่อประกอบและติดตั้งอย่างละเอียด ซึ่งต้องทำหน้างานเท่านั้น ป้องกันความผิดพลาดและแก้ไขได้ทันที หากต้องการเคลื่อนย้ายเคาน์เตอร์ในอนาคตต้องรื้อถอนเพื่อสร้างใหม่เท่านั้น แต่ถ้าหากเลือกทำแบบเคาน์เตอร์ครัวแบบปูนก็สามารถการันตีความคงทนได้เป็นอย่างดีเลย

3. เคาน์เตอร์ครัวสำเร็จรูป

แบบเคาน์เตอร์ครัวสำเร็จรูป นิยมติดตั้งในคอนโดหรือบ้านที่มีห้องครัวขนาดเล็ก มีฟังก์ชันการใช้งานให้ครบครัน ใช้ประโยชน์ได้เยอะ ไม่ว่าจะเป็น ตู้เคาน์เตอร์ อ่างล้างจาน ชั้นวางของ วางเตา เป็นต้น สามารถดีไซน์เคาน์เตอร์ครัวได้ตามใจชอบ เลือกได้ทั้งวัสดุและสีได้ตามต้องการ ไม่เพียงเท่านั้นยังจัดวางวางหรือปรับเปลี่ยนมุมเคาน์เตอร์ได้ แต่ทั้งนี้จะมีข้อเสียตรงที่เคาน์เตอร์อาจจะไม่พอดีกับพื้นที่ หรือเกิดช่องว่างบริเวณด้านหลังหรือบริเวณใต้เคาน์เตอร์ได้

ขนาดของเคาน์เตอร์ครัวสำคัญยังไงเลือกยังไงให้เหมาะ

การเลือกขนาดของเคาน์เตอร์ครัวนั้น มีวิธีการเลือกมากมายโดยสามารถยึดขนาดห้อง หรือจะดูจากการวางเลย์เอาท์ของห้องครัวก็ได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน ดังนี้
  1. ครัวขนาดเล็กหรือครัวในคอนโดที่มีพื้นที่ห้องประมาณ 3-5 ตารางเมตร แนะนำให้จัดวางเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว I โดยให้เคาน์เตอร์ครัวอยู่ติดกับผนังไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง เวลาทำครัวจะเหมาะกับการทำคนเดียว และมีงานครัวที่ไม่เยอะ หากใครไม่ได้ชื่นชอบการทำอาหารก็สามารถเลือกครัวแบบนี้ได้เช่นเดียวกัน เพราะถือว่าเป็นแบบที่มีราคาประหยัดพอสมควร
  2. ครัวที่มีพื้นที่ห้อง 6 ตารางเมตรขึ้นไป แนะนำให้จัดวางแบบเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L ตกแต่งด้วยโต๊ะ ซึ่งทรงนี้นับว่าเป็นที่นิยมเพราะสามารถทำครัวแบบเข้ามุมได้ทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่การทำครัวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และถ้าหากอยากเพิ่มโต๊ะรับประทานอาหารเล็ก ๆ ก็สามารถนำมาอยู่ในห้องเดียวกันกับห้องครัวได้เช่นเดียวกัน
  3. ครัวที่มีพื้นที่ห้อง 9 ตารางเมตรขึ้นไป แนะนำให้จัดวางเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว U แต่จะเชื่อมเคาน์เตอร์ครัวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพื้นที่หรือผนังด้านเชื่อมว่ามีช่องแสงมากน้อยเพียงใด ซึ่งถ้าหากมีความยาวของช่องแสงจากพื้นถึงฝ้าผนัง ไม่ควรสร้างเคาน์เตอร์ครัวบังหน้าต่าง เพราะอาจทำให้ห้องครัวตันได้
  4. ครัวที่มีพื้นที่ห้อง 12 ตารางเมตรขึ้นไป แนะนำให้จัดแบบเคาน์เตอร์ครัวที่มีเกาะกลาง โดยทำเป็นขนาดเล็กหรือใหญ่ตามความเหมาะสม เหมาะกับครัวทุกแบบ แต่ครัวแบบนี้จะนิยมใช้กับคอนโดแบบ Open Plan เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหาร แต่ต้องมีพื้นที่เยอะพอสมควร เช่น มีพื้นที่ครัวกว้างไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตร เป็นต้น

สรุปบทความ

เคาน์เตอร์ครัวสามารถดีไซน์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนชอบทำอาหาร คนไม่ชอบทำอาหาร หรือคนชอบตกแต่งบ้าน ซึ่งต้องมีการวัดขนาดพื้นที่ตามสัดส่วนการใช้งาน เพื่อความสวยงามและสะดวก และถ้าคุณกำลังมองหาเครื่องครัวที่มีคุณภาพสามารถลงล็อคกับพื้นที่ห้องครัวได้ทุกขนาด หรือหากสนใจอยากเลือกแบบบิ้วอินก็สามารถมาดูเครื่องครัวของทาง Tecnogas กันได้เลย
Select the fields to be shown. Others will be hidden. Drag and drop to rearrange the order.
  • Image
  • Rating
  • Price
  • Description
  • Content
  • Additional information
  • Add to cart
เปรียบเทียบสินค้า