Day: February 18, 2025

ปัจจุบันเตาไฟฟ้าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งาน แต่การเลือกว่าเตาไฟฟ้ารุ่นไหนดีนั้นอาจทำให้หลายคนสับสน เพราะมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ แต่ละประเภทมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน บทความนี้เราจะมาแนะนำข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อเตาไฟฟ้าให้เหมาะกับการใช้งานกัน

เตาไฟฟ้ารุ่นไหนดี มีกี่ประเภท

ก่อนจะตัดสินใจว่าเตาไฟฟ้ารุ่นไหนดี ควรทำความเข้าใจประเภทของเตาไฟฟ้าที่มีในท้องตลาด โดยแบ่งตามลักษณะการให้ความร้อนได้ 3 ประเภทหลัก ได้แก่ เตาไฟฟ้าเพลตร้อน เตาแม่เหล็กไฟฟ้า และเตาอินฟราเรดหรือเตาเซรามิก แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน

เตาไฟฟ้าเพลตร้อน

เตาไฟฟ้าเพลตร้อนถือเป็นรูปแบบดั้งเดิมที่สุดในการเลือกว่าเตาไฟฟ้ารุ่นไหนดี ใช้หลักการทำงานโดยการให้กระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดความร้อนที่ฝังอยู่ใต้แผ่นเหล็กหล่อ ทำให้แผ่นเหล็กร้อนและส่งผ่านความร้อนไปยังภาชนะ ข้อดีคือราคาไม่แพง ใช้งานง่าย สามารถใช้ได้กับภาชนะทุกประเภท และทนทานต่อการใช้งาน แต่มีข้อจำกัดคือใช้พลังงานไฟฟ้าสูง ใช้เวลานานในการทำความร้อน และเมื่อปิดเตาแล้วความร้อนยังคงค้างอยู่ที่แผ่นความร้อนนานพอสมควร ทำให้ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย

เตาแม่เหล็กไฟฟ้า

เตาแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย ใช้หลักการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อสร้างความร้อนโดยตรงที่ก้นภาชนะ ทำให้ประหยัดพลังงานมากกว่าเตาไฟฟ้าประเภทอื่น สำหรับคำถามว่าเตาไฟฟ้ารุ่นไหนดีนั้น เตาแม่เหล็กไฟฟ้าถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะให้ความร้อนเร็ว ควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำ หน้าเตาไม่ร้อนเพราะความร้อนเกิดที่ภาชนะโดยตรง แต่มีข้อจำกัดคือต้องใช้ภาชนะที่มีคุณสมบัติแม่เหล็กเท่านั้น และมีราคาสูงกว่าเตาไฟฟ้าประเภทอื่น

เตาอินฟราเรด หรือ เตาไฟฟ้าเซรามิก

เตาอินฟราเรดหรือเตาไฟฟ้าเซรามิกใช้หลักการแผ่รังสีความร้อนผ่านกระจกเซรามิกที่ทนความร้อนสูง เมื่อพิจารณาว่าเตาไฟฟ้ารุ่นไหนดี เตาประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามและการใช้งานที่หลากหลาย เพราะสามารถใช้ได้กับภาชนะทุกประเภท หน้าเตาทำความสะอาดง่าย มีระบบป้องกันความร้อนสูงเกิน และมักมาพร้อมฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย แต่ต้องระวังเรื่องการกระทบกระแทกที่อาจทำให้กระจกแตก และใช้พลังงานมากกว่าเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

5 เตาไฟฟ้ารุ่นยอดฮิตสำหรับคนทำอาหาร

เมื่อต้องตัดสินใจว่าเตาไฟฟ้ารุ่นไหนดี วันนี้เรานำเสนอ 5 รุ่นยอดนิยมที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานจริง โดยเน้นรุ่นที่มีคุณภาพสูง ใช้งานง่าย ทนทาน และมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การทำอาหารในครัวไทย

เตาเซรามิคไฟฟ้า 2 หัวเตา แบบฝังเฟอร์นิเจอร์ Tecnoplus รุ่น TNP VT 302 DGเตาแม่เหล็กไฟฟ้า + เซรามิคไฟฟ้า Tecnoplus รุ่น TNP IHB 7043 B

เตาไฟฟ้ารุ่นนี้มาพร้อมโครงสร้างที่ผลิตจากกระจกเซรามิกคุณภาพสูง ทนความร้อนได้ดี และไม่แตกร้าวง่าย เหมาะสำหรับการติดตั้งแบบฝังเฟอร์นิเจอร์ (Built-in) ซึ่งช่วยเสริมความหรูหราให้กับเคาน์เตอร์ครัว หัวเตามีกำลังไฟรวมสูงสุดถึง 3,000 วัตต์ โดยแบ่งเป็นหัวเตาขนาด 200 มม. กำลังไฟ 1,800 วัตต์ และหัวเตาขนาด 165 มม. กำลังไฟ 1,200 วัตต์ สามารถปรับระดับความร้อนได้ถึง 9 ระดับ พร้อมระบบควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส (Touch Control) เพิ่มความสะดวกสบาย อีกทั้งยังสามารถตั้งเวลาปรุงอาหารได้สูงสุด 99 นาที มาพร้อมระบบป้องกันการสัมผัสโดยบังเอิญ และระบบแสดงไฟเตือนเมื่อยังมีความร้อนคงเหลือที่หัวเตา ขนาดสำหรับการเจาะติดตั้งอยู่ที่ 69 x 37 ซม. ส่วนขนาดของตัวเตาอยู่ที่ 28.8 x 52 x 5.5 ซม. ดีไซน์ทันสมัยด้วยสีดำที่ช่วยเสริมความเรียบหรูให้กับห้องครัวของเรา

เตาเซรามิคไฟฟ้า 2 หัวเตา แบบฝังเฟอร์นิเจอร์                                                                          

เตาเซรามิกไฟฟ้าแบบ 2 หัวเตา ที่ออกแบบสำหรับการติดตั้งแบบฝังเฟอร์นิเจอร์ เพิ่มความหรูหราให้กับห้องครัว มาพร้อมชุดทำความร้อนลวดไฟฟ้า E.G.O จากประเทศเยอรมนี ที่มีคุณภาพสูง หัวเตามีกำลังไฟรวม 3,000 วัตต์ โดยหัวเตาด้านซ้ายมีกำลังไฟ 1,800 วัตต์ และหัวเตาด้านขวา 1,200 วัตต์ สามารถปรับการทำงานได้ถึง 9 ระดับ พร้อมฟังก์ชันตั้งเวลาการทำงานตั้งแต่ 0-99 นาที เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบป้องกันการสัมผัสโดยบังเอิญ (Child Lock) และระบบแสดงไฟเตือนเมื่อมีความร้อนคงเหลือบนหัวเตา อีกทั้งยังมีระบบตัดการทำงานอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในทุกการใช้งาน

เตาแม่เหล็กไฟฟ้า + เซรามิคไฟฟ้า Tecnoplus รุ่น TNP IHB 7043 B

เตาเซรามิกไฟฟ้าสำหรับการติดตั้งแบบฝังเฟอร์นิเจอร์ มาพร้อมกำลังไฟรวมสูงสุดถึง 3,600 วัตต์ โดยหัวเตาด้านซ้ายเป็นระบบ Induction ขนาด 180 มม. มีกำลังไฟ 1,800 วัตต์ และหัวเตาด้านขวาเป็นระบบ Ceramic ขนาด 200 มม. มีกำลังไฟ 1,800 วัตต์ สามารถปรับการทำงานได้ถึง 9 ระดับ พร้อมฟังก์ชันตั้งเวลาการทำงานตั้งแต่ 0-99 นาที เพื่อความสะดวกในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันการสัมผัสโดยบังเอิญ (Child Lock) ระบบแสดงไฟเตือนเมื่อหัวเตายังคงความร้อน และระบบตัดการทำงานอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในทุกการใช้งาน 

เตาเซรามิคไฟฟ้า 3 หัวเตา แบบฝังเฟอร์นิเจอร์ Tecnoplus รุ่น TNP CHB 3060 PAT GPBB

เตาเซรามิกไฟฟ้าแบบฝังเฟอร์นิเจอร์ ขอบวัสดุสเตนเลส ออกแบบให้ดูหรูหราและแข็งแรง มาพร้อมหัวเตาจำนวน 3 หัว มีกำลังไฟรวมสูงสุดถึง 5,700 วัตต์ ใช้ชุดทำความร้อนลวดไฟฟ้าคุณภาพสูงจาก E.G.O ประเทศเยอรมนี โดยหัวเตาแรกเป็นแบบ 3 วงไฟ ขนาด 150 มม./225 มม./295 มม. พร้อมกำลังไฟ 1,050/1,950/2,700 วัตต์ หัวเตาที่สองขนาด 200 มม. กำลังไฟ 1,800 วัตต์ และหัวเตาที่สามขนาด 165 มม. กำลังไฟ 1,200 วัตต์ เตาสามารถควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส ปรับระดับความร้อนได้ 9 ระดับ และตั้งเวลาปรุงอาหารได้สูงสุด 99 นาที เพื่อความปลอดภัย เตายังมีระบบป้องกันการสัมผัสโดยบังเอิญ (Child Lock) และระบบแสดงไฟเตือนเมื่อมีความร้อนคงเหลือบนหัวเตา ช่วยให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

