รวมวิธีกำจัดกลิ่นกระเทียมติดมือ ทำยังไงให้กลิ่นหาย

รวมวิธีกำจัดกลิ่นกระเทียมติดมือ ทำยังไงให้กลิ่นหาย - tecnogas

ปัญหากลิ่นกระเทียมติดมือถือเป็นฝันร้ายที่คนทำครัวหลาย ๆ คนไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ก็เป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงได้ยากเมื่อการทำอาหาร โดยเฉพาะอาหารในโซนเอเชียบ้านเราที่กระเทียมเป็นเหมือนเครื่องปรุงหลักที่ช่วยดึงรสดึงกลิ่นอาหารให้น่ารับประทานขึ้น จะตัดใจทิ้งไปเลยก็ทำไม่ได้ แต่ถ้าเผลอไปโดนแล้วกลิ่นก็ติดนานเป็นวัน ๆ จนถึงสัปดาห์ แก้ปัญหาได้ด้วยเทคนิคง่าย ๆ ที่เราจะนำมาบอกกันวันนี้

ทำไมกลิ่นกระเทียมติดมือล้างออกยาก

ในส่วนของสาเหตุที่กลิ่นกระเทียมติดมือล้างออกยากก็เป็นเพราะว่าในกระเทียมนั้นมีสารจำพวกกำมะถันอยู่เยอะมาก ทำให้เราหั่นหรือสับกระเทียม ทำให้กลิ่นเหล่านี้ติดอยู่ที่มือแถมยังล้างออกได้ยากกว่าที่คิดบางคนเป็นวัน หรือบางคนกลิ่นติดเป็นสัปดาห์ ชวนหงุดหงิดและน่ากวนใจมากจริง ๆ ถ้าอยากจะรู้วิธีแก้รีบตามอ่านกันไปด้วยกันได้

รวมวิธีกำจัดกลิ่นกระเทียมติดมือ

รวมวิธีกำจัดกลิ่นกระเทียมติดมือ - tecnogas

ในเนื้อหาส่วนนี้จะเป็นการรวบรวมวิธีที่ได้ผลในการกำจัดกลิ่นกระเทียมที่ติดมือออกกันโดยใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีในครัว ทำให้กลิ่นฉุน ๆ ของกระเทียมตัวร้ายนั้นหลุดออกจากมือและนิ้วมือของเราอย่างง่ายดาย และแน่นอนว่าสามารถทำได้ไม่ยาก โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.ล้างน้ำสะอาด

การล้างน้ำสะอาดน่าจะเป็นสิ่งแรกที่หลาย ๆ คนนึกถึง จริง ๆ แล้วน้ำเปล่าก็สามารถชะล้างกลิ่นไม่พึงประสงค์จากกระเทียมได้ เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ออกทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแค่ช่วยให้กลิ่นเบาบางลงนิดหน่อยเท่านั้น

2.ใช้มะนาวถู

อย่ามองข้ามมะนาวในตู้เย็นของคุณ เพราะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ของกระเทียม โดยการใช้มะนาวผ่าซีกมาถูตามมือและซอกเล็บ เพราะผลไม้รสเปรี้ยวมีกรดและช่วยดับกลิ่นได้ดีมาก เมื่อถูเสร็จแล้วก็ล้างออกด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง

3.ถูด้วยเกลือ

เกลือประกอบอาหารก็สามารถนำมาใช้กำจัดกลิ่นกระเทียมที่ติดมือได้ ด้วยการใช้เกลือสักหนึ่งหยิบมือถูไปบนมือที่เปียกหมาด ๆ คล้ายกับการใช้สครับ เพื่อขัดถูให้กลิ่นที่ติดอยู่นั้นเจือจางลงไป นอกจากนั้นแล้วยังได้ฝ่ามือที่เนียนนุ่มน่าสัมผัสขึ้นอีกด้วย

4.อุปกรณ์ครัวสเตนเลส

อาจฟังดูแปลก แต่การเอามือที่มีกลิ่นกระเทียมติดอยู่ไปถูกับเครื่องครัวสเตนเลส หรือเครื่องครัวยุโรป เช่น หม้อสเตนเลส กระทะสเตนเลส สักประมาณ 20-30 วินาที แล้วหลังจากนั้นล้างมือซ้ำด้วยน้ำเปล่าพร้อมสบู่อีกรอบกลิ่นก็จะจางหายไปอย่างไม่น่าเชื่อ

5.กากกาแฟ

สำหรับกากกาแฟนับว่ามีสรรพคุณในด้านการทำความสะอาดอยู่แล้ว สามารถใช้เป็นสครับผิวกาย จึงช่วยขจัดกลิ่นจากกระเทียมได้เพียงผสมกากกาแฟกับน้ำและถูที่มือ

6.เบกกิ้งโซดาผสมเกลือ

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ขจัดกลิ่นได้หมดจรดด้วยการผสมเบกกิ้งโซดาเข้ากับเกลือและเติมน้ำเล็กน้อย นำมาขัดสครับบริเวณฝ่ามือและซอกนิ้วเพื่อกำจัดกลิ่นกระเทียมที่ติดอยู่ประมาณ 30 วินาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้กลิ่นเหม็น ๆ ของกระเทียมก็หายไปทันที

สรุปบทความ

สรุปบทความ - tecnogas

จริง ๆ แล้วอุปกรณ์เครื่องครัวของเราเป็นตัวช่วยอย่างดีที่ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากกระเทียมได้ โดยเฉพาะเครื่องครัวสเตนเลสที่ถือว่าเป็นสิ่งใกล้ตัวคนทำอาหารมากที่สุด ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยขจัดกลิ่นกระเทียมได้ ดังนั้น Tecnogas ขอแนะนำชุดเครื่องครัวยุโรป ผลิตจากสเตนเลสคุณภาพสูง เหมาะกับการทำอาหารทุกรูปแบบ พร้อมมาตรฐานระดับสากล ช่วยยกระดับการทำอาหารของคุณให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

รวมวิธีล้างกระทะให้สะอาดเหมือนได้ใบใหม่

รวมวิธีล้างกระทะให้สะอาดเหมือนได้ใบใหม่ - tecnogas

กระทะก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เครื่องครัวที่เมื่อผ่านการใช้งานไปนาน ๆ แล้วก็มักจะเกิดคราบดำกวนใจทำให้เมื่อต้องนำมาประกอบอาหารก็เกิดความไม่มั่นใจว่าจะมีสารตกค้างที่ก่อให้เกิดโรคร้ายตามมาหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าคราบดำเหล่านั้นเมื่อสะสมไปนาน ๆ ก็ยิ่งยากที่จะล้างออกด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาตามไปอ่านกันพร้อมๆ กันเลย

คราบไหม้กระทะเกิดจากอะไร

คราบไหม้บนกระทะเกิดขึ้นจากการปรุงอาหารที่ต้องใช้ไฟแรง การตั้งหม้อหรือกระทะทิ้งไว้จนก้นกระทะไหม้ หรือเกิดมาจากคราบเครื่องปรุงต่าง ๆ ที่เราใส่ลงไปในกระทะ เมื่อผ่านไปนานก็เกาะตัวกันกลายเป็นคราบดำนั่นเอง

รวมวิธีล้างกระทะที่คุณแม่บ้านต้องรู้

รวมวิธีล้างกระทะที่คุณแม่บ้านต้องรู้ - tecnogas

แน่นอนว่าเมื่อกระทะเกิดคราบดำคราบไหม้ เราไม่จำเป็นต้องทิ้งกระทะแล้วซื้อใหม่เสมอไป แต่เราสามารถทำความสะอาดให้กระทะใบเก่ากลับมาสะอาดเอี่ยมอีกครั้งได้ด้วยส่วนประกอบที่หาได้ในห้องครัวและอ่างล้างจานดี ๆ สักอัน

1.ล้างกระทะด้วยมันฝรั่ง

วัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารอย่างมันฝรั่ง เป็นตัวช่วยที่ดีในการล้างคราบดำที่เกิดขึ้นบนกระทะได้ โดยการโรยเบรคกิ้งโซดาที่ก้นกระทะ จากนั้นใช้มันฝรั่งผ่าซีกมาขัดถูที่รอยดำให้จางออก

2.ล้างกระทะด้วยเบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชู

เบกกิ้งโซดาเป็นตัวการสำคัญในการทำความสะอาดที่คุณแม่บ้านส่วนใหญ่รู้จัก โดยในการขัดคราบดำคราบไหม้ให้ผสมกับน้ำส้มสายชูให้เป็นเนื้อครีมข้น ทาทิ้งไว้ที่ก้นกระทะ 24 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาแล้วขัดออกด้วยการใส่เบกกิ้งโซดาเพิ่ม 3 ช้อนโต๊ะ และน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ วิธีนี้เหมาะมากกับกระทะที่คราบเยอะสะสม

3.ล้างกระทะด้วยซอสมะเขือเทศ

อย่ามองข้ามซอสมะเขือเทศในครัวไป เพราะสามารถใช้ซอสทาทิ้งไว้ 10 นาที หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับความเยอะของคราบไหม้ กรดจากมะเขือเทศจะเข้าไปกัดให้คราบดำหลุดออกมาอย่างง่ายดาย

