รวม 8 สูตรเด็ดเมนูสปาเก็ตตี้หลากสไตล์

เมนูสปาเก้ตตี้
เมนูสปาเก็ตตี้ถือเป็นอีกอาหารจานโปรดของหลาย ๆ คนที่ชอบมาก ไม่ใช่แค่เจอกับเส้นอันแสนเหนียวนุ่มเท่านั้น แต่ยังสามารถเลือกทำซอสได้หลากสไตล์อีกต่างหาก ใครอยากลองทำสปาเก็ตตี้ทานเองแต่ไม่รู้ต้องใช้สูตรไหนบ้าง ก็ขอรวม 8 วิธีทำสปาเก็ตตี้แสนอร่อยมาฝาก จะทำทานเองหรือแบ่งเพื่อนฝูงก็ดีงามมากขอบอก!!! เมนูสปาเก็ตตี้

รวม 8 เมนูและวิธีทำสปาเก็ตตี้แสนอร่อย

เมนูสปาเก็ตตี้เหมือนจะยากแต่จริง ๆ แล้วหากได้รู้สูตรหรือวิธีทำอย่างถูกต้องไม่ว่ามือใหม่เข้าครัวแค่ไหนก็ทำเองได้ จึงขอรวมเอา 8 สูตรทำสปาเก็ตตี้เองที่บ้านมาบอกต่อ งานนี้ไม่ยากอย่างที่คิดแน่นอน มีแค่เตาแก๊ส หรือเตาแม่เหล็กไฟฟ้าก็ลุยได้แล้ว ชอบแนวไหนจัดเลย
  1. สปาเก็ตตี้ราดซอสมะเขือเทศและหมูสับ ผัดหมูสับกับน้ำมันพืชเล็กน้อยให้พอสุก ใส่หอมหัวใหญ่ซอย รอจนหมูสุกได้ที่ ใส่มะเขือเทศหั่นเต๋าคลุกจนมะเขือเทศสุกกำลังเหมาะ เติมซอสมะเขือเทศลงไปคลุกเคล้าตามด้วยน้ำตาล พริกไทย ซีอิ๊วขาว ชิมรสชาติตามชอบ ตักราดบนเส้นสปาเกตตี้ที่ลวดแล้วก็เสิร์ฟได้เลย
  2. สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า วิธีทำสปาเก็ตตี้ยอดนิยมใครก็ทำได้ หั่นแฮมกับเบคอนขนาดพอดีคำ แยกไข่แดงออกจากไข่ขาว ใส่ไข่แดง 3 ฟอง ไข่ไก่ปกติ 1 ฟอง ขูดพาเมซานชีสเป็นเส้นฝอยลงไปในไข่ไก่ เติมพริกไทย เกลือ ผสมจนเข้ากัน ตั้งกระทะผัดเบคอนกับแฮมจนมีน้ำมันออก ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลวกแล้วลงผัดให้น้ำมันเบคอนเคลือบเส้นสวย ใส่น้ำเดือดที่ต้มเส้นไว้ลงไปเล็กน้อย เปิดไฟอ่อนแล้วเทส่วนผสมไข่กับชีสลงไป คลุกจนพอสุกปิดเตาเสิร์ฟได้ทันที
  3. สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาทะเล อีกเมนูสปาเก็ตตี้ที่คนไทยชอบมาก ตำพริก กระเทียม กระชายพอหยาบ ตั้งกระทะให้ร้อนเติมน้ำมันเล็กน้อย ใส่พริกที่ตำลงไปผัดจนกลิ่มหอมขึ้น ใส่หมึกกับกุ้งผักพอสุกปรุงรสด้วยน้ำปลา ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้กลมกล่อม ใส่ใบโหระพา เม็ดพริกไทยอ่อน พริกชี้ฟ้าแดงซอย ตามด้วยเส้นสปาเก็ตตี้ลวก ผัดให้ทุกอย่างเข้ากันโรยพริกไทยป่นเป็นอันเสร็จพิธี
  4. สปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้งใส่กุ้งสด ใครอยากลองทำสปาเก็ตตี้แบบใหม่จัดเลย หั่นพริกแห้งแบบสไลด์เอาเฉพาะเนื้อออกมาแยกไว้ ตั้งกระทะร้อนเติมน้ำมันเล็กน้อย ใส่กระเทียมสับลงผัดตามด้วยกุ้งสด พอกุ้งใกล้สุกเทพริกแห้งลงไป ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย น้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากันแล้วเปิดไฟแรง โรยใบโหระพา คลุกอีกรอบแล้วปิดไฟตักใส่จานรอทานกันทันที
  5. สปาเก็ตตี้เบคอนพริกกระเทียม ใส่น้ำมันลงกระทะเล็กน้อย ผัดเบคอนให้สุกสีสวย เทน้ำมันออก ตามด้วยกระเทียมสับละเอียด พอกลิ่นเริ่มหอยให้ใส่กระเทียมฝานบางลงไปเพิ่มสีสันและรสชาติ ต่อด้วยพริกแห้ง คลุกเคล้าจนได้ที่ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลวกแล้วตามลงไป ปรุงรสด้วยเกลือนิดหน่อย บางคนจะเติมน้ำตาลเล็กน้อยก็ไม่ว่ากัน หลังคลุกกันดีทุกอย่างแล้วตักใส่จานทานกันเลย
  6. สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน วิธีทำสปาเก็ตตี้รสชาติไทย ๆ ตั้งน้ำมันพอร้อน ใส่พริกแกงเขียวหวานผัดให้หอม อาจเติมน้ำได้นิดหน่อยหากกระทะแห้ง ผัดไก่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำจนสุก เติมกะทิคนเล็กน้อยรอเดือด ปรุงรสตามชอบด้วยเกลือ น้ำตาลมะพร้าว น้ำปลา ใส่กระชาย มะเขือพวง พริกแดง ผัดให้เข้ากันอีกรอบใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลวกสุกคลุกเคล้า จัดจานลงเสิร์ฟได้เลย
  7. สปาเก็ตตี้พริกแห้งไส้กรอก ทำสปาเก็ตตี้ทานเองง่าย ๆ ใส่ไส้กรอกหั่นเฉลียงลงไปผัดพอสุก ตามด้วยกระเทียมฝานบาง พริกแห้งหั่นตามยาว ผัดให้หอมน่าทานปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ผัดจนเข้ากัน โรยพริกไทยดำ โรยใบโหระพา คลุกเคล้ากันอีกรอบ ตักใส่จานทานอิ่มอร่อย
  8. สปาเก็ตตี้และมีทบอล ปิดท้ายด้วยเมนูสปาเก็ตตี้สุดพิเศษ ทำมีทบอลด้วยการใช้หมูสับหรือเนื้อสับ 500 กรัม ใส่ไข่ไก่ 1 ฟอง พาส์เลย์สับ ใบออริกาโน แป้งสาลีอเนกประสงค์กับแป้งมันหรือแป้งข้าวโพดอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ นวดให้เข้ากันปั้นเป็นก้อนกลมลงทอดจนสุก ตักพักไว้ ตั้งกระทะไฟปานกลางผัดหอมหัวใหญ่ซอยตามด้วยมะเขือเทศหั่นเต๋า ใส่มะเขือเทศเข้มข้น 1 กระป๋อง รอเดือด ปรุงรสด้วยเกลือป่น พริกไทย น้ำตาลเล็กน้อย คลุกจนได้ที่ใส่มีทบอลที่ทอดไว้เคลือบอีกรอบ จากนั้นราดใส่เส้นสปาเก็ตตี้ที่ลวกได้เลย
สูตรทำสปาเก็ตตี้ สปาเก็ตตี้ นี่คือทั้ง 8 สูตรเด็ดเมนูสปาเก็ตตี้ที่นำมาฝากกัน ใครอยากลองทำสไตล์ไหน หรือชอบแบบใดเลือกเลย แต่ละสูตรรับรองโดนใจไม่ผิดหวังแน่ หากทำเก่งแล้วจะลองให้เพื่อนทานด้วยก็ดีเยี่ยม ไม่แน่อาจสร้างรายได้ในอนาคตเลยนะจะบอกให้