เตาเซรามิคไฟฟ้า 4 หัวเตา แบบฝังเฟอร์นิเจอร์ Tecnoplus รุ่น TNP VT 4060 MN

เตาไฟฟ้าดีไซน์หรูหราด้วยโครงสร้างกระจกเซรามิกคุณภาพสูง มาพร้อมพื้นที่ประกอบอาหาร 4 หัวเตา รองรับการปรุงอาหารได้หลากหลาย โดยมี 2 หัวเตาวงคู่ ขนาด 200 มม. กำลังไฟ 1,800 วัตต์ และอีก 2 หัวเตา ขนาด 165 มม. กำลังไฟ 1,200 วัตต์ รวมกำลังไฟสูงสุดถึง 6,000 วัตต์ ตัวเตาสามารถปรับความร้อนได้ 9 ระดับ พร้อมฟังก์ชันตั้งเวลาปรุงอาหารสูงสุด 99 นาที เพื่อความปลอดภัย มีระบบป้องกันการสัมผัสโดยบังเอิญ ตัวเตาขนาดกะทัดรัด 59 x 52 x 5 ซม. สีดำ ช่วยเพิ่มความโมเดิร์นให้กับห้องครัวของคุณ

เตาไฟฟ้าเซรามิกเหมาะกับไลฟ์สไตล์แบบไหน

เตาไฟฟ้าเซรามิกเหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่ใส่ใจเรื่องความสวยงามและความปลอดภัย รวมถึงผู้ที่ชอบทำอาหารหลากหลายประเภท เพราะสามารถใช้ได้กับภาชนะทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นกระทะก้นแบน หม้อสเตนเลส หรือภาชนะแก้วทนความร้อน เหมาะกับการทำอาหารทั้งแบบผัด ต้ม ตุ๋น หรือแม้แต่การทอด ด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ ทำให้ได้รสชาติอาหารที่คงที่ นอกจากนี้ยังเหมาะกับคอนโดหรือพื้นที่จำกัด เพราะมีดีไซน์บางเฉียบ ติดตั้งง่าย และไม่ต้องกังวลเรื่องควันหรือกลิ่น

ข้อดีของเตาไฟฟ้าเซรามิก

สำหรับคำถามว่าเตาไฟฟ้ารุ่นไหนดี เตาเซรามิกมีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ทั้งด้านการออกแบบ การใช้งาน และความปลอดภัย มาดูรายละเอียดแต่ละด้านกัน

ดีไซน์สวย

เตาไฟฟ้าเซรามิกโดดเด่นด้านการออกแบบที่ทันสมัย ด้วยหน้าเตากระจกเซรามิกสีดำเงาวาว บางเฉียบ ดูหรูหรา เข้ากับการตกแต่งครัวได้ทุกสไตล์ มีทั้งแบบติดตั้งแบบฝังและแบบตั้งโต๊ะ หน้าจอแสดงผลแบบดิจิทัลที่มองเห็นชัดเจนแม้ในที่มืด ปุ่มควบคุมแบบสัมผัสที่ตอบสนองรวดเร็ว วงแหวนความร้อนมีไฟ LED แสดงการทำงาน ทำให้รู้ว่าบริเวณไหนกำลังร้อนอยู่ เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน

ทำความสะอาดได้ง่าย

เมื่อพิจารณาว่าเตาไฟฟ้ารุ่นไหนดี การดูแลรักษาเป็นปัจจัยสำคัญ เตาเซรามิกมีข้อได้เปรียบเพราะหน้าเตาเรียบเนียน ไม่มีซอกมุม ทำความสะอาดง่ายด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ หรือน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะ คราบอาหารไม่ฝังแน่น เพราะความร้อนจะกระจายสม่ำเสมอไม่ไหม้เป็นจุด พื้นผิวกระจกเซรามิกทนต่อรอยขีดข่วน ไม่เป็นคราบด่าง และไม่เปลี่ยนสีแม้ใช้งานเป็นเวลานาน

ทนความร้อนสูง

กระจกเซรามิกที่ใช้ผลิตหน้าเตาได้รับการพัฒนาให้ทนความร้อนสูงถึง 700 องศาเซลเซียส ไม่แตกร้าวเมื่อเจอความร้อนสูงหรือการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิกะทันหัน เหมาะสำหรับการทำอาหารที่ต้องใช้ไฟแรง เช่น การผัดไฟแรง หรือการต้มน้ำ มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่ออุณหภูมิสูงเกินกำหนด และระบบแจ้งเตือนความร้อนตกค้างเพื่อความปลอดภัย

การเลือกว่าเตาไฟฟ้ารุ่นไหนดีนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของแต่ละครอบครัว Tecnogas เรามีเตาไฟฟ้าคุณภาพสูงจากประเทศอิตาลี ทั้งแบบเซรามิกและแม่เหล็กไฟฟ้า ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล พร้อมการรับประกันที่ให้ความมั่นใจ และการบริการหลังการขายที่ครอบคลุม เพื่อให้ทุกมื้ออาหารของครอบครัวเต็มไปด้วยความอร่อยและความปลอดภัย

การเลือกเตาอบที่เหมาะสมนั้นมีความสำคัญมาก เพราะจะส่งผลต่อรสชาติและคุณภาพของอาหารที่ทำ เตาอบ Convection คือนวัตกรรมที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ด้วยระบบที่ช่วยทำให้อาหารสุกเร็วและสม่ำเสมอ บทความนี้เราจึงจะมาอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเตาอบ Convection และประเภทอาหารที่เหมาะกับการใช้งานมาฝากกัน

เตาอบ Convection คืออะไร

เตาอบ Convection คือ เตาอบที่ติดตั้งพัดลมไว้ด้านในตัวเครื่อง เพื่อหมุนเวียนอากาศร้อนให้กระจายทั่วถึงทุกพื้นที่ภายในเตา ทำให้อาหารได้รับความร้อนสม่ำเสมอจากทุกทิศทาง ต่างจากเตาอบทั่วไปที่ให้ความร้อนจากขดลวดด้านบนและล่างเท่านั้น ระบบ Convection ช่วยลดเวลาในการทำอาหารลงได้ถึง 25% และยังช่วยประหยัดพลังงาน เพราะใช้อุณหภูมิต่ำกว่าเตาอบทั่วไปประมาณ 25 องศาเซลเซียสแต่ได้ผลลัพธ์เท่ากัน

เตาอบ Convection แตกต่างกับเตาอบประเภทอื่นอย่างไร

การเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างเตาอบแต่ละประเภทจะช่วยให้เข้าใจว่าเตาอบ Convection คืออะไร และมีจุดเด่นอย่างไร โดยแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันดังนี้

เตาอบไฟฟ้า

เตาอบไฟฟ้าเป็นประเภทที่พบเห็นได้ทั่วไปในครัวเรือน มีทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบฝัง แต่ละแบบมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน

• เตาอบแบบตั้งโต๊ะ เตาอบแบบตั้งโต๊ะใช้งานง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก และมีราคาไม่สูงมากนัก เหมาะสำหรับครัวขนาดเล็กหรือผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำอาหาร ข้อจำกัดคือมีขนาดเล็ก ทำให้อบอาหารได้ในปริมาณจำกัด และการกระจายความร้อนอาจไม่สม่ำเสมอเท่าเตาอบขนาดใหญ่ บางรุ่นอาจไม่มีฟังก์ชันพิเศษเช่นระบบ Convection
• เตาอบแบบฝัง เตาอบแบบฝังให้ความสวยงาม ประหยัดพื้นที่ และมักมีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย รวมถึงระบบ Convection ขนาดใหญ่กว่าแบบตั้งโต๊ะ ทำให้อบอาหารได้ปริมาณมาก แต่มีราคาสูงกว่าและต้องมีการติดตั้งอย่างถูกวิธี

เตาอบขนาดใหญ่

เตาอบขนาดใหญ่มักใช้ในร้านอาหารหรือร้านเบเกอรี่ สามารถอบอาหารได้ครั้งละมาก ๆ มีระบบควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ และมักมีระบบ Convection เป็นมาตรฐาน แต่ใช้พื้นที่มาก ราคาสูง และสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าเตาอบขนาดเล็ก จึงไม่เหมาะกับการใช้งานในครัวเรือนทั่วไป

เตาอบคอมบิ

เตาอบคอมบิเป็นการผสมผสานระหว่างเตาอบธรรมดากับเตาอบไอน้ำ บางรุ่นมีระบบ Convection รวมอยู่ด้วย ทำให้สามารถปรุงอาหารได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งอบ นึ่ง และอุ่น ช่วยรักษาความชุ่มฉ่ำของอาหาร แต่มีราคาสูงและต้องการการดูแลรักษาที่มากกว่าเตาอบทั่วไป

