เชื้อราในห้องครัว กำจัดปัญหานี้อย่างไรดี

การกำจัดเชื้อราในห้องครัว

การกำจัดเชื้อราในห้องครัวเป็นสิ่งสำคัญ เพราะห้องครัวเป็นสถานที่ที่ครอบครัวของเราได้ใช้เวลาร่วมกันในการรับประทานอาหาร และถ้าหากไม่หมั่นทำความสะอาด ปล่อยให้เชื้อราสะสมไปนานๆ ก็จะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ปัญหาเรื่องเชื้อราจะหมดไป เรามีวิธีดีๆ มาแนะนำ เพื่อทำให้ห้องครัวสะอาด ปราศจากเชื้อรามากวนใจ ซึ่งจะมีวิธีการกำจัดแบบไหนบ้างนั้น ต้องมาดูกันเลย

เชื้อราคืออะไร

เชื้อราคืออะไร

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักเชื้อรากันก่อน ตัวเชื้อรา เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในกลุ่มของจุลินทรีย์ที่มีเซลล์เป็นเซลล์เดียว มีลักษณะคล้ายกับจุลินทรีย์แต่มีขนาดที่ใหญ่กว่า สามารถพบได้ทั้งในธรรมชาติ ภายในบ้าน หรือนอกบ้าน แม้กระทั่งในร่างกายของเราก็สามารถพบเจอได้เช่นเดียวกัน หากร่างกายได้รับสารพิษจากตัวเชื้อรานี้เข้าไป ก็จะทำให้เกิดการเจ็บป่วย เป็นโรคหอบหืด หรือเป็นภูมิแพ้ขึ้นได้ ดังนั้นการทำความสะอาดบ้าน หรือกำจัดเชื้อรา เป็นประจำก็จะทำให้สุขภาพร่างกายของสมาชิกในบ้านแข็งแรงมากขึ้น

เชื้อราส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร

เชื้อรา มีสารพิษที่ทำให้ร่างกายเกิดการระคายเคืองในบริเวณหลอดลม เยื่อบุตา หรือในส่วนของระบบทางเดินหายใจ ซึ่งก่อให้เกิดอาการของโรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ หรือการอักเสบของปอดที่มาจากภูมิแพ้ขึ้นได้ จะเห็นได้ว่าแม้ว่าจะเราอยู่ภายในบ้านก็สามารถเกิดการเจ็บป่วยขึ้นได้ ดังนั้นการหมั่นทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ จะช่วยทำให้สุขภาพร่างกายของสมาชิกในบ้านแข็งแรงได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

เชื้อราในห้องครัวเกิดขึ้นได้อย่างไร

เชื้อราในห้องครัว สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความชื้น หรืออาหารที่ตกค้างบนพื้นผิวต่างๆ รวมไปถึงการที่ไม่ค่อยทำความสะอาดเป็นประจำประกอบกับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อรา ก็จะทำให้บ้านของเรานั้นเป็นแหล่งสะสมของตัวเชื้อราเหล่านี้ขึ้นได้

รวมวิธีกำจัดเชื้อราในห้องครัว

วิธีกำจัดเชื้อราในห้องครัว

การกำจัดเชื้อรา ในห้องครัวเป็นเรื่องที่สำคัญต่อสุขภาพร่างกายของสมาชิกในครอบครัวเป็นอย่างมาก และเพื่อรักษาความสะอาด และป้องกันปัญหาสุขภาพที่เกิดจากเชื้อรา เรามีวิธีการกำจัดมาฝากดังนี้

1. ตรวจสอบตู้เย็นสม่ำเสมอ

ตู้เย็นเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ที่เกิดความชื้นและทำให้เกิดการสะสมของเชื้อราได้ง่าย ดังนั้นจึงควรหมั่นทำความสะอาดตู้เย็นเป็นประจำ โดยการที่ไม่นำอาหารมาเก็บไว้ในปริมาณมากๆ เพราะอาจเกิดคราบอาหาร หรือสิ่งสกปรกต่างๆ ซึ่งเป็นบ่อเกิดของการเชื้อราขึ้นได้

2. ล้างถังขยะทุกวัน

เชื้อราสามารถเจริญเติบโตได้ดีในบริเวณที่อับชื้น หรือมีเศษอาหารหมักหมม การกำจัดเชื้อรา ด้วยวิธีล้างถังขยะทุกวัน ก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่สามารถลดการเกิดเชื้อราขึ้นได้