4.ล้างกระทะด้วยครีมออฟทาร์ทาร์

อีกหนึ่งวัตถุดิบอย่างครีมออฟทาร์ทาร์ สามารถนำมาใช้ล้างคราบดำจากกระทะได้ด้วยการโรยลงไป 3 ส่วน ตามด้วยน้ำเปล่า 1 ส่วน ถูให้ทั่วจากนั้นทิ้งไว้ 10 นาที เมื่อครบเวลาแล้วใช้ที่ขัดหม้อขัดออก

5.ล้างกระทะด้วยน้ำร้อนและน้ำยาล้างจาน

เป็นวิธีที่ช่วยทำความสะอาดคราบดำและขัดเงาให้กับเครื่องครัวสเตนเลสไปพร้อม ๆ กัน วิธีการคือนำกระทะลงไปแช่ในน้ำร้อนที่ผสมน้ำยาล้างจานเอาไว้ในอ่างล้างจาน จากนั้นยกขึ้นมาโรยด้วยเบกกิ้งโซดา ขัดซ้ำอีกครั้งด้วยฝอยขัดหม้อและน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจาน เท่านี้ก็สะอาดแถมเงาวับจับใจคนรักเครื่องครัว

6.ล้างกระทะด้วยแป้งสาลีและน้ำส้มสายชู

เป็นวิธีที่เหมาะกับกระทะเทฟล่อน เพียงใช้แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ ผสมเกลือและน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ทาลงบนก้นกระทะ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำร้อนที่ผสมกับน้ำยาล้างจานเป็นอันเสร็จสิ้น

7.ล้างกระทะด้วยเกลือและน้ำส้มสายชู

ผสมน้ำส้มสายชูกับเกลือให้เป็นเนื้อสครับเข้มข้น จากนั้นนำลงขัดที่ก้นกระทะด้วยฟองน้ำหรือฝอยขัดหม้อ เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ทำได้กับทุกเนื้อกระทะ

สรุปบทความ

สรุปบทความ - tecnogas

และนี่ก็เป็นวิธีง่าย ๆ หลายสูตรที่ให้แม่บ้านคนเข้าครัวนำไปทดลองทำตามกันได้ โดยการเลือกใช้อ่างล้างจานที่ใหญ่ก็จะทำให้เราสามารถล้างกระทะได้สะดวกยิ่งขึ้น Tecnogas ขอแนะนำอ่างล้างจานคุณภาพสูงจากเรา ที่มีขนาดใหญ่ แข็งแรง ทนทาน เหมาะกับการล้างทำความสะอาดเครื่องครัว เลือกซื้อความคุ้มค่าให้กับครัวของคุณ

วิธีดับกลิ่นอาหารในห้องครัว ทำอย่างไร

วิธีดับกลิ่นอาหารในห้องครัว ทำอย่างไร - tecnogas

ห้องครัว จัดเป็นอีกหนึ่งห้องที่ต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการระบายอากาศ ต้องมีการออกแบบให้อากาศสามารถถ่ายเทได้ง่าย เพราะการทำห้องครัวปิดทึบ ไม่มีช่องระบายอากาศหรือไม่ได้ติดตั้งพัดลมระบายอากาศ มักจะเกิดปัญหาตามมาคือห้องครัวมีกลิ่นอับหรือมีกลิ่นเหม็นจากอาหารต่าง ๆ ที่เราทำขึ้น สามารถส่งผลเสียได้มากกว่าที่คิด มาตามดูดีกว่าว่าการดับกลิ่นในห้องครัวสามารถทำได้อย่างไร

กลิ่นอาหาร ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในห้องครัว

กลิ่นอาหารอบอวลเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในห้องครัวประเภทปิดทึบ บางครั้งแค่เปิดประตูครัวกลิ่นก็เล็ดลอดออกมาภายนอกส่งผลให้เกิดกลิ่นเหม็นไปทั่วทั้งบ้าน และที่สำคัญกลิ่นอาหารเหล่านี้สามารถเกาะกับเฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า ซึ่งถ้าหากเข้าครัวทำอาหารแต่ละครั้งต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทุกทีก็คงจะไม่ดีแน่ และจะทำให้การทำครัวสนุกสนานน้อยลงอย่างแน่นอน

7 วิธีดับกลิ่นอาหารในครัว

7 วิธีดับกลิ่นอาหารในครัว - tecnogas

วันนี้เรามี 7 วิธีที่ช่วยดับกลิ่นอาหารรบกวนในครัวที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งต้องบอกว่ามีวิธีมากมาย สามารถเลือกใช้ได้ตามสะดวกกันเลย โดยรายละเอียดการดับกลิ่นมีดังนี้

1.ระบายอากาศ

หัวใจสำคัญของการทำให้ห้องครัวไม่มีกลิ่นเหม็นก็คือการวางระบบระบายอากาศให้ดี มีหน้าต่างและช่องระบายควันที่เพียงพอ เพราะเมื่ออากาศถ่ายเทหมุนเวียนได้ก็จะหมดปัญหากลิ่นอับ หรือติดตั้งเครื่องดูดควันมาตรฐานสากลจาก Tecnogas เหมาะทั้งสำหรับครัวคอนโด หรือครัวที่ประกอบอาหารบ่อย ๆ อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่

2.ใช้น้ำร้อนล้างท่อ

บางครั้งกลิ่นเหม็นที่สะสมอยู่นั้นมาจากท่อน้ำในครัวมีเศษอาหารลงไปตกค้าง เมื่อหมักสะสมอยู่นานก็จะเกิดการเน่าเปื่อยอยู่ภายในท่อจนส่งกลิ่นเหม็นตีกลับขึ้นมา การใช้น้ำร้อนเทลงไปล้างท่อช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้ได้

3.ใช้เบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูล้างท่อ

สามารถใช้น้ำส้มสายชูผสมกับเบกกิ้งโซดาในสัดส่วนที่พอเหมาะเทลงไปในท่อน้ำทิ้ง รอประมาณ 10 นาที เทน้ำร้อนตามลงไป ช่วยล้างคราบไขมันและแบคทีเรียที่ส่งกลิ่นเหม็นขึ้นมาได้

4.ดับกลิ่นด้วยถ่านและกากกาแฟ

หากครัวเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์สามารถใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายอย่างถ่านและกากกาแฟ นำมาใส่ถ้วยวางบริเวณมุมครัวหรือใกล้จุดที่มีกลิ่นเหม็น จะช่วยดูดซับกลิ่นเหล่านั้นให้เจือจางลงได้

5.ใช้มะนาวหรือมะกรูด

หากครัวเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์สามารถใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายอย่างถ่านและกากกาแฟ นำมาใส่ถ้วยวางบริเวณมุมครัวหรือใกล้จุดที่มีกลิ่นเหม็น จะช่วยดูดซับกลิ่นเหล่านั้นให้เจือจางลงได้

6.ใช้น้ำหอมช่วยปรับอากาศ

วิธีง่าย ๆ อีกอย่างคือการเลือกซื้อน้ำหอมปรับอากาศที่เหมาะกับขนาดของห้องครัวมาติดไว้เป็นตัวช่วยดับกลิ่น แนะนำเป็นกลิ่นซีตรัสอย่างส้ม มะนาว หรือตะไคร้มะกรูดหอม เป็นต้น

7.ทำความสะอาดครัวในทันที

การทำความสะอาดครัวหลังทำอาหารเสร็จสิ้นก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ครัวเกิดกลิ่นเหม็นตกค้างหรือสะสมได้ โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ช่วยขจัดกลิ่นเช็ดถูในบริเวณเคาน์เตอร์ครัวที่กลิ่นอาหารสามารถเกาะจับได้ เพื่อลดการสะสมกลิ่นและแบคทีเรีย

สรุปบทความ

สรุปบทความ - tecnogas

การทำความสะอาดและเปิดห้องครัวให้ถ่ายเท อากาศระบายได้ดีเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ห้องครัวหมดปัญหากลิ่นอาหารตกค้าง โดยเครื่องดูดควันสำหรับห้องครัวคอนโดและพัดลมระบายอากาศที่ได้มาตรฐานเป็นตัวเลือกที่ Tecnogas อยากแนะนำให้คนทำครัวทุกคนได้ใช้ เพราะนอกจากจะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุแล้ว ยังช่วยเซฟเงิน เซฟสุขภาพของคนในครอบครัวของคุณจากแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์อีกด้วย

ไอเดียตกแต่งห้องครัวบ่งบอกความเป็นตัวคุณ

ไอเดียตกแต่งห้องครัวบ่งบอกความเป็นตัวคุณ - tecnogas

อย่ามองข้ามการตกแต่งห้องครัว ! โดยเฉพาะครัวบ้านที่คนส่วนมากจะต้องใช้งานอยู่เป็นประจำทุกวัน การตกแต่งให้สวยงามและเหมาะสมกับการใช้งานช่วยทั้งเสริมความสวยงามและพลังงานดี ๆ ในการเข้าครัวได้ด้วย อีกทั้งยังสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์รสนิยมเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี

ห้องครัว อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของบ้าน

ห้องครัวถือเป็นอีกส่วนของบ้านที่ต้องให้ความสำคัญ นอกจากฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วนแล้ว การตกแต่งให้สวยงามน่าใช้งานก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องใส่ใจ เพราะห้องครัวเป็นเหมือนอู่ข้าวอู่น้ำของบ้านเรา การตกแต่งให้สวยงามก็เหมือนช่วยเสริมความเป็นมงคลให้กับบ้านเราได้ด้วย