เตาอบไมโครเวฟ

เตาอบไมโครเวฟใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการทำให้อาหารร้อน แตกต่างจากเตาอบ Convection ที่ใช้ความร้อนและการหมุนเวียนอากาศ ไมโครเวฟทำอาหารได้รวดเร็วกว่าแต่ไม่สามารถทำให้อาหารกรอบหรือมีสีสวยได้เหมือนเตาอบ บางรุ่นมีฟังก์ชัน Convection เพิ่มเติม ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลายขึ้น

จุดเด่นและข้อจำกัดของเตาอบ Convection

ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เราควรทำความเข้าใจว่าเตาอบ Convection คือเตาอบที่มีทั้งข้อดีและข้อจำกัด เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้เหมาะสมกับความต้องการ

จดเด่นของเตาอบ Convection

เตาอบ Convection มีจุดเด่นที่ทำให้ได้รับความนิยม เริ่มจากการกระจายความร้อนที่สม่ำเสมอด้วยระบบพัดลม ทำให้อาหารสุกเท่ากันทุกชิ้น ไม่ว่าจะวางตำแหน่งใดในเตา ช่วยลดเวลาในการทำอาหารได้ถึง 25% เมื่อเทียบกับเตาอบทั่วไป ประหยัดพลังงานเพราะใช้อุณหภูมิต่ำกว่า อาหารที่อบจะมีสีสวย กรอบนอกนุ่มใน โดยเฉพาะขนมปังและเบเกอรี่ต่าง ๆ สามารถอบอาหารได้หลายชั้นพร้อมกัน เพราะความร้อนกระจายถึงทุกชั้น

ข้อจำกัดของเตาอบ Convection

ข้อจำกัดหลักของเตาอบ Convection คือราคาที่สูงกว่าเตาอบทั่วไป เนื่องจากมีระบบพัดลมและการควบคุมที่ซับซ้อนกว่า ต้องปรับสูตรอาหารใหม่เพราะใช้อุณหภูมิและเวลาต่างจากเตาอบปกติ อาหารบางประเภทอาจไม่เหมาะกับการใช้ระบบ Convection เช่น เค้กที่ต้องการขึ้นฟู เพราะแรงลมอาจทำให้ขึ้นฟูไม่ดี ต้องการการดูแลรักษามากกว่า โดยเฉพาะการทำความสะอาดพัดลมและช่องระบายอากาศ

เตาอบ Convection เหมาะกับการทำอาหารประเภทไหนบ้าง

เตาอบ Convection เหมาะอย่างยิ่งกับการอบขนมปัง ครัวซองต์ และเบเกอรี่ที่ต้องการความกรอบ เพราะระบบพัดลมช่วยให้แป้งกรอบสม่ำเสมอ เหมาะกับการอบเนื้อสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น ไก่ทั้งตัวหรือขาหมู เพราะความร้อนที่หมุนเวียนจะช่วยให้เนื้อสุกทั่วถึง ผิวกรอบ แต่ด้านในยังชุ่มฉ่ำ การย่างผักก็ทำได้ดีเพราะความร้อนที่สม่ำเสมอจะทำให้ผักสุกพอดี ไม่ไหม้ รวมถึงการอบมันฝรั่ง พิซซ่า และขนมปังกรอบต่าง ๆ

เคล็ดลับในการเลือกซื้อเตาอบ Convection

การเลือกซื้อเตาอบ Convection ควรพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้ได้เตาที่เหมาะกับการใช้งานและงบประมาณของคุณ เริ่มต้นจากการกำหนดขนาดและความจุของเตาให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในครอบครัวหรือปริมาณการทำอาหาร หากใช้งานในครัวเรือนเล็ก ๆ เตาอบขนาดเล็ก-กลางก็เพียงพอ แต่สำหรับผู้ที่อบขนมหรืออาหารปริมาณมากควรเลือกขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ควรเลือกเตาที่มีวัสดุภายในเป็นสเตนเลสหรือเคลือบกันติด เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด ฟังก์ชันเสริม เช่น การตั้งเวลา การปรับระดับความร้อน และโหมดการอบแบบต่าง ๆ ก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง สำหรับผู้ที่ใส่ใจเรื่องประหยัดพลังงาน ควรเลือกเตาที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 สุดท้าย อย่าลืมตรวจสอบการรับประกันและบริการหลังการขายเพื่อความมั่นใจในระยะยาว

เตาอบ Convection คือนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับการทำอาหารให้ง่ายและได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น Tecnogas นำเสนอเตาอบ Convection คุณภาพสูง ผลิตจากประเทศอิตาลี มาพร้อมระบบพัดลมที่ทันสมัย การควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ และฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทั้งการทำอาหารและขนมอบทุกประเภท

เตาอบเป็นอุปกรณ์ทำครัวที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำขนมอบหรืออาหารที่ต้องใช้เตาอบ แต่สำหรับมือใหม่วิธีใช้เตาอบอาจดูยุ่งยากและซับซ้อน การเลือกขนาดเตาอบให้เหมาะสมกับครอบครัวก็เป็นเรื่องสำคัญ บทความนี้เราจะมาแนะนำขั้นตอนการใช้งานเตาอบอย่างละเอียด เพื่อให้ได้อาหารที่อร่อยและปลอดภัย

วิธีใช้เตาอบอย่างถูกวิธี

วิธีใช้เตาอบให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้น จำเป็นต้องเข้าใจหลักการทำงานของเตาอบและปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง เริ่มตั้งแต่การวอร์มเตา การจัดวางชั้น และการตั้งค่าอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อให้อาหารสุกสม่ำเสมอและได้รสชาติที่อร่อย

การวอร์มเตาอบ

การวอร์มเตาอบเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรข้าม เพราะจะช่วยให้อาหารสุกสม่ำเสมอและได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ โดยเฉพาะการอบขนมที่ต้องการความแม่นยำในเรื่องอุณหภูมิ

ตั้งอุณหภูมิ

การตั้งอุณหภูมิถือเป็นหัวใจสำคัญของวิธีใช้เตาอบ ต้องปรับให้เหมาะสมกับเมนูที่จะอบ โดยทั่วไปขนมปังและเค้กจะใช้อุณหภูมิประมาณ 170-180 องศาเซลเซียส คุกกี้ใช้อุณหภูมิ 160-170 องศา ส่วนอาหารประเภทเนื้อสัตว์จะใช้อุณหภูมิสูงกว่า ประมาณ 200-220 องศา การตั้งอุณหภูมิผิดอาจทำให้อาหารไหม้หรือสุกไม่ทั่วถึง ควรตรวจสอบสูตรอาหารและทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

เวลาในการวอร์มเตาอบ

เวลาในการวอร์มเตาอบขึ้นอยู่กับขนาดเตาอบและอุณหภูมิที่ต้องการ โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีสำหรับเตาอบขนาดเล็กถึงกลาง และ 15-20 นาทีสำหรับเตาอบขนาดใหญ่ สำหรับการอบที่อุณหภูมิสูง อาจต้องใช้เวลาวอร์มนานขึ้น สังเกตได้จากไฟแสดงสถานะที่จะดับลงเมื่อเตาอบได้อุณหภูมิที่ต้องการ

จัดวางชั้นให้เหมาะสมกับเมนู

การจัดวางชั้นในเตาอบมีผลต่อการกระจายความร้อนและการสุกของอาหาร โดยชั้นบนจะได้รับความร้อนมากกว่าชั้นล่าง สำหรับขนมปังและเค้กควรวางชั้นกลาง เพื่อให้ได้รับความร้อนสม่ำเสมอ หากต้องการความกรอบด้านบนให้วางชั้นบน แต่ถ้าต้องการให้ด้านล่างสุกมากกว่าให้วางชั้นล่าง วิธีใช้เตาอบที่ถูกต้องจะช่วยให้อาหารสุกสม่ำเสมอและได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

การใช้งานเตาอบ

วิธีใช้เตาอบในขั้นตอนการอบอาหารมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการวอร์มเตา โดยต้องคำนึงถึงการเตรียมอาหาร การเลือกใช้ไฟ และการตั้งเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้ได้อาหารที่สุกพอดีและรสชาติอร่อย

เตรียมอาหารหรือขนม

การเตรียมอาหารเป็นขั้นตอนสำคัญในการใช้เตาอบ เริ่มจากการจัดเตรียมวัตถุดิบตามสูตร และเลือกภาชนะที่เหมาะสมกับขนาดเตาอบ ควรใช้ถาดหรือพิมพ์ที่ทนความร้อนสูง วางอาหารให้มีระยะห่างเพื่อให้ความร้อนกระจายทั่วถึง ไม่ควรใส่อาหารจนเต็มพิมพ์เพราะอาหารบางชนิดจะขยายตัวระหว่างอบ สำหรับขนมปังหรือเค้ก ควรเตรียมส่วนผสมให้พร้อมก่อนเปิดเตาอบ

เลือกใช้ไฟบน-ล่าง

การเลือกใช้ไฟบน-ล่างในเตาอบขึ้นอยู่กับประเภทของอาหาร ไฟล่างเหมาะสำหรับอาหารที่ต้องการความสุกจากด้านล่าง เช่น พิซซ่า ขนมปัง ส่วนไฟบนเหมาะสำหรับการทำให้หน้าอาหารเกรียมหรือมีสีสวย การใช้ไฟทั้งบนและล่างพร้อมกันเหมาะสำหรับการอบเค้กหรืออาหารที่ต้องการความสุกสม่ำเสมอ

