ห้องครัว จัดเป็นอีกหนึ่งห้องที่ต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการระบายอากาศ ต้องมีการออกแบบให้อากาศสามารถถ่ายเทได้ง่าย เพราะการทำห้องครัวปิดทึบ ไม่มีช่องระบายอากาศหรือไม่ได้ติดตั้งพัดลมระบายอากาศ มักจะเกิดปัญหาตามมาคือห้องครัวมีกลิ่นอับหรือมีกลิ่นเหม็นจากอาหารต่าง ๆ ที่เราทำขึ้น สามารถส่งผลเสียได้มากกว่าที่คิด มาตามดูดีกว่าว่าการดับกลิ่นในห้องครัวสามารถทำได้อย่างไร
กลิ่นอาหาร ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในห้องครัว
กลิ่นอาหารอบอวลเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในห้องครัวประเภทปิดทึบ บางครั้งแค่เปิดประตูครัวกลิ่นก็เล็ดลอดออกมาภายนอกส่งผลให้เกิดกลิ่นเหม็นไปทั่วทั้งบ้าน และที่สำคัญกลิ่นอาหารเหล่านี้สามารถเกาะกับเฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า ซึ่งถ้าหากเข้าครัวทำอาหารแต่ละครั้งต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทุกทีก็คงจะไม่ดีแน่ และจะทำให้การทำครัวสนุกสนานน้อยลงอย่างแน่นอน
7 วิธีดับกลิ่นอาหารในครัว
วันนี้เรามี 7 วิธีที่ช่วยดับกลิ่นอาหารรบกวนในครัวที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งต้องบอกว่ามีวิธีมากมาย สามารถเลือกใช้ได้ตามสะดวกกันเลย โดยรายละเอียดการดับกลิ่นมีดังนี้
1.ระบายอากาศ
หัวใจสำคัญของการทำให้ห้องครัวไม่มีกลิ่นเหม็นก็คือการวางระบบระบายอากาศให้ดี มีหน้าต่างและช่องระบายควันที่เพียงพอ เพราะเมื่ออากาศถ่ายเทหมุนเวียนได้ก็จะหมดปัญหากลิ่นอับ หรือติดตั้งเครื่องดูดควันมาตรฐานสากลจาก Tecnogas เหมาะทั้งสำหรับครัวคอนโด หรือครัวที่ประกอบอาหารบ่อย ๆ อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่
2.ใช้น้ำร้อนล้างท่อ
บางครั้งกลิ่นเหม็นที่สะสมอยู่นั้นมาจากท่อน้ำในครัวมีเศษอาหารลงไปตกค้าง เมื่อหมักสะสมอยู่นานก็จะเกิดการเน่าเปื่อยอยู่ภายในท่อจนส่งกลิ่นเหม็นตีกลับขึ้นมา การใช้น้ำร้อนเทลงไปล้างท่อช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้ได้
3.ใช้เบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูล้างท่อ
สามารถใช้น้ำส้มสายชูผสมกับเบกกิ้งโซดาในสัดส่วนที่พอเหมาะเทลงไปในท่อน้ำทิ้ง รอประมาณ 10 นาที เทน้ำร้อนตามลงไป ช่วยล้างคราบไขมันและแบคทีเรียที่ส่งกลิ่นเหม็นขึ้นมาได้
4.ดับกลิ่นด้วยถ่านและกากกาแฟ
หากครัวเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์สามารถใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายอย่างถ่านและกากกาแฟ นำมาใส่ถ้วยวางบริเวณมุมครัวหรือใกล้จุดที่มีกลิ่นเหม็น จะช่วยดูดซับกลิ่นเหล่านั้นให้เจือจางลงได้
5.ใช้มะนาวหรือมะกรูด
หากครัวเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์สามารถใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายอย่างถ่านและกากกาแฟ นำมาใส่ถ้วยวางบริเวณมุมครัวหรือใกล้จุดที่มีกลิ่นเหม็น จะช่วยดูดซับกลิ่นเหล่านั้นให้เจือจางลงได้
6.ใช้น้ำหอมช่วยปรับอากาศ
วิธีง่าย ๆ อีกอย่างคือการเลือกซื้อน้ำหอมปรับอากาศที่เหมาะกับขนาดของห้องครัวมาติดไว้เป็นตัวช่วยดับกลิ่น แนะนำเป็นกลิ่นซีตรัสอย่างส้ม มะนาว หรือตะไคร้มะกรูดหอม เป็นต้น
7.ทำความสะอาดครัวในทันที
การทำความสะอาดครัวหลังทำอาหารเสร็จสิ้นก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ครัวเกิดกลิ่นเหม็นตกค้างหรือสะสมได้ โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ช่วยขจัดกลิ่นเช็ดถูในบริเวณเคาน์เตอร์ครัวที่กลิ่นอาหารสามารถเกาะจับได้ เพื่อลดการสะสมกลิ่นและแบคทีเรีย
สรุปบทความ
การทำความสะอาดและเปิดห้องครัวให้ถ่ายเท อากาศระบายได้ดีเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ห้องครัวหมดปัญหากลิ่นอาหารตกค้าง โดยเครื่องดูดควันสำหรับห้องครัวคอนโดและพัดลมระบายอากาศที่ได้มาตรฐานเป็นตัวเลือกที่ Tecnogas อยากแนะนำให้คนทำครัวทุกคนได้ใช้ เพราะนอกจากจะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุแล้ว ยังช่วยเซฟเงิน เซฟสุขภาพของคนในครอบครัวของคุณจากแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์อีกด้วย