เบกกิ้งโซดา (Baking Soda) เมื่อพูดถึงสิ่งนี้ก็แน่นอนว่าหลาย ๆ คนคงคุ้นชื่อและเคยได้ยินกันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในการทำขนมที่จะมีการใช้กันอยู่ตลอด รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วเบกกิ้งโซดาไม่ได้สามารถนำมาใช้ในการทำขนมได้อย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วประโยชน์ของเบกกิ้งโซดานั้นมีอยู่มากมายเลย โดยเฉพาะการนำมาใช้ประโยชน์ในห้องครัว ซึ่งเบกกิ้งโซดาทำอะไรได้บ้างในบทความนี้เราจะมาแชร์ทริกให้เหล่าคุณพ่อบ้านและแม่บ้านได้รู้และนำไปใช้ประโยชน์กันนั่นเอง
เบกกิ้งโซดา คืออะไร
เบกกิ้งโซดา หรือ โซเดียมไบคาร์บอเนต (NaHCO3) เป็นสารประกอบเคมีที่มีลักษณะเป็นผงสีขาว มีคุณสมบัติเป็นด่างอ่อน สามารถละลายน้ำได้ดี และเมื่อผสมกับกรดจะเกิดปฏิกิริยาผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ถูกนำไปใช้เป็นส่วนผสมในการทำเบเกอรี่เพื่อช่วยให้ขนมขึ้นฟู นอกจากนี้ เบกกิ้งโซดายังมีคุณสมบัติช่วยดูดซับกลิ่นและทำความสะอาด จึงเป็นสารพัดประโยชน์ที่ควรมีติดบ้านไว้
ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดา ทำอะไรได้บ้าง
อย่างที่เราได้บอกไปแล้วคร่าว ๆ แล้วว่าเบกกิ้งโซดาทำอะไรได้บ้างในห้องครัว ซึ่งจริง ๆ แล้วาเบกกิ้งโซดายังมีประโยชน์มากกว่าการทำให้ขนมขึ้นฟูและดูดซับกลิ่น ซึ่งประโยชน์ของเบกกิ้งโซดาก็มีดังต่อไปนี้
1. หมักเนื้อหมูให้นุ่ม
ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดาอย่างแรกเลยก็คือ การที่สามารถช่วยหมักหมูให้นุ่มได้ โดยการใช้เบกกิ้งโซดาจะช่วยทำให้หมูเด้ง นิ่มมากขึ้น และยังสามารถช่วยลดความเหนียวให้กับเนื้อหมูได้ด้วย โดยปัจจุบันนี้เบกกิ้งโซดาก็เป็นหนึ่งในส่วนผสมที่สำคัญในการหมักเนื้อสัตว์ไปแล้ว อย่างไรก็ตามในการใช้เบกกิ้งโซดาหมักหมูก็ควรใช้อย่างระวัง ไม่ควรใส่ในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะจะทำให้เนื้อสัตว์มีรสชาติที่ชมหรือว่าเฝื่อนได้
อัตราส่วนที่แนะนำ
- เนื้อสัตว์ปริมาณ 1 กิโลกรัม
- ควรใช้เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
2. ช่วยให้ขนมเค้กฟู
ประโยชน์ข้อต่อมาของเบกกิ้งโซดา ก็คือ การที่สามารถช่วยทำให้ขนมเค้กฟูได้ ในเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่หลายคนคงจะเคยได้รู้กันมาอยู่แล้วว่าเบกกิ้งโซดาสามารถช่วยให้ขนมฟูได้ จึงทำให้นิยมนำมาใช้ในการทำเบเกอรี่ต่าง ๆ ซึ่งในการทำขนมปังสามารถที่จะนำเบกกิ้งโซดาใส่แทนยีสต์เพื่อช่วยให้ขนมนุ่มได้เช่นกัน
อัตราส่วนที่แนะนำ
- ใช้ในปริมาณ 1-2 ช้อนชา
- น้ำหนักแป้ง 1 ถ้วยตวง
3. ใช้ทำไข่เจียวฟูได้
การทอดไข่เจียวให้ฟูกรอบคงเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนอยากจะทำได้แน่นอน แต่การทอดไข่ในลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องที่ทำกันได้ง่าย ๆ เลย โดยหากว่าใครต้องการให้ไข่เจียวออกมาเนื้อฟูและมีความกรอบสวยงาม ก็แนะนำว่าให้ใช้เบกกิ้งโซดาใส่ลงไปด้วยเล็กน้อย ซึ่งผสมเข้ากับไข่เจียวได้เลย แต่ต้องระวังว่าใส่แค่เล็กน้อยเท่านั้น ไม่ต้องใส่เยอะมากเกินไป เพียงแค่ปลายช้อนชาก็เพียงพอแล้ว