ตั้งเวลา

ควรตั้งเวลาตามที่ระบุในสูตร และคอยสังเกตสีและกลิ่นของอาหาร เนื่องจากเตาอบแต่ละเครื่องอาจให้ความร้อนไม่เท่ากัน ในช่วงแรกควรตั้งเวลาน้อยกว่าที่ระบุในสูตรเล็กน้อย เพื่อป้องกันอาหารไหม้ และค่อยเพิ่มเวลาหากอาหารยังไม่สุก

ไม่ควรเปิดเตาอบ

การเปิดเตาอบบ่อยระหว่างอบอาหารเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะจะทำให้อุณหภูมิในเตาลดลงกะทันหัน ส่งผลต่อคุณภาพของอาหาร โดยเฉพาะขนมอบที่ต้องการความร้อนสม่ำเสมอ ควรใช้ไฟส่องสว่างในเตาอบและสังเกตผ่านกระจก หากจำเป็นต้องเปิดเตาอบ ควรรอให้อาหารอบไปแล้วอย่างน้อย 70% ของเวลาทั้งหมด

การทำความสะอาดหลังใช้งาน

การดูแลรักษาความสะอาดเป็นส่วนสำคัญของการใช้เตาอบ เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพการทำความร้อน การทำความสะอาดควรทำทุกครั้งหลังใช้งาน โดยมีขั้นตอนที่ถูกต้องดังนี้

รอให้เตาอบเย็นลง

ก่อนทำความสะอาด ควรปิดเตาอบและรอให้เย็นลงจนสามารถสัมผัสได้ ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาทีขึ้นอยู่กับขนาดเตาอบและอุณหภูมิที่ใช้งาน ไม่ควรทำความสะอาดขณะเตายังร้อน เพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อการเกิดแผลไหม้แล้ว ยังอาจทำให้น้ำยาทำความสะอาดระเหยเป็นไอพิษ

เช็ดด้านใน

หลังจากเตาอบเย็นลง ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดภายในเตา เริ่มจากส่วนบนลงมาด้านล่าง เน้นบริเวณที่มีคราบน้ำมันหรือเศษอาหาร หากมีคราบติดแน่น อาจใช้น้ำยาทำความสะอาดเตาอบโดยเฉพาะ แต่ต้องเช็ดออกให้สะอาดและทิ้งให้แห้งสนิท

กำจัดคราบฝังแน่น

สำหรับคราบที่ฝังแน่น ไม่ควรใช้อุปกรณ์ที่มีความคม เพราะอาจทำให้ผิวเตาอบเสียหาย แนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดแช่ทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด แล้วใช้ฟองน้ำนุ่มขัดเบา ๆ จากนั้นเช็ดออกด้วยผ้าชุบน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้ง

ทำความสะอาดกระจกเตาอบ

กระจกเตาอบควรทำความสะอาดทั้งด้านในและด้านนอก ใช้น้ำยาเช็ดกระจกและผ้านุ่มเช็ดทำความสะอาด ระวังไม่ให้น้ำยาไหลเข้าช่องระบายอากาศ หากเตาอบมีกระจกหลายชั้น อาจต้องถอดทำความสะอาดตามคู่มือการใช้งาน

เช็ดถาดและชั้นวาง

ถาดและชั้นวางควรล้างทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน ใช้น้ำยาล้างจานและฟองน้ำขัดเบา ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้งก่อนนำกลับไปใส่ในเตา การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันการสะสมของคราบและกลิ่นไม่พึงประสงค์

ขนาดเตาอบที่เหมาะสมกับคนในครอบครัว

การเลือกขนาดเตาอบให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ โดยขนาดเตาอบจะวัดเป็นลิตรหรือคิวบิกฟุต เตาอบขนาด 30-45 ลิตรเหมาะสำหรับครอบครัว 1-3 คน สามารถอบอาหารจานเดียวหรือขนมขนาดกลางได้ ขนาด 45-60 ลิตรเหมาะสำหรับครอบครัว 3-5 คน สามารถอบอาหารได้หลายจานพร้อมกัน ส่วนขนาด 60 ลิตรขึ้นไปเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่หรือผู้ที่ทำอาหารปริมาณมาก นอกจากจำนวนคนแล้ว ควรพิจารณาพื้นที่ในครัวและความถี่ในการใช้งานประกอบด้วย

วิธีใช้เตาอบอย่างถูกต้องและการเลือกขนาดเตาอบที่เหมาะสม จะทำให้การทำอาหารเป็นไปอย่างที่ใจเราต้องการ Tecnogas เราขอนำเสนอเตาอบคุณภาพสูงจากประเทศอิตาลีที่มีให้เลือกหลายขนาด พร้อมฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย ระบบความปลอดภัยครบครัน และการรับประกันที่ให้ความมั่นใจ เพื่อให้ทุกมื้ออาหารของครอบครัวเต็มไปด้วยความอร่อยและความสุข

เตาแก๊สเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่จำเป็นในทุกครัวเรือน โดยเฉพาะเตาแก๊ส 2 หัวที่เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กถึงกลาง เนื่องจากมีขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ และราคาไม่สูงมากนัก แต่การจะเลือกเตาแก๊ส 2 หัว แบบไหนดี ให้เหมาะกับการใช้งานนั้น จำเป็นต้องพิจารณาหลายปัจจัย บทความนี้เราจะมาแนะนำข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจในการเลือกซื้อเตาแก๊สกัน

เตาแก๊ส 2 หัว แบบไหนดี มีกี่ประเภท

เมื่อต้องการเลือกเตาแก๊ส 2 หัว แบบไหนดี สิ่งแรกที่ควรทำความเข้าใจคือประเภทของหัวเตาแก๊ส ซึ่งแต่ละแบบมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก

หัวเตาแก๊สแบบธรรมดา

หัวเตาแก๊สแบบธรรมดาเป็นรูปแบบดั้งเดิมที่ใช้กันมายาวนาน ใช้ระบบการจ่ายแก๊สผ่านหัวเตาที่มีรูพ่นเปลวไฟโดยรอบ ให้ความร้อนแบบกระจาย เหมาะสำหรับการทำอาหารทั่วไป ราคาไม่แพง หาอะไหล่ง่าย และซ่อมบำรุงไม่ยุ่งยาก ข้อดีคือใช้งานง่าย ทนทาน ส่วนข้อจำกัดคือควบคุมความร้อนได้ไม่ละเอียดเท่าแบบอื่น และอาจสิ้นเปลืองแก๊สมากกว่า

หัวเทอร์โบ

หัวเทอร์โบเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาต่อยอดจากหัวเตาแบบธรรมดา โดยออกแบบให้มีการหมุนเวียนอากาศที่ดีขึ้น ทำให้เปลวไฟแรงและเสถียร ประหยัดแก๊สได้มากกว่า ให้ความร้อนสูงและกระจายสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับการผัดในกระทะใบบัว หรืออาหารที่ต้องการไฟแรง แต่มีราคาสูงกว่าแบบธรรมดา และต้องการการดูแลรักษาที่ดีกว่า

หัวเตาแก๊สแบบอินฟราเรด

หัวเตาแก๊สแบบอินฟราเรดเป็นเทคโนโลยีล่าสุด ใช้ระบบการเผาไหม้ที่สร้างรังสีอินฟราเรด ทำให้ประหยัดแก๊สสูงสุด ควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำ ให้ความร้อนสม่ำเสมอ และมีระบบความปลอดภัยที่ดีกว่า เหมาะสำหรับการทำอาหารที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิพิเศษ แต่มีราคาสูงที่สุดในบรรดาหัวเตาทั้งหมด

รูปแบบการใช้งานเตาแก๊ส 2 หัว

เมื่อต้องเลือกว่าเตาแก๊ส 2 หัว แบบไหนดี นอกจากประเภทของหัวเตาแล้ว ยังต้องพิจารณารูปแบบการติดตั้งที่เหมาะกับพื้นที่ใช้งาน โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก แต่ละแบบมีข้อดีและข้อควรพิจารณาแตกต่างกัน

เตาแก๊สแบบฝัง

เตาแก๊สแบบฝังเป็นการติดตั้งแบบบิลท์อินลงในเคาน์เตอร์ครัว ให้ความสวยงาม เรียบหรู ดูเป็นระเบียบ เหมาะสำหรับครัวที่มีการออกแบบอย่างเป็นระบบ ข้อดีคือประหยัดพื้นที่ใช้สอย ทำความสะอาดง่าย และปลอดภัยเพราะยึดติดแน่นกับเคาน์เตอร์ แต่มีข้อควรพิจารณาคือต้องวางแผนการติดตั้งล่วงหน้า ต้องมีช่างผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้ง และหากต้องการซ่อมแซมอาจทำได้ยากกว่าแบบตั้งโต๊ะ

เตาแก๊สแบบตั้งโต๊ะ

เตาแก๊สแบบตั้งโต๊ะเป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันทั่วไป เคลื่อนย้ายสะดวก ติดตั้งง่าย และมีราคาถูกกว่าแบบฝัง เหมาะสำหรับครัวที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งาน หรือผู้ที่เช่าบ้านอยู่ ข้อดีคือสามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้ตามต้องการ ซ่อมแซมง่าย และมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ แต่อาจต้องระวังเรื่องความเสถียรในการวางและการกินพื้นที่บนเคาน์เตอร์

7 เตาแก๊ส 2 หัว รุ่นยอดนิยมจาก Tecnogas

Tecnogas นำเสนอเตาแก๊ส 2 หัวที่ผลิตจากประเทศอิตาลี ด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสูง ทั้งแบบฝังและแบบตั้งโต๊ะ โดดเด่นด้วยการออกแบบที่สวยงาม วัสดุคุณภาพสูง และระบบความปลอดภัยครบครัน พร้อมการรับประกันที่ครอบคลุม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเตาแก๊สคุณภาพสูง ใช้งานได้ยาวนาน

เตาแก๊สอินฟาเรด 2 หัวเตา แบบตั้งโต๊ะ Tecnostar รุ่น TNS IG 271 B ขนาด 72 ซม.