3. ทำความสะอาดตู้เย็น

หมั่นทำความสะอาดคราบสกปรก เศษอาหารที่ติดอยู่ในตู้เย็น และเคลียร์ของต่างๆ เป็นประจำ จะช่วยทำให้ปริมาณการเกิดเชื้อราลดลงได้

4. เปิดพัดลมระบายอากาศ

การใช้พัดลมระบายอากาศ จะช่วยทำให้ลดความชื้นในห้องครัวได้ ซึ่งถ้าหากคอยดูแลพื้นผิว และหมั่นทำความสะอาดเช็ดให้แห้งเป็นประจำ เชื้อราก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้แน่นอน

5. แก้ไขการรั่วไหลของน้ำในห้องครัว

หมั่นดูแล บำรุงรักษาก๊อกน้ำ หรือท่อน้ำไม่ให้เกิดการรั่วซึมอยู่เสมอ จะช่วยลดความชื้น ซึ่งเป็นบ่อเกิดของเชื้อราได้เป็นอย่างดี

6. ใช้น้ำยาทำความสะอาดแบคทีเรีย

เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ การทำความสะอาดที่มีส่วนประกอบในการฆ่าเชื้อรา และหมั่นดูแลทำความสะอาดอยู่เสมอก็จะสามารถกัดปริมาณเชื้อราให้ลดลงได้

7. ใช้สีป้องกันเชื้อราในห้องครัว

หนึ่งในสารเคมีที่สามารถกำจัดเชื้อราได้ก็คือ การใช้สีป้องกันเชื้อรามาทาในห้องครัวซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาพื้นผิวที่จะเป็นบ่อเกิดของเชื้อราได้เป็นอย่างดี

สรุปบทความ 

เชื้อรา สามารถเกิดขึ้นได้ในอุณหภูมิที่มีความชื้น ไม่ว่าจะเป็นในบริเวณพื้นผิวในห้องครัว หรือในตู้เย็นก็ตาม หากหมั่นดูแลทำความสะอาดเช็ดให้แห้ง ไม่ปล่อยให้มีเศษอาหารหมักหมม หรือเศษคราบสกปรกต่างๆ เป็นประจำ ก็จะเป็นการกำจัดเชื้อราได้เป็นอย่างดี

วิธีการเลือกซื้อเตาอบสำหรับมือใหม่

วิธีเลือกซื้อเตาอบ

เตาอบ ที่วางขายในบ้านเรานั้น มีอยู่หลายรูปแบบ หลายประเภทให้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเตาอบไฟฟ้า เตาอบลมร้อน เตาอบแบบฝัง หรือเตาอบขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าหากคุณเป็นมือใหม่ที่กำลังมองหาเตาอบไว้ใช้ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหนดี วันนี้เรามี วิธีการเลือกซื้อเตาอบ มาแนะนำให้พิจารณากัน ส่วนจะมีหลักการเลือกซื้ออย่างไรบ้างนั้น ก็ตามมาดูกันได้เลย

เตาอบแตกต่างจากไมโครเวฟ

ความแตกต่างระหว่างเตาอบ และไมโครเวฟ

ก่อนที่จะไปดู วิธีการเลือกซื้อเตาอบ เราต้องมาทำความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างเตาอบ และไมโครเวฟ กันก่อน เพราะถึงแม้ว่าจะมีรูปแบบการใช้งานที่คล้ายๆ กัน แต่ว่าไมโครเวฟนั้น จะเหมาะสำหรับใช้อุ่นอาหาร หรือปรุงอาหารที่ไม่ต้องใช้ความร้อนสูงๆ ส่วนเตาอบนั้นสามารถทำอาหารได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการอบ การตุ๋น การอุ่น หรือใช้ในการทำขนมเบเกอรี่ต่างๆ เตาอบจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหารอีกทั้งยังช่วยทำให้รสชาติอาหารคงที่ และคงความสดใหม่ได้นานกว่าไมโครเวฟ

แนะนำ 5 เทคนิคเลือกซื้อเตาอบสำหรับมือใหม่

อย่างที่เราได้บอกไปแล้วว่า เตาอบ มีหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน สำหรับมือใหม่ที่อยากรู้ วิธีการเลือกซื้อเตาอบ ที่ตอบโจทย์ความต้องการ วันนี้เรามีเทคนิคดีๆ มาแนะนำ ดังนี้

