5 เคล็ดลับ ฮวงจุ้ยห้องครัว
รวมวิธีจัดฮวงจุ้ยห้องครัวที่ไม่ควรพลาด
1. ห้องครัวที่ดีต้องไม่ติดห้องน้ำ
2. ตำแหน่งการวางเตาที่เหมาะสมที่สุด
3. ห้องครัวควรอยู่ทิศไหนของบ้าน
- ทิศเหนือ เป็นทิศที่ได้รับแสงแดดอ่อน ๆ ตลอดทั้งวัน แต่ไม่สะสมความร้อนที่ทำให้ร้อนอบอ้าว เพราะไม่ใช่ทิศทางโคจรของดวงอาทิตย์
- ทิศใต้ เป็นทิศที่ได้รับแดดมากที่สุด และได้รับแดดยาวนานตลอดทั้งวัน
- ทิศตะวันออก เป็นทิศที่ได้รับแสงแดดมากในช่วงเช้า เพราะเป็นทิศที่ดวงอาทิตย์ขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ประกอบอาหาร อาจจะไม่เหมาะกับการตั้งห้องครัวในทิศนี้
- ทิศตะวันตก เป็นทิศที่ห้องครัวได้รับแสงแดดตลอดทั้งบ่าย
4. ลักษณะของห้องครัวที่ถูกฮวงจุ้ย
5. อย่าตั้งห้องครัวตรงข้ามประตูใหญ่
5 ไอเดียผนังครัวมีสไตล์ ทำความสะอาดง่ายไม่ทิ้งคราบ
รวมประเภทผนังครัวที่นิยมใช้ในปัจจุบัน
1. เลือกใช้กระเบื้องเซรามิก
การทำความสะอาดผนังกระเบื้องเซรามิก
อย่างที่บอกไปว่ากระเบื้องเซรามิกทำความสะอาดได้ง่าย เพียงแค่ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดเบา ๆ ที่ตัวกระเบื้องเป็นวงกว้าง หรือในกรณีที่กระเบื้องคราบฝั่งลึก เช่น คราบน้ำมันจากการทำอาหาร คราบฟองสบู่ ให้ใช้ผ้าชุบกับน้ำยาเช็ดทำความสะอาดเช็ดได้เลย ซึ่งพอเป็นกระเบื้องที่ทำความสะอาดง่าย ก็จะทำให้ผนังครัวดูใหม่อยู่เสมอ แม้จะผ่านไปหลายปี2. ใช้ผนังทาสีที่ป้องกันคราบได้
การทำความสะอาดผนังทาสี
การทำความสะอาดผนังทาสี ให้ใช้ผ้าชุบน้ำสบู่อ่อน ๆ เช็ดบริเวณผนัง แล้วนำผ้าชุบน้ำสะอาดไปเช็ดน้ำยาออก โดยต้องมีความระมัดระวังในการเช็ด เพื่อป้องกันสีหลุดลอก3. ทำผนังขัดมันสไตล์ Loft
การทำความสะอาดผนังขัดมัน
ขั้นตอนแรกของการทำความสะอาด คือ นำแปรงหรือผ้าแห้งไปปัดเช็ดฝุ่นหรือสิ่งสกปรกออกจากผนังก่อน จากนั้นให้นำผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ ไปเช็ดบนผนังให้ทั่ว บริเวณที่เป็นคราบหนักให้ใช้แปรงขนอ่อนจุ่มในน้ำอุ่นที่ผสมกับสบู่เหลว เพื่อนำไปขัดบริเวณที่มีคราบ ก่อนจะใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง แล้วจึงใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้งอีกรอบ อย่างไรก็ตามแนะนำให้เคลือบผนังด้วยน้ำยาเคลือบผิวผนัง เพื่อป้องกันเชื้อรา คราบสกปรก ช่วยให้ง่ายต่อการทำความสะอาดมากขึ้น4. แต่งแบบมีสไตล์ด้วยกระเบื้องโมเสค
การทำความสะอาดผนังกระเบื้องโมเสค
สำหรับการทำความสะอาดผนังครัวแบบกระเบื้องโมเสค สามารถใช้ฟองน้ำชุบน้ำสะอาด หรือใช้น้ำยาเช็ดกระจกเช็ดทำความสะอาดได้เลย แต่ควรหลีกเลี่ยงวัสดุที่มีขนแข็ง เพราะจะทำให้พื้นผิวกระเบื้องเกิดรอยขีดข่วนได้5. วัสดุอะลูมิเนียมคอมโพสิท
การทำความสะอาดอะลูมิเนียมคอมโพสิท