แจกฟรี 15 สูตรเมนูกุ้งสุดฟิน ทำง่าย อร่อย กินได้ไม่เบื่อ

แจกฟรี 15 สูตรเมนูกุ้งสุดฟิน

“กุ้ง” ถือเป็นวัตถุดิบทะเลยอดฮิตสำหรับการนำมาใช้ประกอบอาหาร ด้วยรสชาติแสนอร่อย บวกกับพลิกแพลงเมนูได้หลากหลายมาก ใครที่กำลังมองหาเมนูกุ้งง่าย ๆ เพื่อนำไปใช้ทำทั้งแบบทานเองหรือเลี้ยงสังสรรค์จะขอแนะนำ 15 สูตรเมนูจากกุ้งสุดฟิน ใครทานแล้วต้องติดใจ อร่อยจนทำขายเองเลยก็ได้นะจะบอกให้

15 เมนูกุ้งง่ายๆ พร้อมเสิร์ฟได้หลายโอกาส

ตามที่บอกไปว่ากุ้งถือเป็นวัตถุดิบรสชาติดี ดูหรูหรา จึงสามารถทำได้ทั้งแบบทานเองในครอบครัวหรือเสิร์ฟในโอกาสสำคัญ แล้วจะมีเมนูเกี่ยวกับกุ้งที่น่าสนใจอะไรบ้าง ก็ขอรวม 15 สูตรเด็ดแต่เคล็ดไม่ลับมาฝากกันแล้ว แค่มี เตาแก๊ส หรือ เตาอบรับรองเอาอยู่ ทำตามเลย

1. กุ้งแช่น้ำปลา 

เริ่มต้นด้วยเมนูกุ้งสดที่มาพร้อมรสชาติจัดจ้านถึงใจ กุ้งแช่น้ำปลาเป็นเมนูทำง่ายๆ ที่มอบความสดชื่นจากเนื้อกุ้งหวานฉ่ำ ผสานกับน้ำยำรสแซ่บ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หอมกลิ่นมะนาว กระเทียม และพริกขี้หนูสด ทำให้เป็นเมนูเรียกน้ำย่อย หรือกับแกล้มชั้นดีที่ใครๆ ก็ต้องติดใจ

ส่วนผสม

  • กุ้ง
  • เกลือ
  • น้ำโซดา
  • น้ำสะอาด
  • น้ำปลาอย่างดี
  • น้ำกระเทียมดอง (ทั้งน้ำและหัว)
  • น้ำตาลมะพร้าว
  • ขิงซอย
  • พริกขี้หนูซอย
  • กระเทียมซอย
  • ต้นหอมซอย

วิธีทำ

  • ตัดหัวกุ้ง ผ่าเส้นดำกลางหลัง ล้างน้ำให้สะอาดด้วยเกลือกับน้ำโซดา พักไว้
  • เทน้ำสะอาด 220 มล. ลงหม้อ เติมน้ำปลา 1 ถ้วยตวง น้ำกระเทียมดอง (ทั้งน้ำและหัว) น้ำตาลมะพร้าว และขิงซอยตามชอบ
  • ต้มให้เดือดจนน้ำตาลละลาย ปรุงรสชาติแล้วชิมอีกรอบ
  • จัดกุ้งใส่จาน ราดน้ำปลาที่เตรียมไว้ลงไป
  • โรยหน้าด้วยพริกขี้หนู กระเทียม และต้นหอมซอย
  • แช่ทิ้งไว้ 3-5 ชั่วโมง ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด

2. กุ้งดองซีอิ๊วเกาหลี 

สัมผัสรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเมนูกุ้งดองซีอิ๊วเกาหลี เมนูยอดนิยมที่ผสานความหวานของเนื้อกุ้งสดเข้ากับความหอมของซีอิ๊วเกาหลีที่ผ่านการเคี่ยวกับเครื่องเทศนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นขิง แอปเปิล หรือพริกแห้ง ทำให้ได้กุ้งดองที่เข้มข้น กลมกล่อม และมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน

ส่วนผสม

  • กุ้ง
  • ต้นหอมญี่ปุ่นหั่น
  • ขิงสไลด์
  • แอปเปิลสไลด์
  • น้ำสะอาด
  • พริกแห้ง
  • สาหร่ายคอมบุ
  • พริกไทย
  • เห็ดหอมแห้ง
  • ซีอิ๊วขาว
  • ซอสถั่วเหลืองเกาหลี
  • โซจูเล็กน้อย
  • มิริน
  • น้ำตาล
  • พริกสด (สำหรับโรยหน้า)
  • กระเทียม (สำหรับโรยหน้า)
  • เลมอนสไลด์ (สำหรับโรยหน้า)

วิธีทำ

  • ทำความสะอาดกุ้งให้เรียบร้อย
  • หั่นต้นหอมญี่ปุ่น ขิง และแอปเปิลสไลด์เป็นแผ่น
  • ใส่ลงหม้อตั้งน้ำ 600 มล. จนเดือด ตามด้วยพริกแห้ง สาหร่ายคอมบุ พริกไทย และเห็ดหอมแห้ง
  • ต้มจนเดือดแล้วหรี่ไฟต้มทิ้งไว้ 30 นาที
  • ใส่ซีอิ๊วขาว ซอสถั่วเหลืองเกาหลี โซจูเล็กน้อย มิริน และน้ำตาล
  • ต้มเดือดอีกครั้งแล้วเบาไฟลงต้มต่อ 1 นาที
  • กรองเฉพาะน้ำแล้วรดบนตัวกุ้งที่จัดใส่จาน
  • โรยหน้าด้วยพริกสด กระเทียม และเลมอนสไลด์
  • ดองทิ้งไว้ 2-3 วัน ก็พร้อมทาน

3. กุ้งอบเกลือ 

เมนูกุ้งอบเกลือเป็นเมนูที่ทำง่ายแสนง่าย แต่คงไว้ซึ่งความหวานตามธรรมชาติของกุ้งได้อย่างดีเยี่ยม! เพียงแค่ใช้เกลือและใบเตยช่วยเพิ่มความหอม ก็จะได้กุ้งอบที่เนื้อนุ่มเด้ง หอมกรุ่น เหมาะสำหรับคนที่ชอบรสชาติเรียบง่ายแต่ได้สัมผัสความอร่อยจากวัตถุดิบแท้ๆ

ส่วนผสม

  • กุ้ง
  • เกลือ
  • ใบเตยหั่นท่อน
  • น้ำเปล่า

วิธีทำ

  • ทำความสะอาดกุ้ง ไม่ต้องแกะหัว
  • ตั้งกระทะไฟปานกลาง ใส่กุ้งลงไป
  • เติมเกลือแล้วใส่ใบเตยหั่นเป็นท่อนเพื่อเพิ่มความหอม
  • ใส่น้ำเปล่า 30 มล.
  • พยายามคลุกให้กุ้งสุกทุกด้าน ก็พร้อมเสิร์ฟคู่น้ำจิ้มซีฟู้ด

4. กุ้งคั่วพริกเกลือ 

เมนูกุ้งคั่วพริกเกลือเป็นเมนูที่ให้รสชาติจัดจ้าน เค็ม เผ็ด และหอมกลิ่นกระเทียมเจียวคั่วกับพริกสด ได้รสชาติที่ลงตัว ทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือเป็นกับแกล้มก็อร่อยถูกใจ เมนูนี้ทำง่าย รวดเร็ว และเป็นที่ชื่นชอบของคนชอบรสจัดจ้าน

ส่วนผสม

  • กุ้งก้ามกราม
  • พริก (ทุบหยาบ)
  • กระเทียม (ทุบหยาบ)
  • ต้นหอมซอย
  • น้ำมัน
  • เกลือ
  • น้ำตาล
  • พริกไทยป่น

วิธีทำ

  • ทำความสะอาดกุ้งก้ามกราม ตัดขา หนวด ผ่าเส้นดำกลางหลัง พักไว้
  • ทุบพริกกระเทียมหยาบ ซอยต้นหอม
  • ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอไฟร้อนจัดใส่กุ้งลงทอดให้สุกปานกลาง ตักขึ้นพักไว้
  • เทน้ำมันออก แล้วใส่พริกกระเทียมที่เตรียมลงไป ตามด้วยกุ้ง
  • ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล พริกไทยป่นตามชอบ
  • โรยต้นหอมซอย คลุกเคล้าอีกนิดหน่อยก็ตักขึ้นจานได้ทันที

5. กุ้งอบวุ้นเส้น 

เมนูกุ้งอบวุ้นเส้นผสานความอร่อยของกุ้งสดเข้ากับวุ้นเส้นเหนียวนุ่มที่ดูดซับซอสปรุงรสเข้มข้นหอมกลิ่นเครื่องเทศ ไม่ว่าจะเป็นรากผักชี ขิง และพริกไทยดำ เพิ่มความหอมมันด้วยหมูสามชั้นอบ เมนูนี้จึงเป็นอีกหนึ่งจานโปรดที่ทำง่ายและอร่อยครบเครื่อง

