เนื้อวัวเป็นหนึ่งในตัวเลือกประเภทโปรตีนที่ดีที่สุดของเมนูอาหาร คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าเนื้อวัวนั้นไม่ใช่เมนูยอดฮิตอันดับต้น ๆ ของโลก ด้วยรสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะ สร้างรสสัมผัสและความประทับใจให้กับนักชิมมานับไม่ถ้วน ซึ่งเนื้อวัวแต่ละส่วนจะมีความเหมาะสมที่จะนำไปปรุงในเมนูอาหารที่แตกต่างกันไป บางส่วนมีความนุ่มละมุนลิ้น ความสุกบางส่วนมีความเหนียว และบางส่วนสร้างรสชาติมหัศจรรย์ในบางระดับเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ท้าทายและน่าลิ้มลองอย่างแท้จริงสำหรับชาว beef lover !
เนื้อวัวแต่ละส่วนมีอะไรบ้าง
เนื้อวัวที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวันนี้ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 8 ส่วน ซึ่งเนื้อวัวแต่ละส่วนจะเหมาะกับวิธีประกอบอาหารด้วยเตาอบ หรือเตาไฟฟ้าที่แตกต่างกันไป โดยชิ้นส่วนของเนื้อวัว มีดังนี้- เนื้อสันคอ (Chuck)
- ซี่โครง (Rib Cut)
- เนื้อสัน (Loin Cut)
- เนื้อสะโพก (Round Cut)
- เนื้อติดหน้าอก (Brisket Cut)
- เนื้อติดกับขา (Shank)
- เนื้อหน้าท้อง (Belly / Plate Cut)
- เนื้อส่วนล่าง (Flank)
Chuck สันคอ
เป็นส่วนของวัวที่มีความหนาจากชั้นไขมันมากเป็นพิเศษกว่าส่วนอื่น มีความนุ่มระดับปานกลาง การปรุงเนื้อที่มาจากส่วนของสันคอจึงเหมาะกับการปรุงแบบการค่อย ๆ ทำให้สุก เช่น การอบ หรือย่าง เพื่อเพิ่มความนุ่มละมุนและกลิ่นที่หอมจากการปรุงเพิ่มรสสัมผัสในการรับประทานได้ดีRib Cut ซี่โครง
เนื้อซี่โครงวัวเป็นส่วนที่มีความนุ่มละมุนลิ้นมาก เพราะเนื้อที่ติดซี่โครงนั้นจะมีไขมันติดอยู่ด้วย และยังเป็นส่วนหนึ่งของวัวที่เหมาะกับการปรุงด้วยการกรมวิธีการย่าง อบ รมควัน เมื่อรับประทานจะสัมผัสกับความหอมกลิ่นรมควันและรสชาติเนื้อที่นุ่มละมุน ทานง่าย มีความฉ่ำ จึงทำให้ซี่โครงเป็นส่วนยอดนิยมที่หลาย ๆ คนเลือกให้เป็นเมนูโปรดLoin Cut เนื้อสัน
มาถึงส่วนเนื้อสันที่เรียกได้ว่าเป็นตัวหลักของการแสดงโชว์ก็ว่าได้ เพราะเนื้อสันนี้จะมีรสชาติที่อร่อยตราตรึง และมีราคาสูงกว่าส่วนอื่น โดยเนื้อสันนั้นได้รับความนิยมในการนำไปทำเมนูสเต๊ก อบ ย่าง สายปิ้งย่างชาบูต้องไม่พลาดอยู่แล้ว โดยเนื้อสันยอดนิยมแบ่งเป็น- Sirloin: เนื้อสันนอกติดมัน เหมาะกับการทำสเต๊กที่มีเนื้อชุ่มฉ่ำผสมมันละมุนลิ้น ทานง่าย
- Tenderloin: เนื้อสันใน เหมาะกับการนำไปรับประทานในเมนูย่างหรือผัด แม้จะไขมันน้อยแต่เนื้อละมุนไม่แข็ง