อัตราส่วนที่แนะนำ
- ไข่ไก่ 2-3 ฟอง
- ใช้เบกกิ้งโซดาปริมาณปลายช้อนชา
4. กำจัดคราบในไมโครเวฟ
ไมโครเวฟเครื่องครัวยุโรปที่อยู่แทบจะทุกบ้าน เพราะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประโยชน์และใช้ทำได้หลากหลายอย่าง แต่เมื่อใช้ไปเรื่อย ๆ ก็ย่อมเกิดคราบเลอะเทอะขึ้นได้เป็นเรื่องปกติ ในการที่จะกำจัดคราบสกปรกให้หมดไปก็เป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนปวดหัวไม่น้อยเลย แต่ทั้งนี้ก็สามารถใช้เบกกิ้งโซดามาช่วยกำจัดคราบที่อยู่ในไมโครเวฟได้ ด้วยการนำเบกกิ้งโซดาผสมเข้ากับน้ำอุ่น จากนั้นนำผ้ามาชุบน้ำที่ละลายไว้ แล้วนำไปเช็ดที่ไมโครเวฟ ก็จะช่วยให้คราบต่าง ๆ หลุดออกได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
อัตราส่วนที่แนะนำ
- เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ
- ผสมกับน้ำอุ่น 1 ถ้วย
5. ลดคราบไขมันในท่ออ่างล้างจาน
ปัญหาคราบในท่ออ่างล้างจานก็เป็นปัญหาที่น่าปวดหัวมากไม่แพ้กัน เพราะเมื่อล้างจานก็ย่อมมีเศษอาหารรวมถึงคราบมันจากอาหารต่าง ๆ ไปเกาะอยู่ที่อ่างล้างจานและท่ออ่างล้างจานได้ โดยสิ่งนี้สามารถขจัดได้ด้วยการใช้เบกกิ้งโซดา ซึ่งวิธีการก็คือ ให้นำเอาเบกกิ้งโซดา เกลือ และน้ำร้อนเทลงไปในท่อได้เลย ก็จะช่วยทำให้คราบไขมันที่ติดอยู่หลุดออกไปได้
อัตราส่วนที่แนะนำ
- เบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วย
- เกลือ 1/2 ถ้วย
- น้ำร้อนจัด
6. ทำความสะอาดหม้อไหม้
ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดาอีกหนึ่ง คือ การที่สามารถช่วยทำความสะอาดหม้อที่ไหม้ได้ โดยทำได้ด้วยการนำเอาเบกกิ้งโซดาผสมเข้ากับน้ำอุ่น จากนั้นใส่ลงไปในหม้อที่ไหม้แล้วแช่ทิ้งไว้เป็นเวลาประมาณ 15-20 นาที หลังจากนั้นจึงค่อยนำมาขัดแล้วล้างออกได้ตามปกติ ก็จะได้หม้อในสภาพเดิมกลับมาอีกครั้ง
อัตราส่วนที่แนะนำ
- เบกกิ้งโซดา 2-3 ช้อนโต๊ะ
- ต่อน้ำอุ่นปริมาณที่พอท่วมรอยไหม้ในหม้อ
7. กำจัดกลิ่นในตู้เย็น
ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดาข้อสุดท้ายที่อยากนำมาแชร์กัน คือ เบกกิ้งโซดาสามารถช่วยกำจัดกลิ่นในตู้เย็นได้ ถือเป็นเรื่องปกติมาก ๆ ที่ตู้เย็นที่ผ่านการแช่ของมากมายจะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งเป็นปัญหาที่ก่อกวนใจคุณแม่บ้านมากมายแน่นอน แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้เบกกิ้งโซดา เพียงแค่นำเบกกิ้โซดาใส่ถ้วยเล็ก ๆ ไปตั้งไว้ในตู้เย็น เบกกิ้งโซดาก็จะทำหน้าที่ในการดูดซับกลิ่นให้หมดไปจากตู้เย็น ทั้งนี้ควรจะทำการเปลี่ยนเบกกิ้งโซดาใหม่ในทุก ๆ 2-3 เดือน
อัตราส่วนที่แนะนำ
- เบกกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวง ใส่ในภาชนะเปิด
สรุปบทความ
หลังจากที่รู้ว่าเบกกิ้งโซดาทำอะไรได้บ้าง เชื่อได้เลยว่าจะต้องถูกใจเหล่าคุณพ่อบ้านหรือคุณแม่บ้านมากแน่นอน เพราะเบกกิ้งโซดาสามารถช่วยแก้ปัญหาหลาย ๆ อย่างที่อยู่ในห้องครัวได้ และนี่ก็เป็นเคล็ดลับดี ๆ ที่นำมาฝากกัน