ส่วนผสม

  • น้ำปลา
  • ซอสหอยนางรม
  • ซีอิ๊วขาว
  • ซีอิ๊วดำหวาน
  • น้ำตาลทราย
  • น้ำมันงา
  • กุ้ง (ล้างสะอาด)
  • หมูสามชั้น
  • กระเทียม (บุบ)
  • รากผักชี (บุบ)
  • ขิงแก่ (บุบ)
  • เม็ดพริกไทยดำ
  • วุ้นเส้น
  • พริกไทยป่น (สำหรับโรยหน้า)
  • ผักชี (สำหรับโรยหน้า)

วิธีทำ

  • ทำซอสสำหรับอบวุ้นเส้น โดยผสมน้ำปลา ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำหวาน น้ำตาลทราย และน้ำมันงา คนให้เข้ากัน
  • นำกุ้งที่ล้างสะอาดแล้วแช่ในซอสที่เตรียมไว้
  • นำกระทะตั้งไฟกลาง วางหมูสามชั้นคั่วเพื่อรีดน้ำมันออก
  • ตามด้วยกระเทียม รากผักชี และขิงแก่ ผัดจนหอม
  • ใส่เม็ดพริกไทยดำ
  • จากนั้นใส่ซอสที่ผสมลงกระทะ ชิมรสชาติตามชอบ
  • ตามด้วยกุ้ง พอกุ้งเปลี่ยนสีใส่วุ้นเส้น
  • คลุกจนเข้ากัน โรยพริกไทยป่น
  • รอให้เส้นดูดน้ำซอสจนสีสันสวยงาม โรยหน้าด้วยผักชีก็ทานได้เลย

6. ข้าวผัดกุ้ง 

ข้าวผัดกุ้งเมนูสุดคลาสสิกที่ทำง่ายและอร่อยถูกใจทุกเพศทุกวัย ด้วยข้าวสวยผัดกับกระเทียมหอม ๆ ไข่ไก่ และกุ้งสดเนื้อเด้ง ปรุงรสอย่างลงตัว ทำให้ได้ข้าวผัดที่มีกลิ่นหอม สีสันน่ารับประทาน และรสชาติกลมกล่อม เป็นเมนูหลักที่สามารถทำทานได้ทุกมื้อ

ส่วนผสม

  • กุ้ง
  • น้ำมันเล็กน้อย
  • กระเทียม (ตีหยาบ)
  • ไข่ไก่
  • ข้าวเย็น หรือ ข้าวหุงค้างคืน
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลทราย
  • พริกไทย (สำหรับโรยหน้า)

วิธีทำ

  • ทำความสะอาดกุ้ง ตัดหัว ผ่าเส้นดำกลางหลัง
  • ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย ตามด้วยกระเทียมตีหยาบ ผัดจนหอม
  • ใส่ไข่ไก่คลุกพอสุก ตามด้วยกุ้ง
  • พอกุ้งสีเริ่มสวยใส่ข้าวเย็น หรือ ข้าวหุงค้างคืน
  • ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย
  • ผัดจนสีข้าวเหลืองสวย โรยพริกไทย ก็พร้อมตักขึ้นโต๊ะทานแล้ว

7. ต้มยำกุ้งน้ำข้น 

ต้มยำกุ้งน้ำข้น

ต้มยำกุ้งน้ำข้นเมนูยอดนิยมของไทยที่โดดเด่นด้วยรสชาติจัดจ้าน เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หอมกลิ่นสมุนไพรอย่างตะไคร้ ข่า และใบมะกรูด เพิ่มความเข้มข้นด้วยน้ำพริกเผาและนมสด ทำให้ได้น้ำซุปที่กลมกล่อมและน่ารับประทาน เป็นเมนูที่สร้างความประทับใจให้กับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

ส่วนผสม

  • น้ำสะอาด
  • ตะไคร้ (ทุบ)
  • ใบมะกรูด
  • ข่า (หั่นแว่น)
  • หอมแดง (ทุบ)
  • กระเทียม (ทุบ)
  • น้ำพริกเผา
  • กุ้งก้ามกราม
  • เห็ดฟาง
  • มะเขือเทศ
  • พริกขี้หนูตำ
  • น้ำปลา
  • น้ำมะขามเปียก
  • นมสด
  • มะนาว (สำหรับบีบ)
  • ผักชีฝรั่ง (สำหรับโรยหน้า)
  • ผักชีไทย (สำหรับโรยหน้า)
  • ต้นหอม (สำหรับโรยหน้า)

วิธีทำ

  • ตั้งน้ำให้เดือด ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด ข่า หอมแดง กระเทียมทุบ ลงไปต้มพอเดือด
  • เติมน้ำพริกเผาคนให้ละลาย
  • ใส่กุ้งก้ามกราม เห็ดฟาง มะเขือเทศ
  • ดูสีกุ้งให้สุก ฉีกใบมะกรูด
  • ตามด้วยเติมพริกขี้หนูตำ ปรุงรสน้ำปลา น้ำมะขามเปียก
  • เดือดแล้วใส่นมสด ทุกอย่างสุกได้ที่ปิดไฟ
  • บีบมะนาว โรยผักชีฝรั่ง ผักชีไทย ต้นหอม ตามชอบได้เลย

