ปลาเนื้อส้มที่เราคุ้นตากันอาจไม่ใช่แซลมอนเสมอไป! เพราะเจ้า “ปลาแซลมอน” (Salmon) นี้มีแฝดคนละฝาที่มีความเหมือนแต่ต่างกันบางประการอย่าง “ปลาเทราต์” (Fjord Trout) อยู่นั่นเอง ความเหมือนทั้งด้านรูปร่าง หน้าตา สีสัน ของมันละม้ายคล้ายกันมากจนทำเอาหลาย ๆ คนสับสน แม้จะเหมือนกันแต่จัดเป็นปลาที่อยู่คนละสปีชีส์กัน จะมีความต่างกันให้สังเกตได้ที่ตรงไหนบ้างไปดูกัน
ทำความรู้จักปลาแซลมอน
คงไม่มีใครไม่รู้จักปลาส้มสุดฮิตอย่างปลาแซลมอน (Salmon) ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศนอร์เวย์ เป็นปลาที่เกิดจากแหล่งน้ำจืดแต่เจริญเติบโตในน้ำเค็ม เมื่อจะผสมพันธุ์จะว่ายทวนกระแสน้ำเพื่อผสมพันธุ์ในน้ำจืด มีลักษณะผิวหนังเงางาม ตัวเรียวยาว และรสชาติของเนื้อที่ขึ้นชื่อด้านความชุ่มฉ่ำ ซึ่งปลาแซลมอนที่นำมาบริโภคนั้นกว่า 60% มาจากฟาร์มเพาะเลี้ยงในประเทศนอร์เวย์
ทำความรู้จักปลาเทราต์
ปลาเทราต์ มีชื่อจริงว่า ปลาฟยอร์ดเทราต์ (Fjord Trout) มีถิ่นกำเนิดจากนอร์เวย์เหมือนกันกับแซลมอน หน้าตามีความคล้ายคลึงกับแซลมอนอยู่มาก อาศัยอยู่ในน้ำจืดและเป็นสายพันธุ์ปลาที่เลี้ยงง่ายจึงทำให้ปลาเทราต์เป็นปลาชนิดแรกที่ใช้เลี้ยงในฟาร์มปลาอีกด้วย
ความแตกต่างระหว่างปลาแซลมอน และปลาเทราต์
แน่นอนว่าหลาย ๆ คนน่าจะอยากรู้กันแล้วว่าถ้าเหมือนกันมากขนาดนี้ แล้วความต่างระหว่างปลาแซลมอนกับปลาเทราต์อยู่ที่ตรงไหน มาดูกัน
ปลาแซลมอน
- มีลักษณะลำตัวเรียวยาว หัวแหลม
- มีลวดลายตามลำตัวไม่เยอะมาก
- ปลายหางจะเว้าเล็กน้อย
- เนื้อสีส้มอ่อนๆ หรือส้มอมชมพู
- ปลาแซลมอนจะมีไขมันแทรกตามชั้นเนื้อมากกว่าปลาเทราต์ จึงฉ่ำลิ้นกว่า
ปลาเทราต์
- ลักษณะลำตัวอ้วนป้อม สั้นกว่าปลาแซลมอน
- มักมีแถบสีส้มกลางลำตัวยาวชัดเจน เห็นได้ชัดเมื่อขอดเกล็ดแล้ว
- ปลายหางตรง
- เนื้อปลาเทราต์จะเป็นสีส้มเข้ม หรือสีส้มอมแดง
- ไขมันแทรกตามชั้นเนื้อน้อยกว่าปลาแซลมอน
รสชาติเหมือนกันหรือไม่
แม้รูปร่างจะคล้ายกันแต่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ต่างกัน โดยปลาเทราต์จะมีรสชาติของเนื้อที่เข้มข้นและออกหวานมากกว่าเนื้อของปลาแซลมอน ส่วนปลาแซลมอนจะมีรสชาติที่กลมกล่อม ชุ่มฉ่ำ ละมุนลิ้นมากกว่าเนื้อปลาเทราต์จึงเป็นที่นิยมมากกว่านั่นเอง ทั้งคู่สามารถทานได้ทั้งแบบดิบและแบบสุก
สามารถกินส่วนไหนได้บ้าง
ในการรับประทานทั้งปลาแซลมอนและเทราต์รับประทานได้เหมือนกันทุกส่วน โดยจะมีส่วนที่นิยมอยู่ 5 จุด ดังนี้
1. เนื้อบนซี่โครง (Top Loin): เป็นเนื้อนุ่มละมุนลิ้น นิยมนำมาทานแบบซาซิมิ
2. เนื้อสัน (Loin): เป็นเนื้อที่อยู่ตรงกลางลำตัวของปลาแซลมอน มีมันแทรกน้อย ประกอบอาหารได้หลากหลาย
3. หน้าท้อง (Belly): เป็นส่วนที่มีไขมันอยู่มากที่สุด รสชาตินุ่ม นิยมนำมาย่างไฟ ทำเมนูปิ้งย่างให้หนังกรอบเกรียม เนื้อนุ่มฉ่ำ หรือย่างกระทะด้วยเตาแก๊ส
4. เนื้อกลางตัว (Second Cut): เป็นส่วนเนื้อที่ไขมันน้อยเนื้อบาง ๆ ถูกใจสายเฮลตี้
5. หาง (Tail): เป็นส่วนที่ไม่มีมันแทรกเลย นิยมนำไปบดทำชิ้นเล็ก ๆ ประกอบเมนูอาหารต่าง ๆ
สรุปบทความ
และนี่ก็คือความแตกต่างระหว่างปลาที่มีรูปร่างหน้าตาราวกับฝาแฝด แต่จริง ๆ แล้วมีความต่างกันอยู่หลายจุด อีกทั้งการปรุงเนื้อปลาให้รสชาติดีไม่มีสะดุด โดยเฉพาะกับเนื้อปลาราคาแพงแบบนี้ ขอแนะนำให้เลือกใช้ เตาแก๊ส คุณภาพสูงจาก Tecnogas ด้วยมาตรฐานระดับสากล ช่วยให้การปรุงเนื้อปลาแซลมอนและปลาเทราต์ที่ต้องให้ความสำคัญกับความร้อนออกมารสชาติอร่อยสมบูรณ์แบบ