1. วัตถุประสงค์การใช้งาน

สำหรับมือใหม่ ควรคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ในการทำอาหารเป็นอันดับแรก ถ้าคุณต้องการซื้อเตาอบไว้สำหรับทำขนมประเภทเบเกอรี่เล็กๆ น้อย ก็ควรเลือกขนาด 20 ลิตร หรือถ้าหากต้องการเปิดร้านขายขนม รวมไปถึงการเปิดร้านขายอาหารก็ควรเลือกขนาด 45 ลิตรขึ้นไป

2. ขนาดที่เหมาะสม

การเลือกซื้อเตาอบในขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มือใหม่ควรให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน เพราะนอกจากจะสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก สบาย ก็ยังช่วยให้คุณทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย

3. ฟังก์ชันการใช้งาน

ฟังก์ชันการใช้งานของเตาอบ

เตาอบแต่ละรุ่น มีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป มือใหม่ควรเลือกเตาอบที่สามารถปรับอุณหภูมิได้หลายระดับ เพราะกระบวนการทำอาหารประเภทต่างๆ จะมีการใช้ความร้อนที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการเลือกซื้อเตาอบที่มีฟังก์ชันเยอะๆ ก็จะช่วยทำให้คุณสามารถปรุงอาหารได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น

4. ยี่ห้อ

การเลือกซื้อเตาอบที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการนั้น นอกจากจะต้องคำนึงถึงเรื่องขนาด หรือวัตถุประสงค์ในการใช้งานแล้ว ก็ควรพิจารณาในเรื่องยี่ห้อสินค้าด้วยเช่นกัน เพราะบางรุ่นอาจจะมีดีไซน์ที่สวยงามถูกใจ แต่วัสดุที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นหากเลือกซื้อยี่ห้อติดตลาด คนส่วนใหญ่นิยมเลือกซื้อไว้ใช้งานก็จะช่วยทำให้เกิดความมั่นใจได้มากขึ้น

5. งบประมาณ

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการเลือกซื้อเตาอบไว้ใช้ นอกจากจะคำนึงถึงในเรื่องต่างๆ ที่กล่าวไป ก็ควรพิจารณาในเรื่องของงบประมาณร่วมด้วย เพราะแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อนั้นก็จะมีฟังก์ชันที่หลากหลาย ก่อนตัดสินใจควรนำราคาและรายละเอียดมาเปรียบเทียบกัน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด

สรุปบทความ 

เตาอบ เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เรียกได้ว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะใช้ในการอุ่นอาหาร ก็ยังสามารถใช้ในกระบวนการปรุงอาหารรูปแบบต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่งถ้าหากคุณเป็นมือใหม่และอยากรู้ วิธีการเลือกซื้อเตาอบ ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ ลองนำข้อมูลต่างๆ ที่เราได้รวบรวมไว้ให้ไปพิจารณากันดูได้เลย รับรองว่าการทำอาหารของคุณจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป อย่างแน่นอน

เลือกซื้อเครื่องครัวอย่างไรดี

วิธีเลือกซื้อเครื่องครัวและอุปกรณ์

หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังกลุ้มใจเกี่ยวกับการเลือกซื้ออุปกรณ์เครื่องครัว และกำลังมองหาเทคนิคดีๆ ในการเลือกซื้อเครื่องครัวมาใช้งาน วันนี้เรามีวิธีการเลือกซื้อดีๆ มาแนะนำ ที่สำคัญคือ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้เป็นอย่างดีแน่นอน แต่จะมีขั้นตอน หรือเทคนิคการตัดสินใจเลือกซื้อแบบไหนบ้างนั้น ก็อย่ารอช้า ตามมาดูกันเลย

5 วิธีเลือกซื้อเครื่องครัวให้ตอบโจทย์การใช้งาน

อุปกรณ์เครื่องครัวมีหลายอย่างที่พ่อบ้าน แม่บ้านต้องใช้งานอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับต้ม ผัด แกง ทอด รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งในส่วนของวิธีเลือกซื้อให้ตอบโจทย์การใช้งานก็มีหลายปัจจัยด้วยกัน ดังนี้