8. ยำกุ้งสดเพิ่มปลาร้านัว 

ยำกุ้งสดเพิ่มปลาร้านัวเป็นเมนูยำรสแซ่บที่ถูกใจคนรักปลาร้า ด้วยความนัวของน้ำปลาร้าที่เข้ากันดีกับความสดหวานของกุ้ง ผสมผสานกับรสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ด และหอมกลิ่นผักสดนานาชนิด ทำให้ได้ยำกุ้งที่อร่อยครบรส และชวนน้ำลายสอ

ส่วนผสม

  • กุ้ง
  • พริกแดงจินดา (ตำหยาบ)
  • พริกขี้หนูสวน (ตำหยาบ)
  • มะม่วงเปรี้ยว (ขูดเส้น)
  • แครอท (ขูดเส้น)
  • หอมแดงซอย
  • ใบผักชีฝรั่งซอย
  • ขึ้นฉ่ายซอย
  • น้ำตาลเคี่ยว หรือ น้ำเชื่อม
  • น้ำปลาร้าต้มสุก
  • น้ำปลาเล็กน้อย
  • มะนาว

วิธีทำ

  • ล้างกุ้งให้สะอาด แกะหัว เปลือก ผ่าหลัง ใส่น้ำแช่ไว้
  • ตำพริกแดงจินดา พริกขี้หนูสวนพอหยาบ
  • ขูดมะม่วงเปรี้ยว แครอทเป็นเส้น ซอยหอมแดง ใบผักชีฝรั่ง ขึ้นฉ่าย
  • นำทุกอย่างผสมลงชาม ใส่กุ้งสดลงไป
  • เติมน้ำตาลเคี่ยว หรือ น้ำเชื่อม น้ำปลาร้าต้มสุก น้ำปลาเล็กน้อย มะนาว
  • คลุกเคล้าให้เข้ากัน พร้อมทาน

9. ทอดมันกุ้ง 

ทอดมันกุ้งเป็นเมนูกุ้งของโปรดสำหรับหลายคน ด้วยเนื้อสัมผัสที่นุ่มเด้ง กรอบนอกนุ่มใน และรสชาติกลมกล่อมจากเนื้อกุ้งผสมกับหมูเด้ง ปรุงรสอย่างลงตัว ทอดมันกุ้งทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วยยิ่งเพิ่มความอร่อยลงตัว เป็นของว่างหรือกับแกล้มที่ทำง่ายและเป็นที่นิยม

ส่วนผสม

  • กุ้ง (สับกึ่งหยาบกึ่งละเอียด)
  • หมูเด้ง
  • ไข่แดง
  • น้ำปลา
  • ซีอิ๊วขาว
  • น้ำตาลทรายเล็กน้อย
  • แป้งมัน
  • เกล็ดขนมปัง
  • น้ำมัน (สำหรับทอด)
  • น้ำจิ้มบ๊วย (สำหรับทานคู่)

วิธีทำ

  • สับกุ้งให้กึ่งหยาบกึ่งละเอียด ผสมกับหมูเด้ง และไข่แดง
  • ปรุงด้วยน้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทรายเล็กน้อย
  • ผสมแป้งมัน นวดจนเนื้อเนียนสวย แนะนำให้ฟาดไปมาเพื่อความนุ่มเด้ง
  • เสร็จแล้วแช่ตู้เย็นไว้ 20 นาที
  • ตั้งกระทะน้ำมันไฟปานกลาง
  • ปั้นเป็นก้อนชุบเกล็ดขนมปัง กดหลุมตรงกลางแล้วหย่อนใส่กระทะ
  • สุกตักขึ้นทานพร้อมน้ำจิ้มบ๊วยได้เลย

10. กุ้งทอดกระเทียม 

กุ้งทอดกระเทียมเมนูกุ้งง่าย ๆ ที่ให้ความอร่อยเกินคาด! เนื้อกุ้งสดเด้ง ทอดจนสุกกำลังดี เคลือบด้วยกระเทียมเจียวหอมกรอบที่ปรุงรสอย่างกลมกล่อม ทำให้ได้รสชาติเค็ม ๆ มัน ๆ หอมกลิ่นกระเทียม เป็นเมนูที่ทำง่ายและเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนในครอบครัว

ส่วนผสม

  • กระเทียม (โขลก)
  • พริกไทย
  • น้ำตาลทราย
  • แป้งทอดกรอบเล็กน้อย
  • กุ้ง (ทำความสะอาดเอาหัวไว้)
  • ซีอิ๊วขาว
  • น้ำมัน (สำหรับทอด)

วิธีทำ

  • โขลกกระเทียมในครก เติมพริกไทย น้ำตาลทราย และแป้งทอดกรอบเล็กน้อย
  • ส่วนกุ้งทำความสะอาดเอาหัวไว้ ใส่ซีอิ๊วขาว พริกไทย น้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้ทั่ว
  • นำกุ้งไปชุบแป้งทอดกรอบแค่ผิว
  • ระหว่างนั้นตั้งกระทะน้ำมันเดือด ทอดกระเทียมให้กรอบตักพักไว้
  • ทอดกุ้งต่อด้วยไฟแรงให้สุกได้ที่ รอสะเด็ดน้ำมัน
  • โรยกระเทียม ก็เรียบร้อย

11. ผัดหมี่กระเฉดกุ้งสด 

ผัดหมี่กระเฉดกุ้งสดเป็นเมนูเส้นที่ครบเครื่องด้วยรสชาติจัดจ้าน เส้นหมี่เหนียวนุ่มผัดคลุกเคล้ากับซอสปรุงรสเข้มข้น พร้อมด้วยกุ้งสดเนื้อหวาน และผักกระเฉดกรอบ ๆ ที่ช่วยเพิ่มรสสัมผัสและความหอม เป็นเมนูที่ทำง่ายและอร่อยลงตัว