เตาแก๊สแบบตั้งโต๊ะรุ่น 2 หัวเตา มาพร้อมโครงสร้างกระจกนิรภัยสีดำที่แข็งแรง เสริมคานรองรับพิเศษเพื่อเพิ่มความทนทาน ฐานรองภาชนะทำจากเหล็กเคลือบอีนาเมลเพื่อความทนต่อการใช้งาน หัวเตาทองเหลืองแบบ 2 ชั้นให้เปลวไฟ 2 ระดับ มีกำลังไฟหัวละ 4,800 วัตต์ (รวม 2 หัว) สามารถปรับระดับความร้อนทั้งวงในและวงนอก หรือใช้งานพร้อมกันทั้งสองวงได้ มีระบบจุดติดด้วยแมกนิโตและระบบผสมอากาศด้านล่าง ใช้แก๊ส LPG ร่วมกับหัวปรับแรงดันต่ำ ตัวเตามีหน้ากว้าง 70 ซม. และขนาดโดยรวม 72 x 37.5 x 13 ซม. ดีไซน์สวยงามด้วยสีดำทันสมัย

เตาแก๊ส 2 หัวเตา แบบตั้งโต๊ะ Tecnostar รุ่น TNS G 2710 GB ขนาด 72 ซม.

เตาแก๊ส 2 หัวเตาแบบตั้งโต๊ะ ขนาด 71 ซม. ดีไซน์ทันสมัยด้วยโครงสร้างกระจกนิรภัยสีดำเสริมคานรองรับพิเศษทั้งโครงสร้าง พร้อมขอบสเตนเลสที่เพิ่มความแข็งแรง ฐานรองภาชนะผลิตจากเหล็กหล่อคุณภาพสูง ให้ความทนทาน หัวเตาทองเหลืองมาพร้อมระบบเปลวไฟ 2 ชั้น กำลังไฟ 5,500 วัตต์ต่อหัว (รวม 11,000 วัตต์) สามารถปรับระดับความร้อนวงใน-วงนอกได้ หรือติดพร้อมกันทั้ง 2 วง เพื่อให้เหมาะกับเมนูที่หลากหลาย ระบบจุดติดไฟแบบแมกนิโตและการผสมอากาศจากด้านล่าง ช่วยให้การทำอาหาร เช่น ต้ม ผัด แกง ทอด เป็นเรื่องง่าย ทั้งยังใช้งานสะดวก ทนทาน และมีอายุการใช้งานยาวนาน ทำความสะอาดง่าย เพียงใช้ผ้าชุบน้ำยาล้างจานแล้วเช็ดด้วยน้ำสะอาด เตาแก๊สขนาดกะทัดรัด 71 x 42 x 13 ซม. สีดำ เพิ่มความหรูหราให้กับห้องครัวของคุณ

เตาแก๊ส 2 หัวเตา แบบฝังเฟอร์นิเจอร์ Tecnostar รุ่น TNS HB S1 GB

เตาแก๊สแบบฝังเฟอร์นิเจอร์รุ่น 2 หัวเตา มาพร้อมโครงสร้างกระจกนิรภัยที่แข็งแรงและสวยงาม หัวเตาเปลวไฟ 3 ชั้นให้ความร้อนสูงถึง 5,400 วัตต์ต่อหัว (รวม 2 หัว) ใช้งานสะดวกด้วยระบบจุดติดอัตโนมัติแบบแบตเตอรี่ และระบบผสมอากาศด้านล่าง เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบ Safety Device เหมาะสำหรับใช้งานกับหัวปรับแก๊สแรงดันต่ำเท่านั้น ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งาน

เตาแก๊ส 2 หัวเตา แบบฝังเฟอร์นิเจอร์ Tecnoplus รุ่น TNP HB MINI 2 RGS TIMER 

เตาแก๊สแบบฝังเฟอร์นิเจอร์รุ่น 2 หัวเตา ออกแบบด้วยโครงสร้างกระจกนิรภัยสีดำแบบ Slope ให้ความสวยงามและทนทาน ฐานหัวเตาทำจากอะลูมิเนียมอัลลอย หัวเตาวงนอกและวงในผลิตจากทองเหลืองสีทอง ให้กำลังไฟสูงถึง 5,500 วัตต์ต่อหัว (รวม 2 หัว) พร้อมขารองภาชนะเหล็กหล่อแบบกันลมเพื่อเพิ่มความมั่นคงและความปลอดภัย มีระบบ Safety และระบบจุดติดแบบอัตโนมัติ (PIEZOELECTRIC) ที่ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ รองรับการใช้งานกับแก๊ส LPG และหัวปรับแก๊สแรงดันต่ำ ขนาดสินค้า 80 x 45 x 10 ซม. น้ำหนักสุทธิ 13.7 กก. และรองรับการเจาะพื้นที่ติดตั้งขนาด 65 x 35 x 40 ซม.

เตาแก๊ส 2 หัวเตา แบบฝังเฟอร์นิเจอร์ Tecnogas รุ่น HC782TTG-LJ สีดำ ขนาด 78 ซม.

เตาแก๊สแบบฝังเฟอร์นิเจอร์รุ่น 2 หัวเตา มาพร้อมโครงสร้างกระจกนิรภัยสีดำหนา 8 มม. ออกแบบด้วยขอบกระจกและขอบอะลูมิเนียมสเตนเลสแบบลาดเพื่อความสวยงามและแข็งแรง ฐานรองภาชนะทำจากเหล็กหล่อเพื่อเพิ่มความมั่นคง หัวเตาไฟสามชั้นให้กำลังไฟสูงถึง 5,800 วัตต์ต่อหัว (รวม 2 หัว) ใช้งานสะดวกด้วยระบบจุดติดอัตโนมัติแบบแบตเตอรี่ และมาพร้อมระบบ Safety Device ที่ช่วยตัดแก๊สอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย ขนาดตัวเครื่อง 78 ซม. เหมาะสำหรับการใช้งานในครัวที่ต้องการทั้งความทันสมัยและความปลอดภัย

เตาแก๊ส 2 หัวเตา แบบฝังเฟอร์นิเจอร์ Tecnogas รุ่น TEC HB 2078 GB Turbo ขนาด 78 ซม.

เตาแก๊สแบบฝังเฟอร์นิเจอร์รุ่น 2 หัวเตา มาพร้อมโครงสร้างกระจกนิรภัยหนา 8 มม. ที่แข็งแรงและทันสมัย ขนาดกว้าง 78 ซม. พร้อมฐานรองภาชนะเหล็กหล่อเพื่อความมั่นคง หัวเตาทำจากทองเหลืองเปลวไฟ 3 ชั้น ให้กำลังไฟสูงถึง 5,500 วัตต์ต่อหัว (รวม 2 หัว) ใช้งานง่ายด้วยระบบจุดติดแบบแบตเตอรี่ และเพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบ Safety Device ที่ตัดแก๊สอัตโนมัติ รองรับการใช้งานกับแก๊ส LPG และหัวปรับแก๊สแรงดันต่ำ ขนาดสินค้า 780 x 450 x 163 มม. ขนาดกล่อง 820 x 485 x 220 มม. น้ำหนักสุทธิ 12.60 กก. และน้ำหนักรวม 14.30 กก.

เตาแก๊ส 2 หัวเตา แบบฝังเฟอร์นิเจอร์ Tecnogas รุ่น TEC HB 2078 GB Direct Flame ขนาด 78 ซม.