1. ความจำเป็นในการใช้งาน

การเลือกซื้อเครื่องครัวควรคำนึงถึงการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน หากคุณมีไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบการทำอาหารก็เลือกซื้ออุปกรณ์ที่มีฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ได้ตามต้องการ แต่ถ้าหากไม่ค่อยมีเวลาว่างก็ควรเลือกซื้อเฉพาะที่จำเป็นจะดีที่สุด ทั้งนี้เป็นการช่วยลดพื้นที่ อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย

2. ลักษณะของเตา

เลือกซื้อเครื่องครัวจากลักษณะของเตา

ในตลาดบ้านเรา มีเตาหลายรุ่น หลายยี่ห้อให้เลือกใช้งาน ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีความแตกต่าง ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันใช้งานที่ต่างกันออกไป ทั้งนี้การเลือกซื้อเตา ให้เหมาะสมควรคำนึงถึงพื้นที่ห้องครัว และวัตถุประสงค์ในการใช้ เช่น หากมีพื้นที่จำกัดแต่ไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการทำอาหาร ก็เลือกซื้อเตาที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ก็จะช่วยตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี

3. อายุการใช้งาน

ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เครื่องครัวรูปแบบไหน การเลือกซื้อสินค้าที่ทำจากวัสดุคุณภาพดี แข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน ก็จะช่วยทำให้ยืดอายุการใช้งานออกไปได้นานขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลักด้วย เพราะถ้าหากใช้งานไม่เหมาะสมก็จะทำให้อายุการใช้งานสั้นลงได้อีกด้วย

4. การทำความสะอาด

เลือกซื้อเครื่องครัวที่ทำความสะอาดได้ง่าย

5. งบประมาณ

เครื่องครัวแต่ละประเภทก็จะมีราคาที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้ใช้งานเป็นหลัก ซึ่งถ้าหากคุณอยากได้อุปกรณ์ที่ใช้งานได้ยาวนาน ก็ควรเลือกวัสดุที่มีคุณภาพและราคาไม่สูงจนเกินไป

สรุปบทความ 

อุปกรณ์เครื่องครัว ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตาม ถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการปรุงอาหาร ซึ่งในส่วนของการเลือกซื้อเครื่องครัวประเภทต่างๆ เข้ามาใช้งาน ควรคำนึงถึงความเหมาะสมและวัตถุประสงค์ในการใช้งานเป็นหลัก นอกจากนี้ก็ไม่ควรมองข้ามไลฟ์สไตล์ในแต่ละวัน รวมไปถึงพื้นที่ในการจัดวางร่วมด้วย เพราะถ้าหากเลือกซื้อมาแล้วไม่ตอบโจทย์ ใช้งานได้ไม่สะดวก ก็จะทำให้ประสิทธิภาพและอายุการใช้งานลดน้อยลงไป ทั้งนี้การเลือกซื้อเครื่องครัวให้ใช้งานได้นาน ยังขึ้นอยู่กับการศึกษา ทำความเข้าใจตามคู่มืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ได้รับ และปฏิบัติตามให้ถูกต้อง เพราะถ้าหากใช้ผิดวิธีก็อาจทำให้อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ที่เลือกซื้อมานั้นมีอายุการใช้งานที่สั้นลง แถมถ้าหากใช้ไม่ถูกวัตถุประสงค์ ก็จะก่อให้เกิดอันตรายขึ้นมาได้อีกด้วย

เรื่องที่ต้องรู้ก่อนใช้งานเตาอบครั้งแรก

เรื่องที่ต้องรู้ก่อนใช้งานเตาอบครั้งแรก

เตาอบ ที่มีขายในตลาดบ้านเรานั้น มีหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเตาอบแบบมีพัดลม เตาอบที่ควบคุมด้วยระบบแก๊ส หรือเตาอบไฟฟ้าก็ตาม ซึ่งก่อนใช้เตาอบครั้งแรก นั้นก็ควรศึกษารายละเอียดการใช้ รวมไปถึงข้อมูลในด้านต่างๆ เช่น การวอร์มเตาอบ , การทำความสะอาด , การควบคุมอุณหภูมิ เป็นต้น ซึ่งเรื่องต่างๆ เหล่านี้จะช่วยทำให้คุณสามารถใช้เตาอบได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น