10 ไอเดียตกแต่งห้องครัว สวยได้ไม่ซ้ำใคร

วันนี้เรามาแนะนำ 10 ไอเดียตกแต่งห้องครัวในสไตล์ต่าง ๆ ที่สะท้อนความเป็นตัวคุณ ได้ทั้งความสวยงามผสมการใช้งานที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ ดังนี้

1.ไอเดียตกแต่งห้องครัวสไตล์โมเดิร์น

ไอเดียตกแต่งห้องครัวสไตล์โมเดิร์น - tecnogas

ห้องครัวสไตล์โมเดิร์นเป็นห้องครัวที่เน้นความเรียบง่าย ทันสมัย และเน้นการใช้งานเป็นหลัก การออกแบบห้องครัวสไตล์โมเดิร์นจึงควรคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก โดยควรจัดวางสิ่งของต่างๆ ไว้อย่างเป็นระเบียบ สะดวกต่อการหยิบใช้ และควรเลือกใช้วัสดุที่ทนทาน ดูแลรักษาง่าย ห้องครัวสไตล์โมเดิร์นเหมาะกับพื้นที่ที่ไม่กว้างมาก โดยสามารถตกแต่งรวมห้องครัวและโต๊ะรับประทานอาหารไว้ด้วยกันโดยไม่ขัดสายตา ถือว่าเป็นสไตล์ที่สามารถเข้ากันได้กับบ้านหลากหลาย

2.ไอเดียตกแต่งห้องครัวสีขาว

ไอเดียตกแต่งห้องครัวสีขาว - tecnogas

สีขาวเป็นสีที่ได้รับความนิยมในการตกแต่งห้องครัวมาอย่างยาวนาน เนื่องจากเป็นสีที่ให้ความสว่าง สะอาดตา และดูกว้างขวาง เพราะการแต่งห้องครัวสีขาว ช่วยเสริมมิติให้กับห้องครัวที่มีขนาดเล็ก ที่มีแสงธรรมชาติไม่เพียงพอ เช่น ครัวในคอนโด หรือครัวในบ้านให้ดูมีความกว้างและสะอาดตายิ่งขึ้น ทำให้รู้สึกการทำครัวเป็นเรื่องเพลินๆ ดูสะอาดสะอ้านได้เป็นอย่างดี

3.ไอเดียตกแต่งห้องครัวสีทูโทน

ไอเดียตกแต่งห้องครัวสีทูโทน - tecnogas

การตกแต่งห้องครัวสีทูโทนเป็นการตกแต่งห้องครัวที่ใช้สี 2 สีมาตกแต่งห้องครัวร่วมกัน โดยสีที่นำมาตกแต่งห้องครัวร่วมกันควรเป็นสีที่เข้ากัน เช่น สีร้อนและสีเย็น สีสว่างและสีเข้ม เป็นต้น ซึ่งการแต่งห้องครัวสีทูโทนช่วยเสริมความรู้สึกสดใหม่ เสริมไอเดียใหม่ ๆ สามารถตกแต่งด้วยคู่สีใกล้เคียงหรือคู่สีตรงข้ามตามชอบ ซึ่งหากใครต้องการเพิ่มเสน่ห์ให้กับห้องครัวแบบไม่ซ้ำใคร หรือเพิ่มความสร้างสรรค์กระตุ้นการทำอาหารขอแนะนำเลย

4.ไอเดียตกแต่งห้องครัวอิฐ

ไอเดียตกแต่งห้องครัวอิฐ - tecnogas

การตกแต่งสไตล์ Brick เหมาะกับครัวที่ต้องการเสริมบรรยากาศอบอุ่น เช่น ห้องครัวของครอบครัว ห้องรับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตา หรือรวมตัวในโอกาสพิเศษต่าง ๆ ที่ถือว่าให้บรรยากาศที่มีความเรียบง่ายไปในตัวแบบไม่ต้องตกแต่งอะไรมาก จะช่วยให้ความรู้สึกอบอุ่นและคลาสสิก เพราะอิฐเป็นวัสดุที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นแถมยังคลาสสิก ทำให้ห้องครัวดูสวยงามและน่าอยู่เหนือกาลเวลา

5.ไอเดียตกแต่งห้องครัวปูนขัดมัน

ไอเดียตกแต่งห้องครัวปูนขัดมัน - tecnogas

ห้องครัวปูนขัด ให้ความรู้สึกดิบ เท่ ทันสมัย ปูนขัดมันเป็นวัสดุที่ให้ความรู้สึกดิบ เท่ ทันสมัย ทำให้ห้องครัวดูมีสไตล์ แถมยังทนทาน ดูแลรักษาง่าย ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงเหมาะกับครัวที่ไม่ต้องการตกแต่งมาก ตกแต่งด้วยต้นไม้ใบเขียวเข้มสักหน่อยช่วยดึงบรรยากาศเข้มขรึมได้ดี ทำให้การทำครัวนั้นเป็นระเบียบเรียบร้อย สามารถจัดครัวได้หลากหลายรูปแบบสุดๆ

6.ไอเดียตกแต่งห้องครัวลอฟต์

ไอเดียตกแต่งห้องครัวลอฟต์ - tecnogas

ครัวสไตล์ loft ปูนเปลือยตัดกับแสงไฟ warm เหมาะกับคนชอบครัวสไตล์โรงงาน ให้ความรู้สึกดิบ เท่ ทันสมัย การตกแต่งห้องครัวลอฟต์จะเน้นโชว์โครงสร้างเดิมของอาคาร เช่น เสา คาน ท่อเหล็ก ท่อน้ำ เป็นต้น ทำให้ห้องครัวดูมีสไตล์และไม่เหมือนใคร ด้วยการตกแต่งห้องครัวลอฟต์จะเน้นความโปร่งโล่งสบาย โดยมักมีเพดานสูงและเปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาเต็มที่ ทำให้ห้องครัวดูกว้างขวางขึ้น อีกทั้งทำให้ครอบครัวเลอะได้ยากอีกด้วย

7.ไอเดียตกแต่งห้องครัว Luxury

ไอเดียตกแต่งห้องครัว Luxury - tecnogas

การตกแต่งห้องครัวสไตล์ Luxury เน้นความหรูหรา สง่างาม โดยใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง โทนสีที่ใช้มักเป็นโทนสีเข้ม ตัดกับสีอ่อน เช่น สีดำ ขาว น้ำตาลทอง วัสดุที่ใช้มักเป็นหินอ่อน ไม้เนื้อแข็ง สเตนเลส กระจก และไฟ LED ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ห้องครัวดูสว่างและหรูหรา เหมาะกับครัวในคอนโดหรือครัวบ้านขนาดใหญ่ เลือกใช้วัสดุเคาน์เตอร์หินอ่อนล้วนโทนเทาขาวทอง กับไฟชานเดเลีย ช่วยเสริมความโอ่อ่าได้มาก

8.ไอเดียตกแต่งห้องครัวมินิมอล

ไอเดียตกแต่งห้องครัวมินิมอล - tecnogas

การตกแต่งห้องครัวสไตล์มินิมอล เน้นความเรียบง่าย สะอาดตา โปร่งโล่ง โดยใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น โทนสีที่ใช้มักเป็นโทนสีอ่อน เช่น ขาว เทา ครีม วัสดุที่ใช้มักเป็นไม้ กระจก สเตนเลส และไฟ LED ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ห้องครัวดูสว่างและสบายตา กลับมา Back to basic กับโทนสีมินิมอล เช่น การเลือกใช้สีขาวตัดกับดำ โคมไฟสไตล์เรียบ ๆ แต่ส่องสว่างชัด ช่วยให้ครัวมีความเรียบง่ายแต่ดูดีมีระดับ

9.ไอเดียตกแต่งห้องครัวด้วยไม้

ไอเดียตกแต่งห้องครัวด้วยไม้ - tecnogas

การตกแต่งห้องครัวสไตล์ด้วยไม้ เน้นความอบอุ่น ผ่อนคลาย โดยใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการตกแต่งห้องครัว โทนสีที่ใช้มักเป็นโทนสีอ่อน เช่น ขาว เทา น้ำตาลอ่อน วัสดุที่ใช้มักเป็นไม้จริง หรือไม้เทียมที่มีคุณภาพ และในปัจจุบันการแต่งครัวด้วยไม้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เพราะไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น ปลอดโปร่ง เป็นกันเอง ช่วยคลายความเครียดความกังวลได้

10.ไอเดียตกแต่งห้องครัวลายหินอ่อน

ไอเดียตกแต่งห้องครัวลายหินอ่อน - tecnogas

การตกแต่งห้องครัวสไตล์ลายหินอ่อน เน้นความหรูหรา สง่างาม โดยใช้ลายหินอ่อนเป็นวัสดุหลักในการตกแต่งห้องครัว โทนสีที่ใช้มักเป็นโทนสีอ่อน เช่น ขาว เทา ครีม วัสดุที่ใช้มักเป็นหินอ่อนเทียม หินอ่อนจริง ซึ่งการแต่งครัวด้วยหินอ่อนเป็นที่นิยมในครัวคอนโดและครัวบ้านที่ต้องการความสวยงาม คงทนในการใช้งาน สามารถเลือกหินอ่อนเป็นพื้นกระเบื้องและพื้นเคาน์เตอร์ได้ตามความชอบ เสริมความหรูหราโอ่อ่าให้ครัวได้ดี

