คำถามยอดฮิตสำหรับคนที่อยากจะปรับเปลี่ยนอ่างล้างจานภายในห้องครัวที่ว่า คงเกิดข้อสงสัยเป็นแน่ว่า ควรเลือกซื้อซิ้งล้างจาน 2 หลุม หรือซิ้งล้างจาน 1 หลุมจะดีกว่ากัน แล้วควรเลือกอย่างไรถึงจะเหมาะกับห้องครัวภายในบ้านของเรามากที่สุด ดังนั้นวันนี้ Tecnogasthai จะขอมาแนะนำข้อดี – ข้อด้อยของซิ้งล้างจาน 2 หลุม และซิ้งล้างจาน 1 หลุมแบบละเอียดกัน ในการเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการช่วยพิจารณาเลือกซื้อของคุณ เพื่อให้คุณได้มีอ่างล้างจานที่เหมาะสมและตอบโจทย์การใช้งานของคุณให้ได้มากที่สุด
ซิ้งล้างจาน 1 หลุม-2 หลุม คืออะไร
ซิ้งล้างจาน 1 หลุม-2 หลุม คือ ประเภทของซิ้งที่มีจำนวนหลุมตามชื่อประเภทการใช้งาน ซึ่งเป็นขนาดที่นิยมใช้งานในครัวเรือนไทยมากที่สุด เพราะตอบโจทย์ขนาดครอบครัวในยุคปัจจุบันที่มีขนาดเล็กไปถึงปานกลาง อย่างเช่น ถ้าเป็นครอบครัวเดี่ยว หรือมีจำนวนผู้อยู่อาศัยเพียง 1-2 คน ซิ้งล้างจานแบบหลุมเดียวก็จะตอบโจทย์การใช้พื้นที่อย่างจำกัดได้ดีกว่า แต่หากเป็นครอบครัวที่อยู่อาศัยกัน 2-4 คนขึ้นไป ซิ้งแบบ 2 หลุมก็จะตอบโจทย์การใช้งานที่หนักมากขึ้นได้ดีกว่า
ซิ้งล้างจาน 1 หลุมมีกี่ประเภท
ซิ้งล้างจาน 1 หลุมจะมี 2 ประเภทให้ได้เลือกใช้งาน คือ ซิ้งแบบขาตั้ง และซิ้งแบบฝังเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งมีข้อดีและข้อด้อยในการเลือกใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้
ซิ้งล้างจาน 1 หลุมแบบขาตั้ง
ซิ้งหลุมเดี่ยวแบบขาตั้ง มีข้อดีในการเคลื่อนย้ายที่สะดวก สามารถวางใช้งานได้ทั้งภายใน และภายนอกบ้านได้อย่างตอบโจทย์ อีกทั้งยังมีราคาที่ค่อนข้างจะถูกกว่าแบบฝัง
ซิ้งล้างจาน 1 หลุมแบบฝัง
ซิงค์ฝัง 1 หลุม มีข้อดีในเรื่องของการประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน เพราะสามารถฝังลงไปในบริเวณเคาน์เตอร์ครัวได้เลย อีกทั้งยังทำให้ห้องครัวดูสวยลงตัวมากกว่า จึงเป็นทางเลือกยอดนิยมในเกือบทุกครัวเรือน
ซิ้งล้างจาน 1 หลุม มีข้อดี–ข้อด้อยอย่างไร
หลายคนอาจจะยังนึกไม่ออก ว่าซิ้งล้างจานแบบหลุมเดี่ยวนั้นมีข้อดี หรือด้อยอะไรบ้างก่อนทำการเลือกไปใช้งานในครัว มาดูไปพร้อม ๆ กันดีกว่า
- ข้อดี ซิ้งล้างจานแบบหลุมเดี่ยวมักจะมีขนาดที่เล็กกว่า 2 หลุม จึงประหยัดพื้นที่ในการใช้งานได้มากกว่า เลยตอบโจทย์ห้องครัวที่มีขนาดกะทัดรัด ไม่ได้มีการทำครัวอยู่เป็นประจำ
- ข้อด้อย ด้วยขนาดที่เล็กตามที่ว่าไป ทำให้พื้นที่ในการล้าง หรือจัดเตรียมวัตถุดิบอาจจะไม่เพียงพอ เมื่อต้องปรุงอาหารมื้อใหญ่ แต่ในแง่การใช้งานนั้นก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับซิ้งล้างจานแบบ 2 หลุมอย่างมีนัย
ซิ้งล้างจาน 1 หลุม เหมาะกับใคร