เตาอบ สำคัญกับการทำอาหารอย่างไร

เตาอบ สำคัญกับการทำอาหารอย่างไร

เตาอบ เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่สามารถทำอาหารที่ใช้กระบวนการอบได้หลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการอบขนมเบเกอรี่ หรืออบอาหารที่ต้องการความร้อนแบบทั่วถึง รวมไปถึงการอบผักและผลไม้ต่างๆ การใช้เตาอบในการทำอาหาร ไม่เพียงแต่จะช่วยทำให้ได้อาหารที่อร่อย น่ารับประทาน ก็ยังช่วยทำให้การทำอาหารของคุณนั้น เป็นเรื่องที่ง่าย สะดวก สบาย แถมยังประหยัดเวลาไปได้มากขึ้นอีกด้วย

ใช้งานเตาอบครั้งแรก ต้องรู้อะไรบ้าง

ใช้งานเตาอบครั้งแรก ต้องรู้อะไรบ้าง

สำหรับการใช้เตาอบครั้งแรก นั้น มือใหม่ควรมีความรู้ในหลายด้าน เช่น อุณหภูมิสูงสุดของเตาอบ , การควบคุมความร้อน , ขั้นตอนการทำความสะอาด เป็นต้น โดยอ่านคู่มือให้ละเอียดก่อนใช้งาน จากนั้นก็ทำการวอร์มเตาอบเพื่อทดสอบความร้อนของเตาได้เลย ทั้งนี้ในการวอร์มเตาอบก่อนใช้งานนั้น จะช่วยทำให้เรารู้ว่าระบบการทำงานต่างๆ สามารถทำงานได้ดีหรือไม่ ซึ่งในขั้นตอนการทดสอบ คุณสามารถนำคู่มือมาอ่านเพื่อเช็กประสิทธิภาพของเตาอบร่วมด้วยได้เลย

สิ่งที่ต้องทำก่อนใช้เตาอบครั้งแรก

การเตรียมตัวก่อนใช้เตาอบครั้งแรก เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้การทำอาหารนั้น เกิดผลลัพธ์ที่ดีและสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ซึ่งมือใหม่ควรอ่านคู่มือให้ละเอียดควบคู่ไปกับการเช็กความสะอาด รวมไปถึงตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นถาดเตาอบ หรือสายไฟ ให้เรียบร้อย เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็เริ่มต้นใช้งานได้เลยทันที

วิธีการเผาเตาขั้นเบื้องต้น

ในส่วนของการใช้เตาอบครั้งแรก ต้องไม่ลืมการเผาเตา หรือวอร์มเตาอบก่อนทุกครั้ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการทดสอบความร้อน และไล่สารเคมีที่เคลือบมากับเตา โดยวิธีการเผาเตาสามารถทำตามนี้ได้เลย

  •  เริ่มต้นจากการทำความสะอาด ด้วยการใช้ผ้า หรือฟองน้ำชุบน้ำผสมน้ำยาล้างจานเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกให้หลุดออกไป
  •  เปิดเตาอบและทดลองความร้อน ตามคำแนะนำในคู่มือ หากเป็นเตาที่มีระบบระบายความร้อน ควรตรวจสอบด้วยว่าระบบทำงานได้ดีหรือไม่
  • ทดลองปรับแต่งตัวควบคุมอุณหภูมิและเวลาตามความต้องการ รวมไปถึงทดลองการเปิด-ปิดประตูเตาอบเพื่อให้ได้รู้ถึงลักษณะการทำงานของเตา

สรุปบทความ 

เตาอบ เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีประโยชน์ในกระบวนการทำอาหารในหลายด้าน ไม่ว่าจะใช้ในการอบขนมปัง เบเกอรี่ หรืออบอาหารประเภทต่างๆ เช่น ผัก ผลไม้ รวมไปถึงเนื้อสัตว์ ที่ต้องการความร้อนอย่างทั่วถึง ก็สามารถทำได้อย่างสะดวก รวดเร็ว แถมยังประหยัดเวลาไปได้มากอีกด้วย ในการ ใช้งานเตาอบครั้งแรก สำหรับมือใหม่ขอแนะนำว่าควรอ่านคู่มือให้เข้าใจ และที่สำคัญต้องไม่ลืมขั้นตอนการเผาเตาก่อนใช้ เพราะนอกจากจะเป็นการทดสอบระบบการทำงานแล้ว ก็ยังช่วยป้องกันกลิ่นและสารเคมีที่เคลือบมากับเตาตกลงไปในอาหารได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