เตาแก๊สแบบฝังเฟอร์นิเจอร์รุ่น 2 หัวเตา ออกแบบด้วยโครงสร้างกระจกนิรภัยหนา 8 มม. ให้ความแข็งแรงและสวยงาม ขนาดกว้าง 78 ซม. พร้อมฐานรองภาชนะเหล็กหล่อเพื่อรองรับการใช้งานที่มั่นคง หัวเตาทำจากทองเหลืองแบบเปลวไฟ 3 ชั้น ให้กำลังไฟสูงถึง 5,500 วัตต์ต่อหัว (รวม 2 หัว) ใช้งานสะดวกด้วยระบบจุดติดแบบแบตเตอรี่ และเพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบ Safety Device ที่สามารถตัดแก๊สอัตโนมัติ รองรับการใช้งานกับแก๊ส LPG และหัวปรับแรงดันต่ำ ขนาดสินค้า 780 x 450 x 115 มม. ขนาดกล่อง 830 x 510 x 175 มม. น้ำหนักสุทธิ 14.40 กก. และน้ำหนักรวม 16.00 กก.

เคล็ดลับเลือกเตาแก๊ส ให้ปลอดภัย ใช้ได้นาน

เมื่อต้องตัดสินใจว่าเตาแก๊ส 2 หัว แบบไหนดี นอกจากประเภทและรูปแบบการติดตั้งแล้ว ยังมีปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาเพื่อให้ได้เตาแก๊สที่ปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนาน มาดูเคล็ดลับในการเลือกกัน

วัสดุแข็งแรง

วัสดุที่ใช้ผลิตเตาแก๊สเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความทนทานและอายุการใช้งาน ควรเลือกเตาที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น สเตนเลสเกรดดี ที่ทนความร้อนและการกัดกร่อน ตะแกรงวางภาชนะควรแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี ถาดรองน้ำมันควรทำจากวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย และหัวเตาควรผลิตจากทองเหลืองคุณภาพสูงที่ทนความร้อนได้ดี ไม่ผุกร่อนง่าย

มีใบรับประกันการใช้งาน

การรับประกันสินค้าสะท้อนถึงความมั่นใจของผู้ผลิตต่อคุณภาพสินค้า เตาแก๊สที่ดีควรมีการรับประกันอย่างน้อย 1-2 ปี ครอบคลุมทั้งตัวเครื่องและอะไหล่สำคัญ ควรตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันให้ละเอียด รวมถึงบริการหลังการขาย การซ่อมบำรุง และการเปลี่ยนอะไหล่ นอกจากนี้ควรเลือกแบรนด์ที่มีศูนย์บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศ เพื่อความสะดวกในการใช้บริการ

หาซื้ออะไหล่ได้ง่าย

ความสะดวกในการหาอะไหล่ทดแทนเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้งานระยะยาว ควรเลือกแบรนด์ที่มีตัวแทนจำหน่ายอะไหล่อย่างเป็นทางการ มีอะไหล่พร้อมเปลี่ยนเมื่อเกิดปัญหา ราคาอะไหล่ไม่แพงจนเกินไป และมีช่างที่มีความเชี่ยวชาญในการซ่อมบำรุง เพื่อให้มั่นใจว่าเตาแก๊สจะใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย

การจะเลือกว่าเตาแก๊ส 2 หัว แบบไหนดีนั้น ต้องพิจารณาทั้งคุณภาพ ความปลอดภัย และความคุ้มค่าในระยะยาว Tecnogas นำเสนอเตาแก๊สคุณภาพสูงที่ผลิตจากประเทศอิตาลี ด้วยประสบการณ์กว่า 60 ปี พร้อมการรับประกันที่ให้ความมั่นใจ และศูนย์บริการที่ครอบคลุม ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการใช้งาน

การออกแบบครัวฝรั่งกำลังได้รับความนิยมในไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสวยงามที่ลงตัว ฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน และการจัดวางที่เป็นระเบียบ ทำให้ครัวฝรั่งกลายเป็นแรงบันดาลใจสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนตกแต่งครัวใหม่ บทความนี้เราจึงจะพาทุกคนไปรู้จักกับครัวฝรั่งให้มากขึ้น พร้อมไอเดียการตกแต่งที่จะทำให้ครัวของเราสวยหรูและใช้งานได้จริง

ครัวฝรั่งคืออะไร แตกต่างกับครัวไทยอย่างไร

แต่ก่อนที่เราจะไปดูไอเดียการตกแต่ง เรามาทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างครัวฝรั่งและครัวไทยกันก่อน เพื่อให้ทุกคนเข้าใจถึงเอกลักษณ์และการใช้งานที่แตกต่างกัน รวมถึงข้อดีของแต่ละรูปแบบด้วยนั่นเอง

ครัวฝรั่ง

ครัวฝรั่งมีการออกแบบที่เน้นความเป็นระเบียบและฟังก์ชันการใช้งาน โดยจะมีเคาน์เตอร์ครัวเป็นจุดเด่น พร้อมตู้เก็บของทั้งด้านบนและด้านล่าง อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเป็นแบบบิลท์อิน มีพื้นที่เตรียมอาหารแยกเป็นสัดส่วน มีอ่างล้างจานขนาดใหญ่ และมักจะมีเกาะกลางครัวหรือบาร์เคาน์เตอร์สำหรับรับประทานอาหารเช้าหรือมื้อเล็ก ๆ ระบบระบายอากาศได้รับการออกแบบมาอย่างดี มีเครื่องดูดควันที่ทรงพลัง

ครัวไทย

ครัวไทยมีลักษณะเด่นคือความยืดหยุ่นในการใช้งาน เน้นพื้นที่โล่งสำหรับการเตรียมและปรุงอาหาร มักจะมีชั้นวางของแบบเปิดโล่ง มีพื้นที่สำหรับวางถังแก๊ส อุปกรณ์ครัวส่วนใหญ่เป็นแบบเคลื่อนย้ายได้ มีพื้นที่สำหรับการล้างและเตรียมวัตถุดิบจำนวนมาก เน้นการระบายอากาศแบบธรรมชาติผ่านหน้าต่างหรือช่องระบายอากาศ

ครัวฝรั่งมีสไตล์อะไรบ้าง

การจัดครัวฝรั่งให้สวยงามและใช้งานได้ดีนั้น ต้องเริ่มจากการเลือกสไตล์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และบรรยากาศโดยรวมของบ้าน โดยสไตล์ครัวฝรั่งที่ได้รับความนิยมมีหลายรูปแบบ แต่ละแบบมีเอกลักษณ์และความโดดเด่นแตกต่างกัน

สไตล์นอร์ดิก

สไตล์นอร์ดิกเน้นความเรียบง่าย สะอาดตา ใช้โทนสีอ่อนเป็นหลัก เช่น ขาว เทา และเบจ ผสมผสานกับวัสดุธรรมชาติอย่างไม้สีอ่อน เน้นแสงธรรมชาติผ่านหน้าต่างขนาดใหญ่ เฟอร์นิเจอร์มีดีไซน์เรียบง่ายแต่แฝงความทันสมัย พื้นที่จัดเก็บถูกซ่อนไว้อย่างลงตัว ทำให้พื้นที่ดูโล่ง โปร่งสบาย สร้างบรรยากาศผ่อนคลายในการทำอาหาร

สไตล์มินิมอล

ครัวสไตล์มินิมอลเน้นความเรียบง่ายที่สุด ใช้เส้นสายตรง ไม่มีลวดลาย หน้าบานตู้เรียบแบบไร้มือจับ เน้นโทนสีขาวหรือดำเป็นหลัก วัสดุที่ใช้มักเป็นวัสดุที่ดูทันสมัย เช่น สเตนเลส กระจก และอะคริลิค อุปกรณ์ครัวถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ ไม่มีของตกแต่งที่ไม่จำเป็น เน้นฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก

สไตล์ลักชัวรี

สไตล์ลักชัวรีเน้นความหรูหราด้วยวัสดุชั้นดี เช่น หินอ่อน ไม้เนื้อแข็ง และสเตนเลสเกรดพรีเมียม มีการใช้ไฟเพื่อสร้างบรรยากาศ อุปกรณ์ครัวเป็นแบรนด์ระดับสูง มีการตกแต่งด้วยรายละเอียดที่ประณีต เช่น มือจับโลหะสีทอง กระจกเงา และงานไม้แกะสลัก เน้นความสมมาตรในการจัดวาง สร้างความรู้สึกมีระดับ

สไตล์ไอส์แลนด์

ครัวสไตล์ไอส์แลนด์เน้นเกาะกลางครัวเป็นจุดเด่น มีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารและรับประทานอาหารในตัว เหมาะกับครอบครัวที่ชอบทำอาหารร่วมกัน มักใช้โทนสีอบอุ่น ผสมผสานวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้และหิน มีชั้นแขวนอุปกรณ์ครัวเหนือเกาะกลาง สร้างความสะดวกในการหยิบใช้ และเพิ่มความสวยงามให้กับพื้นที่

ไอเดียตกแต่งครัวฝรั่ง

การตกแต่งครัวฝรั่งให้สวยงามและใช้งานได้ดีนั้น ต้องพิจารณาทั้งด้านการออกแบบ การจัดวางพื้นที่ และการเลือกใช้วัสดุ เพื่อให้ได้ครัวที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งาน มาดูไอเดียการจัดวางรูปแบบต่าง ๆ กัน

เลือกขนาดเคาน์เตอร์ครัวให้เหมาะสมกับห้อง

เคาน์เตอร์เป็นหัวใจสำคัญของครัวฝรั่ง การเลือกรูปแบบที่เหมาะสมจะช่วยให้การใช้งานสะดวกและเพิ่มความสวยงามให้กับพื้นที่ โดยแต่ละรูปแบบมีข้อดีแตกต่างกัน