สรุปบทความ

สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องครัวที่ดูดีมีสไตล์ไปตกแต่งห้องครัว และยังสามารถใช้งานได้อย่างมีมาตรฐาน ปลอดภัยไร้กังวล เลือกเครื่องครัวมาตรฐานสากลทนทานต่อการใช้งานจาก Tecnogas ให้เป็นส่วนหนึ่งของครัวคุณ รูปลักษณ์ดีไซน์สวยงาม เป็นเครื่องครัวที่ยกระดับห้องครัวของคุณไปอีกขั้น

เทคนิคการทอดปลาไม่ให้ติดกระทะ

เทคนิคการทอดปลาไม่ให้ติดกระทะ - tecnogas

ปัญหาทอดปลาแล้วติดกระทะเป็นอะไรที่คนทำครัวหลายคนเคยประสบพบเจอมา และสร้างความน่าหงุดหงิดรำคาญใจอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะตั้งใจทอดแค่ไหนสุดท้ายหนังปลาก็ไปติดกับกระทะจนเนื้อเละเนื้อยุ่ย พาให้เสียอารมณ์ในการเข้าครัวทำอาหารจนอยากจะยกเลิกเมนูนั้นทิ้งไปเสียเลย วันนี้เราจะมาเผยทริคและเคล็ดลับในการทอดปลาอย่างไรไม่ให้ติดกระทะกัน

ทำไมทอดปลาทีไรแล้วต้องติดกระทะ

ทำไมทอดปลาทีไรแล้วต้องติดกระทะ - tecnogas

สาเหตุของการทอดปลาแล้วติดกระทะนั้นก็เกิดขึ้นได้จากหลายอย่าง อย่างหนึ่งเป็นเพราะว่าหนังปลานั้นความชื้นอยู่มาก เมื่อลงทอดในน้ำมันที่ไม่ร้อนพอหรือกระทะที่ความร้อนไม่ถึง ความร้อนไม่เสถียร ก็จะทำให้ปลาติดกระทะเมื่อทอดนั่นเอง เบื้องต้นเราจึงอยากแนะนำให้เลือกใช้เตาไฟฟ้าที่มีการกระจายความร้อนได้ดี ช่วยแก้ปัญหาจากต้นเหตุตั้งแต่แรก

อุปกรณ์สำคัญที่ต้องเตรียมในการทอดปลา

ในการทอดปลาไม่ให้ติดกระทะ อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมมีดังต่อไปนี้

  1. กระทะเทฟล่อน
  2. เตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้า
  3. น้ำมัน
  4. เกลือ

เคล็ด(ไม่)ลับ ทอดปลาไม่ให้ติดกระทะ

เคล็ด(ไม่)ลับ ทอดปลาไม่ให้ติดกระทะ - tecnogas

การทอดปลาไม่ให้ติดกระทะไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด สามารถทำได้ด้วยอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วในห้องครัว แต่เน้นไปที่ความเข้าใจหลักการของการทำอาหารว่าการปรุงเมนูจากปลานั้นต้องมีความใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียม ดังนี้

1.โรยเกลือบนตัวปลาทั้งสองด้าน

เทคนิคนี้เป็นที่นิยมกันในวงการเข้าครัว วิธีทำคือใช้เกลือป่นสำหรับประกอบอาหาร โรยหรือทาให้ทั่วตัวปลาทั้งสองฝั่งแล้วทิ้งไว้ให้เกลือซึมเข้า ประมาณ 15 นาทีก่อนลงทอดในน้ำมันที่ร้อน เพราะเกลือจะช่วยดูดซับความชื้นออกจากเนื้อปลา ทำให้เนื้อปลาแห้งลง และช่วยดึงน้ำมันออกจากเนื้อปลา ทำให้เนื้อปลาไม่ติดกระทะ

2.นำกระทะไปลนไฟให้เกิดความร้อน

สำหรับอีกเทคนิคหนึ่งที่ถือว่านิยมไม่ใช่น้อย นั่นก็คือการนำกระทะไปลนไฟให้เกิดความร้อน เพื่อที่จะให้ความร้อนเกิดขึ้นทั่วกระทะ หลังจากนั้นจึงค่อยใส่น้ำมัน น้ำมันก็จะเดือดกำลังดี สามารถนำเอาปลาลงไปทอดได้เลย ก็จะทำให้ปลาทอดกรอบสุกไว และไม่ติดกระทะอย่างแน่นอน

3.ทอดปลาด้วยไฟปานกลาง

การปรับกำลังไฟของเตาแก๊สให้อยู่ในระดับกลาง ไม่อ่อนเกินไปหรือแรงเกินไปเป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ช่วยให้ปลาไม่ติดกระทะ นอกจากการทอดปลาด้วยไฟปานกลางแล้ว การเลือกใช้เตาแก๊สที่มีกำลังไฟเสถียรคู่กับกระทะเทฟล่อนจะช่วยลดการติดกระทะได้ดีมากขึ้น

4.ห้ามพลิกปลาบ่อย

แนะนำให้รอปลาสุกทีละด้านแล้วค่อยพลิกอีกฝั่งหนึ่ง เพราะทุกครั้งที่พลิกปลาน้ำมันที่เคลือบอยู่บนหนังด้านหนึ่งจะหลุดออกไปก็ทำให้ปลาติดกระทะได้ง่ายขึ้น รวมถึงการล้างทำความสะอาดปลาให้ดีก่อนทอดก็มีผลเช่นกัน

5.พักปลาบนกระดาษให้แห้ง

อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าหนังปลามีความชื้นสูง ดังนั้นหลังจากการล้างทำความสะอาดปลาแล้วเราควรวางพักบนกระดาษเพื่อดูดซับความชื้นจากน้ำที่เกาะบนตัวปลาให้หมดไปก่อนลงทอด ทำให้น้ำมันกระจายได้ดีขึ้น ลดปัญหาการติดกระทะได้

สรุปบทความ

เมื่อรู้เทคนิคดี ๆ แล้วหวังว่าปัญหาการทอดปลาแล้วติดกระทะของทุกบ้านจะหมดไป เพราะการทำอาหารแล้วติดกระทะนั้นเป็นปัญหาที่คนทำอาหารทุกคนไม่มีใครอยากพบเจออย่างแน่นอน ซึ่งการเลือกใช้เตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้าที่มีคุณภาพ นำความร้อนได้ดีจะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ในระดับหนึ่ง วางใจผลิตภัณฑ์เครื่องครัวจาก Tecnogas เป็นผู้ช่วยมือหนึ่งในครัวของคุณ

วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นด้วยหม้อหุงข้าวเล็ก

วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นด้วยหม้อหุงข้าวเล็ก - tecnogas

การหุงข้าวเป็นสิ่งที่ชาวเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทยของเราที่รับประทานข้าวเป็นมื้อหลักนั้นคุ้นเคยกันมาดีอยู่แล้ว คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ บ้านต่างก็มีเทคนิคการหุงข้าวที่เฉพาะตัวเพื่อให้ได้ข้าวที่มีความอ่อนนุ่มในระดับที่ต้องการเรียกได้ว่าเป็นเคล็ดลับประจำห้องครัว แต่ในวันนี้เราจะมาบอกเล่าเทคนิคการหุงข้าวญี่ปุ่นด้วยหม้อหุงข้าวเล็กกันบ้าง ว่าหุงอย่างไรให้ได้รสชาติเหนียวนุ่ม หอมละมุน เหมือนกับมีเชฟจากญี่ปุ่นมาหุงให้ทานกันเลยทีเดียว

ลักษณะเฉพาะของข้าวญี่ปุ่น

ลักษณะเฉพาะของข้าวญี่ปุ่น - tecnogas

ข้าวญี่ปุ่นมีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นคือขนาดของเมล็ดข้าวที่สั้นกว่าข้าวทั่วไป รวมถึงรสสัมผัสที่เหนียวนุ่มและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ข้าวญี่ปุ่นเป็นข้าวที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ และสามารถนำไปทำเมนูได้หลากหลายในแบบสไตล์ญี่ปุ่น โดยเฉพาะ ซูชิ นั่นเอง และยังสามารถนำไปทำเป็นข้าวด้ง หรือเบ็นโตะได้อีกด้วย ถือว่าเป็นความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ที่คนไทยหลายคนต่างก็ชื่นชอบกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

การหุงข้าวญี่ปุ่นมีอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม ไม่ต่างอะไรจากการหุงข้าวไทยเท่าไหร่นัก โดยสามารถเตรียมอุปกรณ์ได้ดังต่อไปนี้เลย

  1. ข้าวญี่ปุ่น
  2. ถ้วยตวงข้าว
  3. หม้อใบกลางสำหรับแช่ข้าว
  4. หม้อหุงข้าวเล็ก

วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นแบบง่าย ๆ

วิธีหุงข้าวญี่ปุ่นแบบง่าย ๆ - tecnogas

ในการหุงข้าวญี่ปุ่นนั้นมีขั้นตอนไม่ต่างกันกับการหุงข้าวทั่วไป แตกต่างแค่เทคนิคบางอย่างที่มีขั้นตอนมากกว่า เพื่อให้ข้าวที่หุงนั้นออกมาเหนียวนุ่ม รสชาติดี เหมาะกับการนำไปทำเมนูต่าง ๆ หรือทานเป็นข้าวสวยญี่ปุ่นก็ได้ โดยมีวิธีดังนี้

1.ล้างน้ำเปล่าให้สะอาด

ขั้นตอนแรกคือการตวงข้าวญี่ปุ่นออกมาให้ได้ปริมาณที่ต้องการสัก 1-2 ถ้วยตวงใส่ลงไปในหม้อสำหรับแช่ข้าว ให้ใช้น้ำเย็นซาวข้าวประมาณ 1-2 นาที หรือ 3-4 รอบ กะดูจนกว่าน้ำที่ซาวข้าวจะใส ไม่มีสีขุ่นออกมาจากข้าวญี่ปุ่น

2.เติมน้ำลงไป

หลังจากซาวข้าวเรียบร้อยแล้ว ให้เติมน้ำเปล่า 1.2 เท่าของปริมาณข้าว เทคนิคสำคัญต่อจากนี้คือการพักข้าวทิ้งไว้ 30 นาที เพราะจะช่วยให้ข้าวญี่ปุ่นมีความนุ่มขึ้นเมื่อหุงเสร็จ และจะได้เนื้อสัมผัสแบบข้าวญี่ปุ่นจริงๆ นั่นเอง

3.รินน้ำออก

รินน้ำออกแล้วนำข้าวที่แช่ไว้ (ซึ่งตอนนี้เมล็ดข้าวจะเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่น ๆ) มาใส่ที่หม้อหุงข้าวเล็กของเรา เกลี่ยข้าวให้กระจายทั่ว ๆ เพื่อให้ข้าวออกมาเหนียวนุ่มทั่วกัน จากนั้นก็กดปุ่มอุ่นที่หม้อข้าวได้ตามปกติกันได้เลย

4.ข้าวสุกแล้วรอ 15 นาที

เมื่อข้าวสุกแล้วรอให้ข้าวระอุต่อไปอีก 15 นาที เพื่อให้ข้าวระอุถึงก้นหม้อ จะช่วยให้ข้าวญี่ปุ่นมีความนุ่มมากขึ้นรวมถึงมีกลิ่นหอมและรสชาติดีขึ้นด้วย

5.พร้อมรับประทาน

เมื่อครบเวลาอุ่นแล้วข้าวญี่ปุ่นก็พร้อมรับประทาน ก็สามารถตักข้าวใส่จานพร้อมเสิร์ฟหรือนำไปทำเมนูอื่น ๆ ต่อได้ตามชอบ

สรุปบทความ

การหุงข้าวญี่ปุ่นไม่แตกต่างกับข้าวปกติทั่วไป เพียงแต่ต้องมีการแช่ข้าวทิ้งไว้ก่อนประมาณ 30 นาทีก่อนหุง เพื่อให้ข้าวญี่ปุ่นมีความนุ่มยิ่งขึ้น เหมาะกับการนำมารับประทานกับเมนูทอด เช่น เทมปุระ ทงคัตสึ โรยหน้าด้วยงาดำสักหน่อย ก็เปลี่ยนให้การเข้าครัวของคุณสนุกมากขึ้นได้ และแน่นอนว่าเพื่อให้การทำอาหารสนุกยิ่งขึ้น เพิ่มความปลอดภัยในการทำอาหาร ควบคุมอุณหภูมิอาหารได้อย่างดีเยี่ยม ขอให้ลองแวะมาดูเตาแก๊ส เตาอบ และสินค้าอื่นๆ จากทาง Tecnogas กันได้ รับรองว่าได้ของคุณภาพดีสมราคาอย่างแน่นอน

ปอกหอมอย่างไรเพื่อไม่ให้แสบตา

ปอกหอมอย่างไรเพื่อไม่ให้แสบตา - tecnogas

นับว่าเป็นปัญหาคาใจอีกหนึ่งอย่างสำหรับคนเข้าครัวเลยก็ว่าได้ สำหรับเทคนิคการปอกหอมอย่างไรไม่ให้แสบตา น้ำตาไหล เศร้าทุกครั้งที่ต้องเข้าครัว ซึ่งสาเหตุก็เพราะว่าในหัวหอมจะมีสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า “ซัลเฟอร์ไดออกไซด์” ที่ระเหยออกมาเมื่อถูกหั่น ส่งผลให้เราระคายเคืองที่ดวงตานั่นเอง โดยทั้ง 7 วิธีที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ทำได้ง่ายๆ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

รวม 7 วิธีปอกหอม ไม่ให้เข้าตา

รวม 7 วิธีปอกหอม ไม่ให้เข้าตา - tecnogas

วันนี้เรารวบรวมวิธีที่ได้ผลในการเข้าครัวปอกหอมด้วยสิ่งที่หาได้จากห้องครัวของทุกคน แค่มีอ่างล้างจานดี ๆ สักอันก็ช่วยลดอาการแสบตาที่เกิดขึ้นได้แล้ว วิธีมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

1.หั่นหัวหอมในน้ำ

วิธีการหั่นหัวหอมในน้ำหรือที่เรียกว่าหั่นผ่านน้ำ มีวิธีง่าย ๆ คือวางหัวหอมบนเขียงใต้ก๊อกน้ำอ่างล้างจานแล้วเปิดน้ำให้ไหลผ่านหัวหอมขณะหั่น เป็นวิธีที่นิยมใช้เพื่อลดอาการแสบตา น้ำตาไหล จากสารระเหยที่ออกมาจากหัวหอมอย่าง ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ แต่เมื่อสารตัวนี้โดนน้ำก็จะหายไปทำให้ไม่แสบตานั่นเอง

2.แช่ตู้เย็นก่อนปอกเปลือก

หลายๆ บ้านแก้ไขด้วยการนำหัวหอมไปแช่ในตู้เย็นก่อนหั่น ก็เป็นอีกวิธีที่ลดการระคายเคืองตาจากสารซัลเฟอร์ตัวร้ายนี่ได้ เพราะสารเหล่านี้จะถูกชะลอไว้โดยอุณหภูมิที่เย็นลง ทำให้เราหั่นได้สะดวกขึ้น

3.นำมีดแช่น้ำก่อนหั่น

เป็นเทคนิคที่คล้ายกับการหั่นผ่านน้ำ แต่วิธีนี้จะอาศัยให้น้ำที่ติดอยู่บนใบมีดดูดซับสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์โดยตรงเมื่อมีดหั่นลงไป ก็จะช่วยระงับอาการแสบตาจากการหั่นได้

4.หั่นหัวหอมใกล้ความร้อน

นอกจากความเย็นแล้วความร้อนก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยดูดซับสารระคายเคืองที่ออกมาจากหัวหอมได้ เพียงนำเขียงที่ใช้หั่นหอมใหญ่ไปวางเอาไว้ใกล้ ๆ บริเวณที่มีความร้อน เช่น เทียนไข หรือเตาแก๊สขณะหั่น ซึ่งวิธีนี้แนะนำว่าต้องใช้ความระมัดระวังอยู่พอสมควร

5.พรมหน้าเขียงด้วยน้ำส้มสายชู

น้ำส้มสายชูมีฤทธิ์ในการยับยั้งการกระจายตัวของสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ได้ โดยผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำในอัตราส่วน 1:1 เทลงบนเขียงก่อนหั่น ช่วยลดอาการแสบตาได้ ซึ่งถือว่าเป็นอีกวิธีที่นับว่านิยมไม่แพ้กับวิธีอื่นๆ กันเลยดีกว่า

6.ตัดรากหอมใหญ่ในน้ำ

เป็นวิธีที่เรียกได้ว่าตัดปัญหาตรงจุด เพราะส่วนรากของหัวหอมเป็นแหล่งสะสมชั้นยอดของสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ดังนั้น การแช่รากในอ่างล้างจานและตัดรากในน้ำก่อนหั่นก็จะช่วยให้สารเหล่านี้ละลายออกไปกับน้ำ ลดการแสบดวงตาได้

7.เคี้ยวหมากฝรั่ง

มีความเชื่อว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งจะช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำลายทำให้อาการแสบตาลดลงได้ เพราะระหว่างที่เคี้ยวเราจะใช้การหายใจทางปากแทนจมูก ทำให้สารซัลเฟอร์จะเข้าสู่ปากก่อนดวงตา แต่อาจจะช่วยลดอาการแสบตาได้เล็กน้อยเท่านั้นถ้าเทียบกับวิธีอื่น ๆ

สรุปบทความ

สรุปบทความ - tecnogas

และนี่ก็เป็น 7 วิธีง่าย ๆ ใช้ได้จริง ที่ช่วยให้การปอกหัวหอมไม่เป็นเรื่องเศร้าจนต้องน้ำตาไหลในห้องครัวกันอีกต่อไปโดยเน้นไปที่การใช้น้ำจากอ่างล้างจานและอุณหภูมิทั้งต่ำและสูงไปลดการกระจายสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่ออกมาจากหัวหอม Tecnogas ก็หวังว่าเทคนิคดี ๆ เหล่านี้จะช่วยลดปัญหาในการเข้าครัวของทุกคนได้ และถ้าหากต้องการเตาแก๊ส เตาอบใช้ทำอาหารคุณภาพ ต้องห้ามพลาดกับสินค้าจากทางเรา มีให้เลือกหลายแบบทุกสไตล์