ส่วนผสม

  • กุ้ง (ปอกเปลือก ผ่าหลัง)
  • พริก (โขลกหยาบ)
  • กระเทียม (โขลกหยาบ)
  • น้ำปลา
  • ซอสหอยนางรม
  • ซีอิ๊วดำ
  • น้ำตาลทราย
  • พริกไทยป่น
  • น้ำมันเล็กน้อย
  • ผักกระเฉด
  • เส้นหมี่
  • น้ำสะอาด (ถ้าจำเป็น)

วิธีทำ

  • ทำความสะอาดกุ้ง ปอกเปลือก ผ่าหลัง
  • โขลกพริกกระเทียมพอหยาบ ผสมกับน้ำปลา ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วดำ น้ำตาลทราย พริกไทยป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  • ตั้งกระทะไฟแรงใส่น้ำมันเล็กน้อย รอน้ำมันร้อนจัด
  • ใส่กุ้งผัดให้พอสุก 50% ตามด้วยผักกระเฉด
  • เติมซอสปรุงรสเล็กน้อย ปิดฝาไว้ 1-2 นาที
  • ใส่เส้นหมี่ ซอสปรุงรสที่เหลือ ผัดจนทุกอย่างได้ที่
  • ถ้าแห้งเติมน้ำได้นิดหน่อย จากนั้นตักใส่จานได้ทันที

12. แกงส้มชะอมกุ้ง 

แกงส้มชะอมกุ้งเป็นเมนูแกงไทยที่หลายคนโปรดปราน ด้วยรสชาติแกงส้มที่เข้มข้น เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ผสมผสานกับความหอมของไข่ชะอมทอด และความหวานของเนื้อกุ้ง ทำให้เป็นเมนูที่อร่อยกลมกล่อม ซดน้ำคล่องคอ และทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ยิ่งอร่อย

ส่วนผสม

  • ไข่ชะอม
  • น้ำมัน (สำหรับทอดไข่ชะอม)
  • น้ำสะอาด (สำหรับต้มปลา)
  • ปลานิล
  • พริกแกงส้ม
  • น้ำปลา
  • น้ำมะขามเปียก
  • เกลือเล็กน้อย
  • กุ้ง
  • ข้าวสวยร้อน ๆ (สำหรับทานคู่)

วิธีทำ

  • ทอดไข่ชะอม หั่นเป็นสี่เหลี่ยมพักไว้
  • จากนั้นต้มน้ำในหม้อให้เดือด ใส่ปลานิลลงต้มจนสุก
  • ตักขึ้นเลาะเฉพาะเนื้อ ตำกับพริกแกงส้มให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  • นำน้ำที่ต้มปลาใส่น้ำเพิ่มแล้วต้มให้เดือดอีกครั้ง
  • ใส่พริกแกงส้ม รอพริกแกงละลาย
  • เติมน้ำปลา น้ำมะขามเปียก เกลือเล็กน้อย ชิมรสชาติตามชอบ
  • แล้วใส่กุ้งลงไปรอสุก
  • นำไข่ชะอมใส่ถ้วยแล้วตักน้ำแกงส้มราดลง ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลย

13. ข้าวไข่ข้นกุ้ง 

ข้าวไข่ข้นกุ้งเป็นเมนูง่าย ๆ ที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะเด็ก ๆ ด้วยไข่ที่ปรุงรสอย่างกลมกล่อม ตีให้ข้นนุ่ม ราดบนข้าวสวยร้อน ๆ และโรยหน้าด้วยกุ้งลวกสุก ทำให้ได้เมนูที่อร่อย ทานง่าย และมีประโยชน์ครบถ้วน

ส่วนผสม

  • ไข่ไก่
  • นมข้นจืดเล็กน้อย
  • ซอสปรุงรส
  • น้ำมันหอย
  • พริกไทย
  • น้ำมันเล็กน้อย
  • กุ้งลวกสุก
  • ข้าวสวย (สำหรับราด)

วิธีทำ

  • ตอกไข่ใส่ถ้วย เติมนมข้นจืดเล็กน้อย ตีให้เข้ากัน
  • ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำมันหอย พริกไทย
  • ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย เกลี่ยให้ทั่ว เปิดไฟอ่อนแล้วเทไข่ลงไป
  • ตะล่อมไข่ให้เป็นแผ่น แล้วนำกุ้งลวกสุกใส่ตรงกลาง
  • ขยี้ไข่อีกเล็กน้อยให้ได้ความสุกตามชอบ
  • ตักราดข้าวรอเสิร์ฟ

14. กุ้งหวาน 

เมนูกุ้งหวานเป็นเมนูที่เน้นความหวานจากธรรมชาติของกุ้ง ผสมผสานกับความหวานเค็มจากน้ำตาลและเกลือที่เคี่ยวจนซึมเข้าเนื้อ ทำให้ได้กุ้งที่เนื้อนุ่ม รสกลมกล่อม และมีสีสันสวยงาม เหมาะสำหรับทานเล่น หรือเป็นกับข้าวที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหารจานหลัก

ส่วนผสม

  • กุ้งขาวตัวเล็ก
  • น้ำมัน
  • น้ำตาลมะพร้าว
  • น้ำตาลทราย
  • เกลือ

วิธีทำ

  • ใช้กุ้งขาวตัวเล็ก ตัดหัว ตา และหางกุ้ง ล้างจนสะอาด พักไว้
  • ตั้งกระทะไฟอ่อน ใส่น้ำมัน
  • ทอดกุ้งตามด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทราย และเกลือ
  • ทอดไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลาย
  • จากนั้นใช้ไฟแรงเพื่อให้น้ำตาลแห้งเคลือบตัวกุ้ง
  • สังเกตเนื้อกุ้งจะร่อนออกจากเปลือกก็ปิดไฟตักใส่จานได้เลย