อลูมิเนียมคอมโพสิท สามารถทำความสะอาดได้ง่าย โดยใช้ผ้าชุบน้ำสะอาด หรือน้ำผสมน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์เช็ดทำความสะอาดให้ทั่วผนัง แต่ไม่ควรเลือกใช้ฝอยขัดหม้อ หรือแปรงที่มีแขนแข็ง เพราะจะทำให้ผิวของแผ่นอะลูมิเนียมคอมโพสิทเป็นรอยได้ และนี่คือ 5 ผนังครัวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าแต่ละประเภทก็ให้ความสวยงามที่แตกต่างกัน แต่ทุกประเภทสามารถทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะสำหรับห้องครัวที่มักเกิดคราบต่าง ๆ อยู่เสมอ อย่างไรก็ตามจะดีกว่าไหมหากเรามีไอเท็มที่ช่วยลดความถี่ในการทำความสะอาดผนัง เราขอแนะนำ เครื่องดูดควัน เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยกำจัดควันและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในห้องครัว ลดการเกิดคราบเขม่า คราบดำ หรือไอน้ำมัน บนอุปกรณ์ครัวต่าง ๆ และผนังครัว ทำให้ไม่ต้องทำความสะอาดผนังบ่อน ๆ มีติดบ้านสักเครื่อง ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ!5 เทคนิคกินผักและผลไม้ให้ถูกวิธี
คนยุคใหม่เริ่มหันมาใส่ใจอาหารการกินมากขึ้น โดยเฉพาะการกินผักและผลไม้ ซึ่งอุดมไปด้วยสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ถ้าหากต้องการให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากผักและผลไม้มากที่สุด จะต้องกินอย่างถูกวิธี วันนี้ Tecnogas มีเทคนิคการกินผักและผลไม้ให้มาฝาก ให้คุณกินได้อย่างถูกต้อง ได้ประโยชน์แบบจัดเต็ม
เทคนิคกินผักและผลไม้ให้ประโยชน์แบบจัดเต็ม
1. กินผักให้ได้ 400 กรัม/วัน
ควรกินผักผลไม้ให้ถึง 400 กรัมต่อวัน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องยาก แต่สามารถเฉลี่ย 400 กรัมไปตามมื้อต่าง ๆ ได้ หากไม่มีตาชั่ง สามารถกะปริมาณด้วยฝ่ามือได้ เพราะสองฝ่ามือของผู้ใหญ่ประกอบการจะเทียบเท่าผักปริมาณ 100 กรัม
2. กินผัก 3 ส่วน ผลไม้ 2 ส่วน
เราควรแบ่งสัดส่วนการกินผักและผลไม้ต่อวันเพื่อให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ อย่างที่บอกไปในข้อแรกว่าใน 1 วัน ควรกินผักผลไม้ให้ได้ 400 กรัมต่อวัน ซึ่งใน 400 กรัม ควรกินผักให้ได้ 3 ส่วน และผลไม้ 2 ส่วน โดยเป็นผักปรุงสุก 4-6 ทัพพี และผลไม้อีก 1-2 ผล
3. กินผักผลไม้ให้ถูกช่วงเวลา
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการกินผักและผลไม้ก็ต้องเลือกกินให้ถูกช่วงเวลา โดยแต่ละช่วงเวลาจะมีวิธีการกินที่แตกต่างกัน ดังนี้
- ตอนเช้า เป็นช่วงที่ร่างกายต้องการอาหารไปบำรุงสมอง แนะนำให้กินผลไม้ 2 ชั่วโมงหลังอาหาร เพื่อให้อาหารย่อยให้หมดก่อน หากกินหลังอาหารทันทีจะทำให้ย่อยไปสู่ลำไส้ได้ช้า เป็นที่มาของการเกิดอาการจุด เสียด แน่นท้อง หรืออาการท้องอืดท้องเฟ้อนั่นเอง