ซิ้งล้างจานแบบหลุมเดี่ยว ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยตามคอนโด อพาร์ทเม้นท์ หรือครอบครัวที่มีคนอยู่อาศัยเพียง 1-2 คน เพราะไม่ต้องมีการใช้งานพื้นที่ในการล้าง หรือจัดเตรียมวัตถุดิบที่เยอะ และอาจจะไม่ได้ต้องการเข้าครัวทำอาหารเป็นประจำ ซิ้งประเภทนี้จึงตอบโจทย์มากที่สุด
ซิ้งล้างจาน 2 หลุมมีกี่ประเภท
ซิ้งล้างจาน 2 หลุม ก็มี 2 ประเภทในการเลือกซื้อใช้งานเหมือนซิ้งแบบหลุมเดี่ยว นั่นก็คือ แบบทั้งมีขาตั้ง และแบบฝังลงบนเคาน์เตอร์ครัว
ซิ้งล้างจาน 2 หลุมแบบขาตั้ง
ซิ้งล้างจานประเภทนี้ จะตอบโจทย์การใช้งานสำหรับการทำครัวที่หนัก และต้องการพื้นที่ในการล้างที่มากขึ้น และสามารถใช้ได้ทั้งภายในบ้าน และนอกบ้านโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลรักษามากนัก
ซิ้งล้างจาน 2 หลุมแบบฝัง
ซิงค์ฝัง 2 หลุม เป็นประเภทที่นิยมมากที่สุดในการใช้งานในครัวเรือน เพราะมีขนาดที่กำลังดี ตอบโจทย์การใช้งานในการล้าง และจัดเตรียมวัตถุดิบในการปรุงอาหารได้ครอบคลุม และยังมีข้อดีคือประหยัดพื้นที่ ไม่เกะกะเพราะฝังลงไปบนเคาน์เตอร์ครัวเลย
ซิ้งล้างจาน 2 หลุม มีข้อดี-ข้อด้อยอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง
ก่อนจะทำการเลือกใช้งานซิ้งแบบ 2 หลุม เรามาเปรียบเทียบข้อดี และข้อด้อยในการใช้งานกันก่อนดีกว่า จะได้ไม่พลาดเมื่อต้องนำไปใช้งานจริงในครัว
- ข้อดี ด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้น รวมไปถึงมี 2 หลุมแยกในการใช้งาน จึงตอบโจทย์การล้างอุปกรณ์ครัวขนาดใหญ่ หรือจานชามจำนวนมากได้มากกว่า อีกทั้งยังมีพื้นที่ในการพักล้าง หรือจัดเตรียมวัตถุดิบได้ตอบโจทย์กว่าซิ้งแบบหลุมเดี่ยว
- ข้อด้อย ซิ้งแบบ 2 หลุมนั้นกินพื้นที่ในการติดตั้งค่อนข้างเยอะ และอาจจะทำให้พื้นที่เก็บของใต้เคาน์เตอร์นั้นหายไป ในกรณีที่ติดตั้งแบบฝัง หรือต่อให้เป็นแบบขาตั้ง ก็ยังค่อนข้างจะกินพื้นที่ในการใช้งาน จึงต้องคำนวณขนาดพื้นที่ในการใช้งานครัวให้ดี
ซิ้งล้างจาน 2 หลุม เหมาะกับใคร
ซิ้งล้างจาน 2 หลุม เหมาะกับคนที่เข้าครัวทำอาหารอยู่เป็นประจำ หรือครอบครัวขนาดกลางที่มีสมาชิก 2-4 คนขึ้นไป ที่ต้องใช้พื้นที่ในการพักล้าง จัดเตรียมวัตถุดิบ ซึ่งโดยมากมักจะอยู่อาศัยเป็นบ้าน จึงมีพื้นที่ในการวางซิ้งแบบ 2 หลุมไว้ใช้งานได้อย่างตอบโจทย์
แนะนำ 5 ซิ้งล้างจาน 1 หลุม-2 หลุม คุณภาพดี น่าใช้งานจาก Tecnogas
หากคุณกำลังมองหาซิ้งล้างจานคุณภาพดี ผลิตจากวัสดุเกรดพรีเมียม แข็งแรง ทนทาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน Tecnogas เรามีมาแนะนำแบบจัดเต็มกันถึง 5 รุ่น ชอบแบบไหน เลือกไปใช้งานกันได้เลย
1. ซิ้งล้างจาน 1 หลุม 1 ที่พัก แบบขาตั้ง Tecnoplus รุ่น TNP TT 075 SS ขนาด 75 ซม. ลึก 15.5 ซม.