15. กุ้งเทมปุระ 

กุ้งเทมปุระเมนูกุ้งทอดสไตล์ญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยม ด้วยความกรอบเบาของแป้งที่เคลือบกุ้งสดเนื้อหวานฉ่ำ ทำให้ได้รสสัมผัสที่แตกต่างและอร่อยลงตัว ทานคู่กับน้ำจิ้มเทมปุระยิ่งเพิ่มความอร่อย เหมาะสำหรับทานเล่น หรือเป็นกับข้าวก็ได้

ส่วนผสม

  • กุ้งแชบ๊วย
  • ไม้แหลม
  • แป้งทอดกรอบ
  • ไข่แดง
  • เกลือเล็กน้อย
  • น้ำปูนใส
  • น้ำแข็ง
  • น้ำมัน (สำหรับทอด)
  • น้ำจิ้มเทมปุระ (สำหรับทานคู่)

วิธีทำ

  • แกะเปลือกกุ้งแชบ๊วย ล้างให้สะอาด ถอดหางแหลมและขูดปลายสีดำ
  • ใช้ไม้แหลมแทงตรงหางกุ้ง ดึงเส้นดำออก ยืดกุ้งให้เป็นเส้นตรงจัดเรียงพักไว้
  • นำแป้งทอดกรอบผสมไข่แดง เกลือนิดหน่อย
  • เติมน้ำปูนใสผสมน้ำแข็งเพิ่มเข้าไป ตีแป้งจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แต่ไม่ต้องข้นมาก
  • นำกุ้งคลุกแป้งแห้งบาง ๆ แล้วชุบกับแป้งที่เตรียมไว้ ลงทอดน้ำมันไฟกลาง
  • รอสุกทานคู่กับน้ำจิ้มเทมปุระได้เลย
15 สูตรทำตามได้ง่าย ๆ

เมนูกุ้งเมนูจากกุ้งทั้ง 15 สูตรนี้ถือเป็นทีเด็ดที่ใครก็นำเอาไปทำตามได้ โดยเฉพาะถ้าเป็นคนรักการทานกุ้งด้วยแล้วนี่คือเมนูเกี่ยวกับกุ้งห้ามพลาดเลยทีเดียว อุปกรณ์ไม่ต้องเยอะ แค่มีกระทะใบเดียวก็เอาอยู่ เมนูกุ้งง่าย ๆ จะทานเองหรือเสิร์ฟแขกมาเยี่ยมเยียนบ้านก็ดีงาม

เลือกความสูงเคาน์เตอร์ครัวอย่างไรดี

ความสูงเคาน์เตอร์ครัวเท่าไหร่ดี
ห้องครัวถือเป็นอีกส่วนสำคัญภายในบ้านที่ต้องใส่ใจรายละเอียดไม่ต่างจากห้องอื่น ยิ่งใครเป็นสายชอบทำอาหาร ทำกับข้าวด้วยแล้ว การรู้ความสูงเคาน์เตอร์ครัวที่เหมาะสมกับตนเองและคนในบ้านย่อมช่วยให้เกิดความสะดวกมากขึ้น สนุกกับการรังสรรค์เมนูแสนอร่อยได้ทุกวัน คำถามคือ ขนาดเคาน์เตอร์ครัวที่ตอบโจทย์ควรเป็นเท่าใด ติดตั้งตามขนาดเคาน์เตอร์ครัวมาตรฐานเลยดีหรือไม่ มาหาคำตอบได้เลย

หลักการเลือกขนาดเคาน์เตอร์ครัวให้เหมาะสม

การศึกษาแนวทางสำหรับเลือกขนาดของเคาน์เตอร์ครัวให้เกิดความเหมาะสมต่อการใช้งาน จะช่วยสร้างผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจ ได้ครัวตามที่คาดหวังไว้ ทำเมนูแสนอร่อยดังใจปรารถนา ซึ่งหลักการที่อยากบอกต่อ มีดังนี้เลย

1. คำนึงถึงรูปแบบของห้องครัวก่อน

รูปแบบห้องครัว ปกติในการใช้เคาน์เตอร์ครัวจะแยกออกเป็น 3 ส่วน ประกอบไปด้วย ส่วนเก็บ (ตู้เย็น, ตู้กับข้าว), ส่วนปรุง (เตาแก๊ส, อุปกรณ์หุงต้ม) และส่วนล้าง (ซิ้งค์ล้างจาน) ดังนั้นการมีรูปแบบของห้องครัวที่ชัดเจนจะช่วยกำหนดความสูงและการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • รูปตัว U สำหรับพื้นที่ครัวขนาดใหญ่ ใช้ทำครัวได้หลายประเภท
  • รูปตัว L เคาน์เตอร์ครัวจะติดผนังชนกับมุมจนเกิดรูปตัว L ได้รับความนิยมสูง เหมาะกับบ้านทุกแบบ
  • ครัว Island มีเคาน์เตอร์เป็นเกาะกลาง ส่วนใหญ่ไว้เตรียมอาหารหรือใช้ทานอาหาร พื้นที่โดยรอบไว้ปรุง ล้าง เก็บ
  • One Wall Kitchen เป็นแบบครัวติดผนังด้านเดียว เหมาะกับบ้านหรือคอนโดพื้นที่แคบ เป็นแนวยาว
  • Galley Kitchen ออกแบบเป็นเส้นตรง 2 แถว พื้นที่ตรงกลางโล่งสำหรับเดินและยืนทำอาหาร ช่วยเพิ่มพื้นที่การใช้งาน