การทำอาหารด้วยตัวเองมาพร้อมประโยชน์และข้อดีมากมาย

ประโยชน์จากการฝึกทำอาหาร

หลายคนอาจจะรู้สึกการทำอาหารเป็นเรื่องยุ่งยากและต้องใช้เวลาในการทำเป็นอย่างมาก แต่รู้หรือไม่ว่าการฝึกทำอาหาร มีประโยชน์และข้อดีมากกว่าที่คิด สำหรับใครที่ไม่ชอบเข้าทำอาหารที่ ห้องครัว ขอแนะนำให้ลองมาเปิดใจสักนิด เพราะจะได้ประสบการณ์ในการทำอาหารมากมายหลายอย่างแน่นอน และถ้าหากตอนนี้ยังนึกไม่ออก ยังลังเลใจว่าจะทำดีหรือไม่ทำดี มาลองหาประโยชน์และข้อดีของการเข้าครัวกันก่อนดีกว่า

10 ประโยชน์ที่จะได้รับจากการฝึกทำอาหาร

ในฝึกทำอาหาร สำหรับคนที่ไม่เคยเข้าครัวมาก่อนอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าหากได้ลองแล้วหลายคนอาจชื่นชอบ ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า 10 ประโยชน์ที่ได้จากการฝึกทำอาหารมากมายหลายประเภทนั้นมีอะไรบ้าง

1. รู้จักการวางแผน

ในการฝึกทำอาหาร สิ่งแรกที่จำได้ก็คือรู้จักการวางแผน เพราะการทำอาหารจะต้องวางแผนตั้งแต่การคิดว่าจะทำเมนูอะไร จะต้องเตรียมวัตถุดิบหรือต้องใช้เครื่องครัวอะไรบ้าง อีกทั้งยังต้องรู้ขั้นตอนการทำอาหารต่างๆ ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบ การเริ่มปรุงอาหาร และแม้แต่การตกแต่งอาหารให้น่าทาน สิ่งเหล่านี้จะสามารถเพิ่มทักษะในการวางแผนได้ เพราะถ้าหากไม่มีการวางแผนแน่นอนว่าอาหารจะต้องขาดในส่วนใดส่วนหนึ่งอย่างแน่นอน

2. ฝึกสมาธิ

การทำอาหารสามารถช่วยฝึกสมาธิได้

ในการทำอาหารสามารถฝึกสมาธิในการทำได้ตลอดเวลา เพราะการทำอาหารจำเป็นต้องใส่ใจในทุกขั้นตอน ซึ่งถ้าหากมีสมาธิไม่พออาจเกิดข้อผิดพลาดได้หลายอย่าง เช่น ล้างวัตถุดิบไม่สะอาด ได้รับบาดเจ็บจากการทำอาหาร ปรุงอาหารผิดรส ดังนั้นเพื่อลดความผิดพลาดจึงต้องมีสมาธิในการทำตลอดเวลา เลยทำให้มีสมาธิได้มากยิ่งขึ้น

3. ใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น

ในการทำอาหารแต่ละมื้อจะทำให้มีเวลาอยู่กับตัวเองหรือก็คือโฟกัสกับการทำอาหารมากยิ่งขึ้น ไม่ใช้เวลาเปล่าประโยชน์ไปกับโลกโซเชียลหรือยุ่งวุ่นวายกับเรื่องคนอื่น และเวลาทำอาหารเพลินๆ ก็มักจะคิดถึงหรือคุยกับตัวเองในใจบ่อยๆ อีกด้วย

4. ฝึกการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ใครที่เริ่มฝึกทำอาหาร จะรู้เลยว่าปัญหาระหว่างการทำมีเยอะมากๆ เยอะแบบไม่ทันได้ตั้งตัว และไม่มีสัญญาณใดๆ บอกล่วงหน้า ดังนั้นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้สำเร็จ ก็จะช่วยพัฒนาสกิลในการแก้ปัญหาฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี สามารถนำไปใช้กับเรื่องอื่นๆ ได้

5. ฝึกความอดทน

ในการทำอาหารแต่ละจานจะมีเวลาในการทำของแต่ละเมนู แน่นอนว่าบางจานอาจจะ 5 นาทีเสร็จ แต่ก็มีหลายเมนูเหมือนกันที่ใช้เวลาตั้งแต่ 2 – 3 ชั่วโมงขึ้นไป ในจุดนี้จึงสามารถฝึกความอดทนในการทำอาหารได้เป็นอย่างดี