รวมเมนูกระทง ต้อนรับวันลอยกระทง

รวมเมนูกระทง ต้อนรับวันลอยกระทง - tecnogas

ใกล้เทศกาลลอยกระทงแล้วนอกจากจะตั้งใจทำกระทงสวย ๆ ไปลอยแม่น้ำเพื่อขอขมาลาโทษกับพระแม่คงคาตามความเชื่อประเพณีแล้ว การทำอาหารเมนูกระทงก็เป็นไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ที่น่าลองทำ ถึงแม้จะนำไปลอยน้ำไม่ได้ แต่ช่วยเพิ่มรสชาติอาหารช่วงเทศกาลให้พิเศษสมกับความเป็นคนไทยและวัฒนธรรมไทยได้ดีสุด ๆ

รวม 7 เมนูกระทง ต้อนรับวันลอยกระทง

สำหรับคนชอบเข้าครัว เราก็มีไอเดียสร้างสรรค์เมนูอาหารต้อนรับวันลอยกระทงที่น่าลองทำ กับ 7 เมนูต้อนรับวันลอยกระทงที่เด็กทานได้ผู้ใหญ่ถูกใจแน่นอน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1.กระทงทอง

กระทงทอง - tecnogas

เป็นเมนูของหวานโบราณหาทานยาก ทำเองได้ มีส่วนสำคัญที่ต้องทำ 3 จุดดังนี้

  1. ตัวกระทง : ทำโดยผสมแป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า ไข่ไก่ น้ำตาลทรายและเกลือเล็กน้อย ผสมให้เข้ากันจากนั้นใช้พิมพ์กระทงจุ่มลงในแป้งทอดให้เป็นสีทอง เป็นที่มาของชื่อเรียกว่า กระทงทอง
  2. ตัวไส้ : เลือกได้ตามชอบ มีทั้งไส้คาวและไส้หวาน เช่น ไส้ไก่, ไส้ข้าวโพด เป็นต้น
  3. ผักโรย : เลือกได้เป็นใบผักชี พริกชี้ฟ้าฝอยโรยเพิ่มความสวยงาม ตกแต่งจานด้วยผักกาดหอมก็พร้อมเสิร์ฟ

2.กระทงเกี๊ยวทอด

กระทงเกี๊ยวทอด - tecnogas

เป็นขนมที่ทำได้ง่าย ส่วนผสมหลักแค่ 2 อย่าง คือ แผ่นเกี๊ยวและน้ำมันปาล์มสำหรับทอด มีเทคนิคในการทอดเกี๊ยว คือทอดน้ำมัน ใช้เตาแก๊สไฟกลาง แล้วใช้ช้อนกดแผ่นเกี๊ยวเอาไว้ขณะทอดจะทำให้ได้รูปทรงถ้วยกระทงสวยงาม

3.กระทงเผือกทอด

กระทงเผือกทอด - tecnogas

เป็นเมนูทอดที่ทานเพลิน มีส่วนผสมหลักเป็นเผือกเส้นยาว แป้งมัน เกลือป่นเล็กน้อย และน้ำมัน ขั้นตอนการทำมีความสำคัญอยู่ที่การวางเผือกลงบนกระชอน แล้วนำกระชอนอีกอันมาวางทับ ลงทอดในกระทะที่น้ำมันเดือดท่วม

4.กระทงกาบปลีกล้วย

กระทงกาบปลีกล้วย - tecnogas

เมนูไทยโบราณโดยการนำหัวปลีมาทำเป็นกระทง มีส่วนผสมหลักคือ หัวปลี 1 หัว และไม้สำหรับกลัด มีขั้นตอนการทำเริ่มจากการลอกปลีกล้วยด้านนอกที่เป็นสีแดงออกจากหัวปลีเพื่อเช็ดทำความสะอาด จากนั้นกลับด้านหัวปลีให้เหมือนกลีบดอกบัว แล้วใช้ไม้กลัดไว้ให้อยู่ทรง ก็ได้กระทงกาบปลีกล้วยสวย ๆ แล้ว

5.ไข่ป่าม

ไข่ป่าม - tecnogas

เป็นเมนูจากภาคเหนือของเรา โดยเทไข่ลงบนใบตองที่ห่อเป็นกระทงหลายๆ ชั้น แล้วนำไปปรุงให้สุกด้วยวิธีป่าม คือ ปิ้งบนไฟอ่อนๆ จนกระทั่งไข่สุกเหลือง

6.ตะโก้อัญชัน

ตะโก้อัญชัน - tecnogas

มาต่อกันที่ขนมไทยโบราณกลิ่นหอมรสชาติหวานละมุนลิ้น ถูกใจคนรักขนมไทย โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักคือการทำสาคูด้วยน้ำดอกอัญชัน และการทำกะทิ เมื่อสุกแล้วตักสาคูรองด้านล่างกระทงใบตอง ราดกะทิด้านบนพร้อมตกแต่งด้วยกลีบดอกอัญชันก็พร้อมเสิร์ฟ

7.ขนมสายบัว

ขนมสายบัว - tecnogas

ขนมไทยโบราณเนื้อนุ่มเหนียว เสิร์ฟบนกระทงใบตองเข้ากับเทศกาลไทย ๆ อย่างลอยกระทงสุด ๆ มีส่วนประกอบหลักคือ สายบัว แป้งข้าวเจ้า แป้งท้าวยายม่อม มะพร้าว น้ำตาลปี๊บ เกลือ กะทิ เริ่มด้วยการล้างทำความสะอาดสายบัวในน้ำเกลือ จากนั้นผสมนำน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เกลือ และกะทิ เมื่อคนเข้ากันแล้วเติมแป้งลงไปผสม ตามด้วยสายบัว ตักใส่กระทงใบตองเข้านึ่งจนสุกก็พร้อมเสิร์ฟ

สรุปบทความ

และนี่ก็เป็นไอเดียดี ๆ ที่ช่วยสร้างสรรค์เมนูกระทงให้เข้ากับเทศกาลลอยกระทงของประเทศไทยเรา ซึ่งทุกเมนูเน้นการใช้ความร้อนที่สม่ำเสมอเพื่อให้รสชาติออกมาสมบูรณ์แบบ Tecnogas เข้าใจคนชอบทำอาหารและขนม เราจึงให้ความใส่ใจในมาตรฐานของ เตาแก๊ส ทุกรุ่น ให้มีกำลังไฟเสถียร ใช้งานไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ ครบจบที่ Tecnogas

ปลาแซลมอน กับปลาเทราต์ ต่างกันอย่างไร

ปลาแซลมอน กับปลาเทราต์ ต่างกันอย่างไร - tecnogas

ปลาเนื้อส้มที่เราคุ้นตากันอาจไม่ใช่แซลมอนเสมอไป! เพราะเจ้า “ปลาแซลมอน” (Salmon) นี้มีแฝดคนละฝาที่มีความเหมือนแต่ต่างกันบางประการอย่าง “ปลาเทราต์” (Fjord Trout) อยู่นั่นเอง ความเหมือนทั้งด้านรูปร่าง หน้าตา สีสัน ของมันละม้ายคล้ายกันมากจนทำเอาหลาย ๆ คนสับสน แม้จะเหมือนกันแต่จัดเป็นปลาที่อยู่คนละสปีชีส์กัน จะมีความต่างกันให้สังเกตได้ที่ตรงไหนบ้างไปดูกัน

ทำความรู้จักปลาแซลมอน

ทำความรู้จักปลาแซลมอน - tecnogas

คงไม่มีใครไม่รู้จักปลาส้มสุดฮิตอย่างปลาแซลมอน (Salmon) ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศนอร์เวย์ เป็นปลาที่เกิดจากแหล่งน้ำจืดแต่เจริญเติบโตในน้ำเค็ม เมื่อจะผสมพันธุ์จะว่ายทวนกระแสน้ำเพื่อผสมพันธุ์ในน้ำจืด มีลักษณะผิวหนังเงางาม ตัวเรียวยาว และรสชาติของเนื้อที่ขึ้นชื่อด้านความชุ่มฉ่ำ ซึ่งปลาแซลมอนที่นำมาบริโภคนั้นกว่า 60% มาจากฟาร์มเพาะเลี้ยงในประเทศนอร์เวย์

ทำความรู้จักปลาเทราต์

ทำความรู้จักปลาเทราต์ - tecnogas

ปลาเทราต์ มีชื่อจริงว่า ปลาฟยอร์ดเทราต์ (Fjord Trout) มีถิ่นกำเนิดจากนอร์เวย์เหมือนกันกับแซลมอน หน้าตามีความคล้ายคลึงกับแซลมอนอยู่มาก อาศัยอยู่ในน้ำจืดและเป็นสายพันธุ์ปลาที่เลี้ยงง่ายจึงทำให้ปลาเทราต์เป็นปลาชนิดแรกที่ใช้เลี้ยงในฟาร์มปลาอีกด้วย