เคาน์เตอร์ทรงตัวแอล (L)

เคาน์เตอร์ทรงตัวแอลเหมาะสำหรับครัวขนาดกลางถึงใหญ่ ด้วยรูปทรงที่มีมุมฉาก ทำให้แบ่งพื้นที่ใช้งานได้ชัดเจน สามารถจัดวางอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างลงตัว ด้านหนึ่งอาจใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหาร อีกด้านใช้สำหรับล้างจานหรือทำอาหาร บางครัวอาจเพิ่มที่นั่งบาร์ที่ปลายด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อใช้เป็นพื้นที่รับประทานอาหารแบบไม่เป็นทางการ

เคาน์เตอร์ทรงตัวยู (U)

เคาน์เตอร์ทรงตัวยูให้พื้นที่ใช้งานมากที่สุด เหมาะสำหรับครัวขนาดใหญ่ สามารถแบ่งโซนการใช้งานได้ชัดเจน เช่น โซนเตรียมอาหาร โซนประกอบอาหาร และโซนล้างทำความสะอาด ด้วยรูปทรงที่ล้อมรอบสามด้าน ทำให้การหยิบจับอุปกรณ์ทำได้สะดวก เหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบทำอาหารพร้อมกันหลายคน

เคาน์เตอร์ทรงตัวจี (G)

เคาน์เตอร์ทรงตัวจีเป็นการผสมผสานระหว่างทรงตัวยูและเกาะกลางครัว เหมาะสำหรับครัวขนาดใหญ่พิเศษ ให้พื้นที่ใช้งานมากที่สุด สามารถรองรับผู้ใช้งานได้พร้อมกันหลายคน มีพื้นที่จัดเก็บมาก และสามารถแบ่งโซนการใช้งานได้อย่างชัดเจน แต่ต้องระวังเรื่องการเว้นระยะทางเดินให้เพียงพอ

เคาน์เตอร์ทรงตัวไอ (I)

เคาน์เตอร์ทรงตัวไอเหมาะสำหรับครัวขนาดเล็กหรือห้องที่แคบยาว มีความเรียบง่าย จัดวางอุปกรณ์ได้เป็นระเบียบ แต่อาจมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ใช้งาน เหมาะสำหรับคนที่อยู่คนเดียวหรือครอบครัวเล็ก สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานด้วยการจัดวางตู้แขวนด้านบนและลิ้นชักด้านล่างให้เต็มพื้นที่

โทนสีคลาสสิกที่เพิ่มความหรูหรา

การเลือกโทนสีสำหรับครัวฝรั่งมีผลต่อบรรยากาศโดยรวม โทนสีคลาสสิกที่นิยมใช้ ได้แก่ ขาว ครีม เทา และดำ โดยสีขาวช่วยให้พื้นที่ดูกว้างและสะอาดตา สีครีมสร้างความอบอุ่น สีเทาให้ความทันสมัย และสีดำเพิ่มความหรูหรา สามารถผสมผสานสีเหล่านี้เข้าด้วยกัน เช่น ตู้ครัวสีขาวคู่กับท็อปเคาน์เตอร์สีดำ หรือตู้ครัวสีเทาคู่กับผนังสีครีม การใช้วัสดุที่มีพื้นผิวแตกต่างกันแต่สีเดียวกันช่วยเพิ่มมิติให้กับพื้นที่

พื้นผิวหินธรรมชาติหรูหรา

ครัวฝรั่งนิยมใช้หินธรรมชาติในการตกแต่ง โดยเฉพาะสำหรับท็อปเคาน์เตอร์และผนังกันกระเซ็น หินอ่อนให้ความหรูหรา หินแกรนิตทนทาน และหินควอตซ์ดูแลรักษาง่าย แต่ละชนิดมีลวดลายและสีสันเป็นเอกลักษณ์ สามารถเลือกให้เข้ากับสไตล์ที่ต้องการ นอกจากความสวยงามแล้ว หินธรรมชาติยังทนความร้อนและรอยขีดข่วนได้ดี

ใช้หน้าต่างบานใหญ่รับแสงธรรมชาติ

การออกแบบครัวฝรั่งให้ความสำคัญกับแสงธรรมชาติ การมีหน้าต่างบานใหญ่ช่วยให้แสงส่องเข้ามาในครัว ทำให้พื้นที่ดูสว่าง โปร่ง และกว้างขวาง ช่วยประหยัดพลังงานในเวลากลางวัน อีกทั้งยังช่วยระบายกลิ่นและความร้อนจากการทำอาหาร ควรเลือกใช้ผ้าม่านโปร่งสีอ่อนเพื่อกรองแสงแดดโดยไม่บดบังทัศนียภาพ

เลือกอุปกรณ์ครัวแบบบิลต์อินหรือดีไซน์เรียบสวย

ครัวฝรั่งให้ความสำคัญกับการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบบิลต์อิน เช่น เตาอบ เตาไฟฟ้า ตู้เย็น และเครื่องล้างจาน การติดตั้งแบบบิลต์อินช่วยให้พื้นที่ดูเป็นระเบียบและสวยงาม อุปกรณ์ต่าง ๆ ควรมีดีไซน์ที่เข้ากัน ใช้โทนสีที่กลมกลืน และมีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์การทำอาหาร

ใช้เครื่องดูดอากาศ

เครื่องดูดอากาศเป็นอุปกรณ์สำคัญในครัวฝรั่ง นอกจากช่วยดูดควันและกลิ่นแล้ว ยังเป็นจุดเด่นในการตกแต่ง เครื่องดูดอากาศแบบติดผนังหรือแบบเกาะเพดานสามารถเลือกดีไซน์ที่สวยงาม เข้ากับสไตล์ครัว ทั้งแบบสเตนเลส กระจก หรือเคลือบสี ควรเลือกขนาดและกำลังดูดให้เหมาะกับพื้นที่

ข้อดีของครัวฝรั่ง

ครัวฝรั่งมีจุดเด่นที่ทำให้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากการจัดสรรพื้นที่ที่เป็นสัดส่วน ทำให้การทำอาหารสะดวกและเป็นระเบียบ มีพื้นที่จัดเก็บอุปกรณ์ที่เพียงพอผ่านตู้และลิ้นชักที่ออกแบบมาอย่างลงตัว ระบบระบายอากาศที่ดีช่วยลดกลิ่นและความร้อนจากการทำอาหาร การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงทำให้ทนทานต่อการใช้งาน และการดูแลรักษาทำได้ง่าย นอกจากนี้ ครัวฝรั่งยังสามารถปรับเปลี่ยนสไตล์การตกแต่งได้หลากหลายตามความชอบ ตั้งแต่แบบคลาสสิกไปจนถึงร่วมสมัย

ครัวฝรั่งเป็นการออกแบบที่ผสมผสานความสวยงามและการใช้งานได้อย่างลงตัว หากกำลังมองหาไอเดียตกแต่งครัว Tecnogas มีเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครันที่รองรับทุกสไตล์การออกแบบ ด้วยดีไซน์หรูหราจากอิตาลี พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์การทำอาหารในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเตาแม่เหล็กไฟฟ้า เตาอบ หรือเครื่องดูดควัน ที่จะช่วยให้ครัวของเราสวยงามและใช้งานได้อย่างยาวนาน

เตาแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ทำครัวที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ประหยัดพลังงาน และปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน แต่การเลือกเตาแม่เหล็กไฟฟ้าให้เหมาะกับการใช้งานนั้นต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งด้านขนาด กำลังไฟ และฟังก์ชันการทำงาน บทความนี้จะแนะนำวิธีเลือกเตาแม่เหล็กไฟฟ้าอย่างละเอียด เพื่อให้ได้เตาที่ตอบโจทย์การทำอาหารในทุกรูปแบบกัน

รู้จักประเภทของเตา ก่อนไปดูวิธีเลือกเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

ก่อนจะเรียนรู้วิธีเลือกเตาแม่เหล็กไฟฟ้า เราควรทำความเข้าใจประเภทของเตาไฟฟ้าที่มีในท้องตลาด เพื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียและเลือกประเภทที่เหมาะสมกับการใช้งาน โดยเตาไฟฟ้าแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก

เตาแผ่นความร้อน Hotplate

เตาแผ่นความร้อนเป็นเตาไฟฟ้ารุ่นแรก ๆ ที่ใช้หลักการทำงานแบบขดลวดความร้อน ให้ความร้อนโดยตรงผ่านแผ่นเหล็กหล่อที่มีลักษณะเป็นวงกลมหรือสี่เหลี่ยม ข้อดีคือราคาไม่แพง ใช้ได้กับภาชนะทุกประเภท แต่มีข้อเสียคือใช้พลังงานสูง ทำให้สิ้นเปลืองค่าไฟ อีกทั้งยังใช้เวลานานในการทำความร้อน และเมื่อปิดเตาแล้วความร้อนยังคงค้างอยู่ที่แผ่นความร้อน ทำให้ต้องระมัดระวังเรื่องการสัมผัสโดนแผ่นความร้อน