6. รู้จักการบริหารเวลา

การฝึกทำอาหาร ที่ดีจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบริหารเวลาให้เป็น ว่าเมนูนี้จะใช้เวลาในการทำกี่นาที ในแต่ละขั้นตอนใช้เวลาเท่าไหร่ เพื่อที่จะสามารถทำเสร็จแล้วทาน ออกไปทำธุระอย่างอื่นได้อย่างตรงเวลา

7. ผ่อนคลายความเครียด

แน่นอนว่าการทำอาหารสามารถสร้างความผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจได้ โดยร่างกายในการทำอาหารจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้แรงในการทำสิ่งต่างๆ ก็จะช่วยยืดเส้น ยืดสายได้ไปในตัว ทำให้ร่างกายสามารถผ่อนคลายได้ ในส่วนของจิตใจก็ทำให้ผ่อนคลายได้เช่นกัน เพราะการทำอาหารทำให้เราสนุกกับการทำอาหาร และที่สำคัญยังสามารถหยุดคิดเรื่องปวดหัว หันมาโฟกัสกับการทำอาหารได้อย่างเดียวอีกด้วย

8. เพิ่มความคิดสร้างสรรค์

ในการทำอาหารสามารถเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ได้หลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการคิดค้นเมนูอาหารใหม่ๆ การดีไซน์ภาพลักษณ์อาหาร และการตกแต่งอาหารก็สามารถเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างมาก

9. เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์

ในการ ฝึกทำอาหาร จะมีสิ่งหนึ่งที่จำเป็นจะต้องศึกษานั่นก็คือการเลือกซื้อวัตถุดิบ ที่จะสามารถเพิ่มความรู้ว่าอันไหนที่เป็นของดีมีประโยชน์ หรืออะไรที่เป็นของเสียไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

10. สานสัมพันธ์กับคนในครอบครัว

การทำอาหารสามารถสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัว

การทำอาหารร่วมกันกับคนในบ้าน สามารถสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัวได้ในระยะยาว เพราะการทำอาหารร่วมกันก็คล้ายกับการดูแลซึ่งกันและกัน และสามารถทำได้ตลอด 3 มื้ออาหาร

สรุปบทความ 

ใครเห็นก็คงไม่เชื่อว่าการทำอาหารสามารถให้ประโยชน์ได้มากมายอย่างคาดไม่ถึง เพราะสามารถให้ประโยชน์กับตัวเองและคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยเข้าครัวกันมาก่อน ก็แนะนำว่าให้ฝึกทำอาหาร เมนูง่ายๆ กันไปก่อน เพราะถ้าทำเมนูยากๆ หรือมีความซับซ้อนมากเกินไป ก็อาจจะเกลียดการเข้าครัวได้ เพราะจริงๆ แล้วการเข้าครัวก็เป็นเรื่องสนุกๆ ที่สามารถสร้างความสนุกได้ในแต่ละวัน

พอดแคสต์เกี่ยวกับอาหารที่คุณอาจสนใจ

ช่องพอดแคสต์ เกี่ยวกับการทำอาหาร

ครที่เป็นสายทำอาหารหรือเป็นมือใหม่ในการทำอาหาร อยากจะหาช่องพอดแคสต์ เกี่ยวกับการทำอาหารอยู่แล้วล่ะก็ ต้องห้ามพลาดกับบทความนี้เพราะทาง Tecnogas ได้รวบรวมเกี่ยวกับพอดแคสต์ด้านอาหารมากมายที่จะมาให้ความรู้ในการทำอาหารชนิดต่างๆ ที่สามารถเพิ่มความรู้ได้เป็นอย่างดี และยังทำให้ช่วยเข้า ห้องครัว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาตามอ่านไปด้วยกันเลย

ทำความรู้จักกับพอดแคสต์

พอดแคสต์ คือ คอนเทนต์ที่จัดออกมาในรูปแบบเสียงเหมือนกับรายการวิทยุ ที่จะมีคนมาพูดเรื่องราวต่างๆ ให้ฟังที่สามารถฟังง่าย ย่อยง่าย โดยการดำเนินรายการก็จะเป็นแบบ 1 คนบ้าง หรือจะเป็นหลายคนก็ได้เช่นเดียวกัน