ความแตกต่างระหว่างปลาแซลมอน และปลาเทราต์

แน่นอนว่าหลาย ๆ คนน่าจะอยากรู้กันแล้วว่าถ้าเหมือนกันมากขนาดนี้ แล้วความต่างระหว่างปลาแซลมอนกับปลาเทราต์อยู่ที่ตรงไหน มาดูกัน

ปลาแซลมอน

ปลาแซลมอน - tecnogas
  •  มีลักษณะลำตัวเรียวยาว หัวแหลม
  • มีลวดลายตามลำตัวไม่เยอะมาก
  •  ปลายหางจะเว้าเล็กน้อย
  •  เนื้อสีส้มอ่อนๆ หรือส้มอมชมพู
  • ปลาแซลมอนจะมีไขมันแทรกตามชั้นเนื้อมากกว่าปลาเทราต์ จึงฉ่ำลิ้นกว่า

ปลาเทราต์

ปลาเทราต์ - tecnogas
  • ลักษณะลำตัวอ้วนป้อม สั้นกว่าปลาแซลมอน
  •  มักมีแถบสีส้มกลางลำตัวยาวชัดเจน เห็นได้ชัดเมื่อขอดเกล็ดแล้ว
  • ปลายหางตรง
  • เนื้อปลาเทราต์จะเป็นสีส้มเข้ม หรือสีส้มอมแดง
  • ไขมันแทรกตามชั้นเนื้อน้อยกว่าปลาแซลมอน

รสชาติเหมือนกันหรือไม่

แม้รูปร่างจะคล้ายกันแต่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ต่างกัน โดยปลาเทราต์จะมีรสชาติของเนื้อที่เข้มข้นและออกหวานมากกว่าเนื้อของปลาแซลมอน ส่วนปลาแซลมอนจะมีรสชาติที่กลมกล่อม ชุ่มฉ่ำ ละมุนลิ้นมากกว่าเนื้อปลาเทราต์จึงเป็นที่นิยมมากกว่านั่นเอง ทั้งคู่สามารถทานได้ทั้งแบบดิบและแบบสุก

สามารถกินส่วนไหนได้บ้าง

ในการรับประทานทั้งปลาแซลมอนและเทราต์รับประทานได้เหมือนกันทุกส่วน โดยจะมีส่วนที่นิยมอยู่ 5 จุด ดังนี้

1. เนื้อบนซี่โครง (Top Loin): เป็นเนื้อนุ่มละมุนลิ้น นิยมนำมาทานแบบซาซิมิ

2. เนื้อสัน (Loin): เป็นเนื้อที่อยู่ตรงกลางลำตัวของปลาแซลมอน มีมันแทรกน้อย ประกอบอาหารได้หลากหลาย

3. หน้าท้อง (Belly): เป็นส่วนที่มีไขมันอยู่มากที่สุด รสชาตินุ่ม นิยมนำมาย่างไฟ ทำเมนูปิ้งย่างให้หนังกรอบเกรียม เนื้อนุ่มฉ่ำ หรือย่างกระทะด้วยเตาแก๊ส

4. เนื้อกลางตัว (Second Cut): เป็นส่วนเนื้อที่ไขมันน้อยเนื้อบาง ๆ ถูกใจสายเฮลตี้

5. หาง (Tail): เป็นส่วนที่ไม่มีมันแทรกเลย นิยมนำไปบดทำชิ้นเล็ก ๆ ประกอบเมนูอาหารต่าง ๆ

สรุปบทความ

และนี่ก็คือความแตกต่างระหว่างปลาที่มีรูปร่างหน้าตาราวกับฝาแฝด แต่จริง ๆ แล้วมีความต่างกันอยู่หลายจุด อีกทั้งการปรุงเนื้อปลาให้รสชาติดีไม่มีสะดุด โดยเฉพาะกับเนื้อปลาราคาแพงแบบนี้ ขอแนะนำให้เลือกใช้ เตาแก๊ส คุณภาพสูงจาก Tecnogas ด้วยมาตรฐานระดับสากล ช่วยให้การปรุงเนื้อปลาแซลมอนและปลาเทราต์ที่ต้องให้ความสำคัญกับความร้อนออกมารสชาติอร่อยสมบูรณ์แบบ

ทำไมเมนูไข่ถึงดีต่อการลดน้ำหนัก

เมนูไข่ เมนูยอดฮิตเอาใจคนลดน้ำหนัก - tecnogas

ไข่ เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมันดี วิตามิน และสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ที่สำคัญคือมีแคลอรีต่ำ จึงเหมาะสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก ตอบโจทย์สายเฮลตี้หรือคนที่รักษาสุขภาพ นอกจากสามารถรังสรรค์เมนูได้หลากหลาย ไข่ยังมีแร่ธาตุและสารอาหารที่เหมาะสมกับคนที่กำลังลดน้ำหนักอีกด้วย

ทำไมเมนูไข่ถึงดีต่อการลดน้ำหนัก

เพราะว่าไข่มีโปรตีนสูงและแคลอรีต่ำ จึงเหมาะกับการนำมาประกอบเมนูต่าง ๆ สำหรับลดน้ำหนัก เพราะทำให้อิ่มท้องได้นานขึ้น รวมถึงในไข่แดงก็ยังอุดมไปด้วยไขมันดี เรียกได้ว่าไข่ 1 ใบ ให้คุณค่าสารอาหารได้ครบครันเลย

7 เมนูไข่ สำหรับคนลดน้ำหนัก

สำหรับใครที่กำลังมองหาเมนูไข่สำหรับลดน้ำหนัก เราขอแนะนำ 7 เมนูไข่ทำเองได้แค่มีเตาไฟฟ้าที่บ้าน ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก !

1.ข้าวไข่ข้นแซลมอน

ข้าวไข่ข้นแซลมอน - tecnogas

ข้าวไข่ข้นแซลมอนเป็นเมนูอาหารเช้าหรือมื้อว่างยอดนิยมที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ เมนูนี้อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งไขมันดี จาก ปลาแซลมอนซึ่งเป็นปลาที่มีไขมันดีสูง ไขมันดีเหล่านี้ช่วยบำรุงหัวใจและสมอง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง และโรคอื่นๆ

วัตถุดิบ

  • ข้าวสวย 2 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • ปลาแซลมอน 200 กรัม
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
  • นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

  1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอกเล็กน้อย ใส่ปลาแซลมอนลงไปผัดจนสุก ใส่เกลือและพริกไทยป่นตามชอบ 
  2. ตีไข่ไก่ 2 ฟอง ใส่นมสด ซอสถั่วเหลือง และเกลือเล็กน้อย คนให้เข้ากัน
  3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอกเล็กน้อย เทไข่ลงไป ยีไข่ให้ทั่วกระทะ
  4. รอจนไข่ข้นขึ้นเล็กน้อย ใส่ปลาแซลมอนลงไป เกลี่ยให้ทั่ว
  5. ปิดไฟ โรยต้นหอมซอยลงไป ปิดฝาไว้สักครู่ รอให้ไข่ข้นเซ็ตตัว
  6. ตักข้าวสวยใส่จาน ราดด้วยข้าวไข่ข้นแซลมอน รับประทานได้ทันที

เคล็ดลับความอร่อย

  • หากต้องการไข่ข้นที่เนียนนุ่ม ให้ใช้นมสด 1/4 ถ้วยแทนนมสด 2 ช้อนโต๊ะ
  • หากต้องการไข่ข้นที่มีกลิ่นหอม ให้ใส่ต้นหอมซอยลงไปในไข่ก่อนที่จะเทลงไปในกระทะ
  • หากต้องการไข่ข้นที่รสชาติเข้มข้น ให้ใส่ซอสมะเขือเทศหรือซอสพริกลงไปด้วย

2.ไข่อบอะโวคาโด

ไข่อบอะโวคาโด - tecnogas

ไข่อบอะโวคาโดเป็นเมนูที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งโปรตีน ไขมันดี วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีไขมันดีสูง ช่วยบำรุงหัวใจและสมอง ไข่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เมนูนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับมื้อเช้าหรือมื้อว่างของคนที่กำลังลดน้ำหนักหรือดูแลสุขภาพ

วัตถุดิบ

  • อะโวคาโด 2 ลูก
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • เกลือ เล็กน้อย
  • พริกไทยป่น เล็กน้อย
  • ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

  1. ผ่าอะโวคาโดครึ่งนึง นำเมล็ดออก
  2. ตอกไข่ใส่ลงไปในอะโวคาโด
  3. ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยป่นตามชอบ
  4. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 15-20 นาที โดยใช้ไฟบนล่าง
  5. เมื่อไข่สุกตามต้องการ ก็โรยต้นหอมซอย

เคล็ดลับความอร่อย

  • หากต้องการไข่อบอะโวคาโดที่เนียนนุ่ม ให้ใช้อะโวคาโดสุกจัด
  • หากต้องการไข่อบอะโวคาโดที่มีรสชาติเข้มข้น ให้ใส่เบคอนหรือแฮมลงไปด้วย

3.ข้าวห่อไข่

ข้าวห่อไข่ - tecnogas

ข้าวห่อไข่เป็นเมนูอาหารยอดนิยมที่สามารถทำรับประทานได้ในทุกมื้อ เมนูนี้อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมันดี วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร ทั้งโปรตีนจากไข่ที่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ข้าวสวยเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย

วัตถุดิบ

  •  ข้าวสวย
  •  ไข่ไก่ 2 ฟอง
  •  นมสด 2 ช้อนชา
  •  ซอสปรุงรส
  •  แครอท มะเขือเทศ หรือเนื้อสัตว์ตามชอบ

วิธีทำ

  1. เตรียมข้าวสวย ข้าวสวยควรอุ่นให้ร้อนก่อนห่อ
  2. เตรียมไข่ ตีไข่ให้เข้ากัน ใส่เกลือและพริกไทยป่นตามชอบ
  3. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เทไข่ลงไป ยีไข่ให้ทั่วกระทะ
  4. รอจนไข่สุกประมาณ 70% ใส่ข้าวลงไป
  5. ม้วนไข่ให้เป็นรูปทรงตามต้องการ
  6. ตัดเป็นชิ้นพอดีคำ พร้อมเสิร์ฟ

เคล็ดลับความอร่อย

  • เลือกข้าวสวยที่มีคุณภาพดี ข้าวสวยที่ผ่านการขัดสีน้อยจะมีสารอาหารมากกว่า
  • ใส่ผักต่างๆ ลงไปในข้าวห่อไข่ เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและลดปริมาณแคลอรี
  • ปรุงรสข้าวห่อไข่ด้วยเกลือและพริกไทยป่นตามชอบ

4.ข้าวไข่ข้นไส้กรอก

ข้าวไข่ข้นไส้กรอก - tecnogas

ข้าวไข่ข้นไส้กรอกเป็นเมนูอาหารเช้าหรือมื้อว่างยอดนิยมที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ เมนูนี้อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะไส้กรอกเป็นแหล่งไขมันดีอยู่เล็กน้อย ไขมันดีเหล่านี้ช่วยบำรุงหัวใจและสมอง รวมถึงยังมีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมันดี วิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก สังกะสี และซีลีเนียมด้วย

วัตถุดิบ

  •  ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • นมสด 2 ช้อนชา
  •  พริกไทย
  • ซอสปรุงรส
  • ไส้กรอก

วิธีทำ

  1. เตรียมข้าวสวย ข้าวสวยควรอุ่นให้ร้อนก่อนใส่ลงไป
  2. เตรียมไส้กรอก หั่นไส้กรอกเป็นชิ้นพอดีคำ
  3. ตีไข่ให้เข้ากัน ใส่เกลือและพริกไทยป่นตามชอบ
  4. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เทไข่ลงไป ยีไข่ให้ทั่วกระทะ
  5. รอจนไข่สุกประมาณ 70% ใส่ไส้กรอกลงไป
  6. ปิดไฟ โรยต้นหอมซอยลงไป ปิดฝาไว้สักครู่ รอให้ไข่ข้นเซ็ตตัว
  7. ตักข้าวสวยใส่จาน ราดด้วยข้าวไข่ข้นไส้กรอก รับประทานได้ทันที

เคล็ดลับความอร่อย

  • เลือกข้าวสวยที่มีคุณภาพดี ข้าวสวยที่ผ่านการขัดสีน้อยจะมีสารอาหารมากกว่า
  • เลือกไส้กรอกที่มีคุณภาพดี ไส้กรอกควรมีเนื้อแน่น ไม่แข็งหรือนิ่มเกินไป
  • ใส่ผักต่างๆ ลงไปในข้าวไข่ข้นไส้กรอก เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและลดปริมาณแคลอรี
  • ปรุงรสข้าวไข่ข้นไส้กรอกด้วยเกลือและพริกไทยป่นตามชอบ

5.สลัดไข่เจียว

สลัดไข่เจียว - tecnogas

สลัดไข่เจียวเป็นเมนูอาหารที่มีส่วนผสมหลักคือไข่เจียวและผักสดต่างๆ เมนูนี้อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่ดี เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี ธาตุเหล็ก แคลเซียม และไฟเบอร์ วิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้มีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกายหลายประการ เช่น ช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และช่วยควบคุมการอักเสบของร่างกาย

วัตถุดิบ

  •  ไข่ไก่ 2 ฟอง
  •  น้ำมันพืช
  • ผักสลัด
  • น้ำสลัด

วิธีทำ

  1. เตรียมไข่เจียว เจียวไข่ให้สุกตามชอบ
  2. เตรียมผักสด หั่นผักสดเป็นชิ้นพอดีคำ
  3. เตรียมน้ำสลัด ผสมน้ำสลัดตามชอบ
  4. ตักผักสดใส่ชาม ราดด้วยไข่เจียว ราดน้ำสลัดตามชอบ รับประทานได้ทันที

เคล็ดลับความอร่อย

  • เลือกไข่ที่สดใหม่ ไข่ควรมีสีเหลืองเข้ม เนื้อแน่น
  • เลือกผักสดที่มีคุณภาพดี ผักสดควรสดใหม่ สะอาด
  • ใส่ผักต่างๆ ลงไปในสลัดไข่เจียว เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและลดปริมาณแคลอรี
  • ปรุงรสสลัดไข่เจียวด้วยน้ำสลัดไขมันต่ำหรือน้ำสลัดสูตรโฮมเมด

6.ไข่ม้วนลุยสวน

ไข่ม้วนลุยสวน - tecnogas

เมนูนี้เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีอย่างยิ่งสำหรับคนลดน้ำหนัก เพราะไข่ม้วนลุยสวนเป็นเมนูที่อุดมไปด้วยโปรตีนจากไข่และผักสดต่างๆ โปรตีนมีความสำคัญต่อร่างกายหลายประการ เช่น ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ช่วยควบคุมน้ำหนัก และช่วยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

วัตถุดิบ

  •  ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • หมูยอ
  •  แครอท
  • น้ำสลัด

วิธีทำ

  1. เตรียมไข่เจียว เจียวไข่ให้สุกตามชอบ
  2. เตรียมผักสด หั่นผักสดเป็นชิ้นพอดีคำ
  3. เตรียมน้ำจิ้มลุยสวน ผสมน้ำจิ้มตามชอบ
  4. ตักผักสดใส่จาน วางไข่เจียวลงไป ราดด้วยน้ำจิ้มลุยสวน รับประทานได้ทันที

เคล็ดลับความอร่อย

  • เลือกไข่ที่สดใหม่ ไข่ควรมีสีเหลืองเข้ม เนื้อแน่น
  • เลือกผักสดที่มีคุณภาพดี ผักสดควรสดใหม่ สะอาด
  • ใส่ผักต่างๆ ลงไปในไข่ม้วนลุยสวน เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและลดปริมาณแคลอรี

7.ต้มซุปไข่น้ำ

ต้มซุปไข่น้ำ - tecnogas

ต้มซุปไข่น้ำ เป็นเมนูอาหารประเภทต้ม คล้ายกับแกงจืด และให้ประโยชน์มากมายเนื่องจากเมนูนี้ประกอบไปด้วยไข่และผักที่อุดมไปด้วยวิตามินบี วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส โปรตีน แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก เป็นต้น ที่ดีต่อสุขภาพและควบคุมการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายให้เป้นไปตามปกติ

วัตถุดิบ

  •  ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • น้ำเปล่า 1 ลิตร
  •  กระเทียม รากผักชี ต้นหอม
  • ซุปก้อน

วิธีทำ

  1. เตรียมไข่ ตีไข่ให้เข้ากัน
  2. เตรียมผักสด หั่นผักสดเป็นชิ้นพอดีคำ
  3. เตรียมน้ำซุป ใส่น้ำซุปลงในหม้อ ตั้งไฟให้เดือด
  4. ใส่ไข่ลงไปในน้ำซุป ต้มจนไข่สุก
  5. ใส่ผักสดลงไปในน้ำซุป ต้มจนผักสุก
  6. ปรุงรสต้มซุปไข่น้ำด้วยเกลือ พริกไทย ตามชอบ รับประทานได้ทันที

เคล็ดลับความอร่อย

  • เลือกไข่ที่สดใหม่ ไข่ควรมีสีเหลืองเข้ม เนื้อแน่น
  • เลือกผักสดที่มีคุณภาพดี ผักสดควรสดใหม่ สะอาด
  • ใส่ผักต่างๆ ลงไปในต้มซุปไข่น้ำ เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและลดปริมาณแคลอรี
  • ปรุงรสต้มซุปไข่น้ำด้วยน้ำซุปกระดูกหมูหรือน้ำซุปผัก เพื่อเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ

สรุปบทความ

เรียกได้ว่าเพียงแค่มีวัตถุดิบอย่างไข่ไก่และเตาไฟฟ้าธรรมดา ก็รังสรรค์ได้หลากหลายเมนู แต่ไม่ว่าจะเป็นเมนูไหน Tecnogas ก็เอาอยู่ ช่วยเนรมิตให้ทุกเมนูออกมาเพอร์เฟค ด้วยความร้อนที่เสถียรจากเตาไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานสากล พร้อมตอบโจทย์ทุกการทำอาหารของคุณ

Follow Us

TEL. 02-274-3434
EMAIL : webmaster@sbo-brand.com

The Signature Brand Co., Ltd. 
771 Pracha Uthit Road, Samsen Nok,Huai Khwang District, Bangkok 10310