เตาไฟฟ้า

เตาไฟฟ้าเป็นการพัฒนาต่อยอดจากเตาแผ่นความร้อน โดยใช้กระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดที่ซ่อนอยู่ใต้แผ่นกระจกเซรามิก ทำให้ดูสวยงามและทำความสะอาดง่ายกว่า สามารถควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำกว่าเตาแผ่นความร้อน แต่ยังคงมีข้อจำกัดเรื่องการใช้พลังงานสูงและความร้อนตกค้างหลังการใช้งาน อีกทั้งต้องระวังเรื่องการกระทบกระแทกที่อาจทำให้แผ่นกระจกแตกเสียหายได้

เตาแม่เหล็กไฟฟ้า

เตาแม่เหล็กไฟฟ้าใช้เทคโนโลยีสนามแม่เหล็กไฟฟ้าในการสร้างความร้อน โดยจะเหนี่ยวนำให้เกิดความร้อนที่ก้นภาชนะโดยตรง ทำให้ประหยัดพลังงานมากกว่าเตาประเภทอื่น ปรับอุณหภูมิได้แม่นยำและรวดเร็ว หน้าเตาไม่ร้อนเพราะความร้อนเกิดที่ภาชนะโดยตรง แต่มีข้อจำกัดคือต้องใช้ภาชนะที่มีคุณสมบัติแม่เหล็กเท่านั้น

วิธีเลือกเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

วิธีเลือกเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่เหมาะสมกับการใช้งานนั้น จำเป็นต้องพิจารณาองค์ประกอบสำคัญหลายด้าน ทั้งด้านเทคนิคและการใช้งานจริง เพื่อให้ได้เตาที่ตอบโจทย์การทำอาหารและคุ้มค่ากับการลงทุน มาดูรายละเอียดแต่ละด้านกัน

กำลังไฟของเตา

กำลังไฟของเตาแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความรวดเร็วในการทำอาหาร โดยทั่วไปเตาแม่เหล็กไฟฟ้าจะมีกำลังไฟตั้งแต่ 1,600-3,500 วัตต์ สำหรับการใช้งานในครัวเรือน โดยเตาที่มีกำลังไฟ 2,000 วัตต์ขึ้นไปจะเหมาะกับการทำอาหารที่ต้องการความร้อนสูง เช่น การผัด การทอด ส่วนเตาที่มีกำลังไฟต่ำกว่านั้นจะเหมาะกับการทำอาหารที่ต้องใช้ไฟอ่อน เช่น การต้ม การตุ๋น

ความเข้ากันได้ของภาชนะ

วิธีเลือกเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่สำคัญอีกประการคือการพิจารณาความเข้ากันได้กับภาชนะที่มีอยู่ เนื่องจากเตาแม่เหล็กไฟฟ้าต้องใช้ภาชนะที่มีคุณสมบัติแม่เหล็ก เช่น เหล็กหล่อ เหล็กกล้าไร้สนิม หรือภาชนะที่มีก้นเป็นวัสดุเหล็ก ควรเลือกเตาที่มีระบบตรวจจับภาชนะอัตโนมัติ เพื่อป้องกันความเสียหายจากการใช้ภาชนะที่ไม่เหมาะสม

ฟังก์ชันการใช้งานเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

ฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายจะช่วยให้การทำอาหารสะดวกยิ่งขึ้น เตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่ดีควรมีฟังก์ชันพื้นฐาน เช่น ระบบตั้งเวลา การควบคุมอุณหภูมิแบบละเอียด โหมดการทำอาหารแบบต่าง ๆ เช่น โหมดต้ม ผัด ทอด อุ่นอาหาร รวมถึงระบบหน้าจอแสดงผลที่ชัดเจนและใช้งานง่าย

ขนาดเหมาะสมกับพื้นที่การจัดวางในครัว

วิธีเลือกเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่เหมาะสมกับพื้นที่ครัวต้องคำนึงถึงขนาดของเตาและพื้นที่ในการติดตั้ง ควรวัดขนาดพื้นที่ที่จะติดตั้งให้ชัดเจน รวมถึงระยะห่างจากผนังและเคาน์เตอร์ครัว เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการระบายความร้อนและการใช้งานอย่างสะดวก โดยทั่วไปเตาแม่เหล็กไฟฟ้าจะมีให้เลือกทั้งแบบ 1-4 หัวเตา

ระบบความปลอดภัย

วิธีเลือกเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่ปลอดภัยต้องพิจารณาระบบป้องกันต่าง ๆ อย่างครบถ้วน ระบบที่ควรมีได้แก่ ระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อความร้อนสูงเกิน ระบบล็อกการทำงานเพื่อป้องกันเด็ก ระบบตรวจจับภาชนะที่จะปิดการทำงานเมื่อไม่มีภาชนะวางอยู่บนเตา ระบบแจ้งเตือนความร้อนตกค้าง และระบบป้องกันไฟกระชาก เพื่อให้การใช้งานในครัวปลอดภัยสูงสุด

แบรนด์และการรับประกัน

การเลือกแบรนด์เตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่น่าเชื่อถือจะช่วยการันตีคุณภาพการใช้งาน ควรเลือกแบรนด์ที่มีประวัติยาวนาน มีศูนย์บริการครอบคลุม และมีนโยบายการรับประกันที่ชัดเจน โดยทั่วไปเตาแม่เหล็กไฟฟ้าคุณภาพดีจะมีระยะเวลารับประกันอย่างน้อย 1-2 ปี พร้อมบริการหลังการขายที่ครบวงจร

คุณภาพของวัสดุ

วิธีเลือกเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีคุณภาพต้องดูที่วัสดุการผลิต หน้าเตาควรเป็นกระจกเซรามิกคุณภาพสูง ทนความร้อน ทนการขูดขีด ขอบเตาควรทำจากวัสดุที่แข็งแรง ไม่เป็นสนิม ปุ่มควบคุมต้องแน่นหนา ไม่หลวมคลอน ส่วนระบบไฟฟ้าภายในต้องได้มาตรฐานความปลอดภัยสากล

การดูแลรักษาเตาแม่เหล็กไฟฟ้าอย่างถูกต้อง

เมื่อเราเลือกเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้แล้ว การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งาน ควรทำความสะอาดหน้าเตาทันทีหลังใช้งานด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการใช้ของมีคมขูดคราบอาหาร ไม่วางของหนักทับบนหน้าเตา ตรวจสอบสายไฟและปลั๊กไฟอย่างสม่ำเสมอ และควรปล่อยให้เตาเย็นลงก่อนทำความสะอาดทุกครั้ง

แนะนำเตาแม่เหล็กไฟฟ้าจาก Tecnogas

Tecnogas นำเสนอเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่ผลิตจากประเทศอิตาลี ด้วยประสบการณ์กว่า 60 ปี ทุกผลิตภัณฑ์ผ่านการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การทำอาหารอย่างมืออาชีพ พร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน

เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัวเตา แบบฝังเฟอร์นิเจอร์ Tecnoplus รุ่น TNP ID 2030 DG FLEX

เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบฝังเฟอร์นิเจอร์รุ่น Flexi Zone มาพร้อมกับ 2 หัวเตา ขนาดแรงดันไฟฟ้า 220–240 โวลต์ (50/60 Hz) และมีกำลังไฟรวม 3,500 วัตต์ หัวเตาล่างและหัวเตาบนมีขนาดเท่ากันที่ 180 มม. โดยแต่ละหัวเตามีกำลังไฟ 1,800/2,000 วัตต์ พร้อมฟังก์ชัน Booster ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน สามารถปรับระดับความร้อนได้ถึง 9 ระดับ และตั้งเวลาปรุงอาหารได้สูงสุดถึง 99 นาที เพื่อการใช้งานที่สะดวกและตอบโจทย์ทุกความต้องการในการทำอาหาร

เตาแม่เหล็กไฟฟ้า + เซรามิคไฟฟ้า Tecnoplus รุ่น TNP IHB 7043 B

เตาแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นนี้มีกำลังไฟรวม 3,600 วัตต์ ประกอบด้วยหัวเตาด้านซ้ายขนาด 180 มม. กำลังไฟ 1,800 วัตต์แบบ Induction และหัวเตาด้านขวาขนาด 200 มม. กำลังไฟ 1,800 วัตต์แบบ Ceramic รองรับการปรับระดับการทำงานได้ 9 ระดับ พร้อมฟังก์ชันตั้งเวลาการทำงานตั้งแต่ 0-99 นาที เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบป้องกันการสัมผัสโดยบังเอิญ (Child Lock) ระบบแสดงไฟเตือนเมื่อมีความร้อนคงเหลือบนหัวเตา และระบบตัดการทำงานอัตโนมัติ ช่วยให้การใช้งานสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น

วิธีเลือกเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่เหมาะสมจะช่วยให้การทำอาหารเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย Tecnogas ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วยเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบติดตั้ง ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง พร้อมการรับประกันที่ครอบคลุม ตอบสนองทุกสไตล์การทำอาหารได้อย่างลงตัว