2. ความสูงเคาน์เตอร์ครัวด้านบนและด้านล่าง

ความสูงเคาน์เตอร์ครัว หลังจากกำหนดรูปแบบครัวได้แล้ว คราวนี้ก็เข้าสู่ขั้นตอนของการพิจารณาความสูงเคาน์เตอร์ครัวทั้งส่วนด้านบนและด้านล่าง ดังนี้

2.1 ความสูงด้านล่าง

ปกติแล้วขนาดเคาน์เตอร์ครัวมาตรฐานควรอยู่ราว 85-110 เซนติเมตร ความลึกชนกำแพงอีกด้าน 60 เซนติเมตร แบบนี้ทุกคนจะใช้งานได้รวมถึงเด็ก อย่างไรก็ตามกรณีคนในบ้านที่ทำครัวประจำตัวสูง 175-180 เซนติเมตร เคาน์เตอร์ควรปรับให้สูงราว 155 เซนติเมตร และถ้าคนสูงเกิน 185 เซนติเมตร แนะนำให้ปรับขนาดของเคาน์เตอร์เป็น 160 เซนติเมตร จะช่วยให้หยิบจับอุปกรณ์สะดวกกว่า ไม่ต้องก้ม ๆ เงย ๆ ให้ปวดหลัง ปล. การเทียบความสูงของตัวเคาน์เตอร์กับคนทำครัวอีกวิธีง่าย ๆ ให้ลองยืนแล้วก้มลงในระยะที่กำหนดว่าพอดีมากน้อยแค่ไหน จะช่วยปรับสัดส่วนได้แม่นยำมากขึ้นกว่าเดิม

2.2 ความสูงด้านบน

การติดตั้งตู้ชั้นลอยเก็บของควรมีระยะสูงจากท็อปเคาน์เตอร์ครัวอย่างน้อย 40-70 เซนติเมตร ระยะความลึกราว 20 เซนติเมตร จะช่วยให้ยื่นมือหยิบ-เก็บของต่าง ๆ ได้สะดวก รวมถึงไม่ต้องกังวลเรื่องศีรษะกระแทกด้วย อย่างไรก็ตามหากรู้สึกว่านี่ยังไม่ใช่ระยะที่ตอบโจทย์ก็ทดลองเอื้อมหยิบจับตามระยะมือจริงได้เลย

3. ระยะด้านหน้าและด้านข้างของเคาน์เตอร์ที่เหมาะสม

เคาน์เตอร์ครัวที่เหมาะสม นอกจากความสูงเคาน์เตอร์ครัวแล้ว การกำหนดขนาดเคาน์เตอร์ทั้งด้านหน้าและด้านข้างก็ต้องเหมาะกับพื้นที่และสัมพันธ์ต่อกันด้วย คำแนะนำคือบริเวณประกอบอาหารควรเว้นระยะ 2 ด้านของเตาแก๊สอย่างน้อย 45 เซนติเมตร เพื่อการวางกระทะ หม้อ หรืออาหารที่พึ่งปรุงเสร็จได้ง่าย อีกปัจจัยสำคัญอย่าลืมเว้นระยะของตัวอ่างล้างจานด้านหนึ่งไว้ด้วยประมาณ 75 เซนติเมตร สำหรับใช้วางเครื่องครัวที่ล้างทำความสะอาดเรียบร้อย

ข้อควรระวังเกี่ยวกับเคาน์เตอร์ครัว

ข้อควรระวังเกี่ยวกับเคาน์เตอร์ครัว ไม่ใช่แค่การติดตั้งขนาดเคาน์เตอร์ครัวมาตรฐาน หรือการทำระดับความสูงให้เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังมีบางเรื่องที่ควรคำนึงถึงเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน นั่นคือ ตู้เย็น ตู้กับข้าว หรือตู้เก็บของแนะนำให้อยู่ใกล้กับประตูทางเข้าครัวมากที่สุด เว้นระยะด้านขวาของเคาน์เตอร์ไว้ 40-60 เซนติเมตร เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับวางสิ่งของที่หยิบออกมาจากตู้เหล่านั้น เครื่องดูดควันติดตั้งให้ห่างจากเตาไฟ 50-70 เซนติเมตร อีกสิ่งที่อยากให้ระวังเกี่ยวกับเคาน์เตอร์ครัวนั่นคือเหล่าบรรดาอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหลาย เช่น เตาอบ, เตาไมโครเวฟ, หม้อหุงข้าว ฯลฯ ควรจัดวางให้ความสูงอยู่ในระดับเดียวกับเคาน์เตอร์ หรือบางชิ้นจะวางไว้บนท็อปเคาน์เตอร์เลยก็ได้ เพื่อให้เกิดความสะดวกต่อการใช้งาน ไม่ต้องก้มหรือเอื้อมมือจนเกิดความยุ่งยาก ส่วนอุปกรณ์อื่นที่เก็บเข้าตู้ เข้ากล่องได้ หากไม่ได้ใช้งานแล้วอย่าลืมเก็บอย่างมีระเบียบเรียบร้อย ทั้งหมดนี้คือข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับการประเมินความสูงเคาน์เตอร์ครัวและการวางแผนติดตั้งขนาดเคาน์เตอร์ครัวที่เหมาะสม ไม่ว่าบ้านขนาดใดก็สามารถมีห้องครัวตามสไตล์ที่ตนเองต้องการได้ ยิ่งคนชอบทำอาหารด้วยแล้วนี่เสมือนเป็นสวรรค์ที่ต้องออกแบบให้ตอบโจทย์กับตนเองมากที่สุด  

Follow Us

TEL. 02-274-3434
EMAIL : webmaster@sbo-brand.com

The Signature Brand Co., Ltd. 
771 Pracha Uthit Road, Samsen Nok,Huai Khwang District, Bangkok 10310