- ตอนกลางวัน เป็นช่วงที่เราสามารถกินผลไม้หวาน ๆ ได้ เช่น กล้วย มะม่วง เป็นการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อช่วยย่อยอาหาร และเติมความสดชื่นให้ร่างกายตื่นจากความเหนื่อยล้าระหว่างวัน
- ตอนเย็น เป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูร่างกายจากความอ่อนล้าตลอดทั้งวัน แนะนำให้กินผักและผลไม้ เช่น บรอกโคลี แก้วมังกร แต่ควรหลีกเลี่ยงการกินผักและผลไม้ใกล้กับช่วงเวลาเข้านอน เพราะจะตกค้างอยู่ในลำไส้ ทำให้ลุกขับถ่ายกลางดึก ดังนั้นควรรอให้ย่อยก่อนประมาณ 1-2 ชั่วโมง แล้วจึงเข้านอน
4. เลี่ยงผักผลไม้น้ำตาลสูง
แม้ว่าผักและผลไม้จะอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ แต่ผักและผลไม้บางชนิดกลับมีน้ำตาลสูง เมื่อกินเข้าไปแล้วก็อาจจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ ผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ที่กำลังลดน้ำหนักต้องระวังผักผลไม้เหล่านี้ เช่น ข้าวโพด มะม่วง ละมุด ทุเรียน และหันมากินผักผลไม้ที่น้ำตลาดที่ไม่สูงมาก เช่น ฝรั่ง แอปเปิลเขียว คะน้า หรือบรอกโคลี
5. กินผักและผลไม้ให้ครบ 5 สี
ผักและผลไม้ต่างสีก็ให้สารอาหารที่ต่างกัน เราจึงควรกินผักผลไม้ให้ครบ 5 สี เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลาย ป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เป็นต้น
- สีเขียว เช่น คะน้า ผักบุ้ง ผักกาดขาว ฝรั่ง แอปเปิลเขียว กลุ่มนี้จะมีสารคลอโรฟิลล์ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ มีใยอาหารสูงช่วยเรื่องระบบขับถ่ายและบำรุงผิวพรรณ รวมทั้งป้องกันการเกิดมะเร็ง
- สีแดง เช่น มะเขือเทศ แตงโม สตรอเบอร์รี่ กลุ่มนี้จะมีสารไลโคปีน ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
- สีส้ม-เหลือง เช่น ฟักทอง แครอท ส้ม สัปปะรอด กลุ่มนี้มีสารเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตาและการมองเห็น รักษาหัวใจและหลอดเลือด
- สีม่วง-น้ำเงิน เช่น มันม่วง เผือก องุ่น กะหล่ำปลีม่วง กลุ่มนี้จะมีสารแอนโทไซยานิน ช่วยยับยั้งและต้านการอักเสบในร่างกาย ป้องกันการเกิดมะเร็ง
- สีขาว-น้ำตาล เช่น หัวไชเท้า กระเทียม พุทรา ขิง กลุ่มนี้จะมีสารอัลลิซินและแซนโทน ช่วยลดการเกิดเนื้องอก ลดระดับน้ำตาลและไขมันในเส้นเลือด
การกินผักและผลไม้เป็นเรื่องที่ดี แต่หากกินอย่างถูกวิธีตามเทคนิคข้างต้น จะทำให้คุณได้รับประโยชน์มากที่สุด เพราะผักผลไม้แต่ละชนิดก็ให้ประโยชน์แตกต่างกัน มีทั้งผักที่ควรกินทุกวัน ในขณะเดียวกันก็มีผักบางชนิดที่ไม่ควรกินบ่อย ๆ เพราะเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ดังนั้นอย่าลืมเอาเทคนิคจากเราไปปรับวิธีการกินของคุณ รับรองว่าจะช่วยให้คุณได้ประโยชน์แบบจัดเต็ม แถมโรคไม่ถามหา!