รุ่นแรกที่ทาง Tecnogas เราอยากจะแนะนำ คือรุ่น TNP TT 075 SS เป็นซิ้งล้างจาน 1 หลุม 1 ที่พัก แบบขาตั้ง พร้อมชุดสะดืออ่าง และชุดท่อน้ำทิ้ง ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างสะดวกทั้งภายนอก และภายใน ผลิตจากวัสดุสเตนเลส มีก้นหลุมลึก 15.5 ซม. ตอบโจทย์การครัวเบา ๆ ได้อย่างสบาย
2. ซิ้งล้างจาน 1 หลุม 1 ที่พัก แบบขาตั้ง Tecnoplus รุ่น TNP TT 100 S ขนาด 100 ซม. ลึก 19 ซม.
มาต่อกันกับตัวที่สอง กับรุ่น TNP TT 100 S กับซิ้งแบบ 1 หลุม 1 ที่พัก แบบขาตั้งที่เคลื่อนย้ายได้สะดวก มาพร้อมก้นลึก 19 ซม. ตอบโจทย์การล้างได้อย่างเต็มที่ ผลิตจากวัสดุสเตนเลส พร้อมชุดสะดืออ่างและชุดท่อน้ำทิ้งติดมาด้วย ช่วยให้ใช้งานได้อย่างยาวนานในทุกงานครัว
3. ซิ้งล้างจาน 2 หลุม 1 ที่พัก แบบฝัง Tecnoplus รุ่น TNP FLOW 21116 S ขนาด 116 ซม. ลึก 20.5 ซม.
ขยับกันมาในรุ่น TNP FLOW 21116 S เป็นซิ้ง 2 หลุมแบบฝังพร้อมที่พัก มาในโครงสร้างสเตนเลสหนา 1.2 มม. โดยแบ่งเป็น 1 หลุมใหญ่ และ 1 หลุมเล็ก ในความลึก 19 ซม. พร้อมชุดสะดืออ่าง และท่อดักกลิ่นในการใช้งาน ตอบโจทย์คนที่ต้องการพื้นที่ในการพักล้าง และจัดเตรียมวัตถุดิบอย่างจริงจังมากขึ้น
4. ซิ้งล้างจานแกรนิต 2 หลุม 1 ที่พัก แบบฝัง Tecnoplus รุ่น TNP GIN 2B1D (BLACK) ขนาด 116 ซม. ลึก 20 ซม.
ตัวถัดมาอีกหนึ่งตัวที่เราอยากจะแนะนำ คือรุ่น TNP GIN 2B1D (BLACK) เป็นซิ้งฝังแบบ 2 หลุม 1 ที่พัก ก้นลึก 20 ซม. มาในวัสดุแกรนิตสีดำ ดูเรียบหรู มีสไตล์ และยังแข็งแรง ทนทานต่อรอยขีดข่วนต่าง ๆ จึงตอบโจทย์งานครัวได้ทุกประเภทได้อย่างลงตัว
5. ซิ้งล้างจาน 2 หลุม 1 ที่พัก แบบฝัง Tecnoplus รุ่น TNP 2130 UD ขนาด 120 ซม. ลึก 22 ซม.
รุ่นสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คือรุ่น TNP 2130 UD ที่ Tecnogas เราอยากจะแนะนำ เป็นซิ้งสเตนเลสคุณภาพสูงแบบ 2 หลุม พร้อม 1 ที่พัก ตอบโจทย์งานครัวทุกประเภท ไม่ว่าจะใช้ล้างอุปกรณ์ครัวขนาดใหญ่ หรือจัดเตรียมของสดต่าง ๆ ก็เพียงพอต่อการใช้งาน ด้วยขนาดที่ใหญ่พร้อมก้นหลุมลึก 22 ซม. อีกทั้งยังมีชุดสะดืออ่าง ชุดท่อน้ำทิ้ง และคลิปยึดไว้ให้พร้อมใช้งานทันที
สรุปข้อดี-ข้อด้อยของซิ้งล้างจาน 1 หลุม-2 หลุม ต้องเลือกอย่างไร
การเลือกใช้งานซิ้งล้างจาน 1 หลุมกับ 2 หลุม ควรจะคำนึงถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของตัวคุณเป็นหลัก เพราะนั่นจะเป็นตัวกำหนดว่าเราต้องการเข้าครัวทำอาหารบ่อยแค่ไหน และต้องการพื้นที่ในการใช้งานกว้างน้อยเพียงใด ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานั้น จะเป็นเหตุปัจจัยในการเลือกซื้อให้ตอบโจทย์งานครัวที่คุณไม่ควรพลาดเด็ดขาด