แนะนำ 7 พอดแคสต์เรื่องราวเกี่ยวกับอาหาร

พอดแคสต์เรื่องราวเกี่ยวกับอาหาร

สำหรับพอดแคสต์ ที่จะมาแนะนำเกี่ยวกับอาหารนั้น ถือว่ามีหลากหลายมิติมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำความรู้จักอาหารชนิดต่างๆ วิธีการทำอาหาร การทำธุรกิจอาหาร รีวิวร้านอาหารและ อื่นๆ อีกมากมาย สามารถเลือกช่องที่ตรงความต้องการได้ โดยรายละเอียดมีดังต่อไปนี้

1. ออกรส

ถ้าใครอยากจะดำดิ่งลึกสู่โลกอาหารและรสชาติขอแนะนำให้มาฟังที่ช่อง “ออกรส” ที่ว่าด้วยเรื่องของรสชาติ อาหาร วิธีการปรุงอาหารตามสัญชาติต่างๆ ทั่วโลก ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินได้แบบไม่ซ้ำใคร การันตีความรู้เชิงลึกด้วยพิธีกรดำเนินรายการ “เชฟแวน” และ “เชฟแบล็ก” ที่จะมาสร้างสีสันในการทำอาหารให้น่าตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจเป็นอย่างมาก

2. น้ำปลาพริก

ช่องน้ำปลาพริกก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งช่องรายการที่จะว่าด้วยเรื่อง การประกอบอาหาร การทานอาหาร ที่ให้ความรู้ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน โดยมีทั้งอาหารไทยและอาหารต่างประเทศ การดำเนินรายการเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เป็นกันเอง สร้างแรงบันดาลใจในการทำอาหารให้กับใครหลายคนได้

3. คอไวน์

พอดแคสต์ ช่องคอไวน์ก็ตามชื่อเลยที่จะดำเนินรายการโดยคนที่ชื่นชอบไวน์ ที่จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับที่มาของไวน์ ไวน์คืออะไร ประเภทของไวน์ เทคนิคการชิมไวน์ ดำเนินรายการโดย คุณปุ้ย ณพิชญา พันธุมกุล ซึ่งต้องบอกเลยว่าใครที่เป็นมือใหม่อยากเข้าวงการไวน์เหมาะมากที่จะมาศึกษาที่ช่องนี้ หรือใครที่อยู่วงการนี้มานานอยากได้เกร็ดความรู้เพิ่มก็สามารถเข้ามาฟังกันได้

4. วงในวันละร้าน

ช่องวงในวันละร้าน ก็คือเป็นช่องที่จะมารีวิวร้านอาหารต่างๆ ที่จะช่วยให้ทุกคนจบปัญหาว่าจะกินอะไรดี เพราะตัวแอพวงในมีร้านอาหารหรือข้อมูลร้านกว่า 400,000 ร้านทั่วประเทศ ดังนั้นการรีวิวร้านอาหารแต่ละร้าน รับรองเจาะลึกได้ร้านที่น่าทานทั้งร้านอาหารคาว อาหารหวานทุกสัญชาติอย่างแน่นอน

5. โรงอาหาร Podcast

ถ้าหากใครอยากจะหาเพื่อนกินข้าว ต้องการฟังเรื่องสนุกๆ ผ่านการเม้าท์มอยพอดแคสต์ โรงอาหาร คือคำตอบของช่องนี้ โดยจะเป็นการนำเรื่องราวต่างๆ ที่มักจะเป็นที่พูดคุยกันอยู่บ่อยครั้ง เป็นโมเมนต์แห่งความทรงจำดีๆ มาเล่า คลุกเคล้ากับการทานอาหารร่วมด้วย ใครที่กินข้าวคนเดียวแล้วเหงาต้องห้ามพลาดช่องนี้เลย

6. The Addict Podcast : Hungry Biz

ถ้าหากใครหาช่องเกี่ยวกับการทำธุรกิจอาหาร การทำแบรนด์ร้านอาหาร การทำการตลาดร้านอาหาร การทำโฆษณา รวมถึงคอนเทนต์อาหารประเภทอาหาร เพื่อหาความรู้พัฒนาตัวเองและแบรนด์ของตัวเองไม่ควรพลาดกับช่อง The Addict Podcast : Hungry Biz รับรองว่าข้อมูลแน่น และพูดโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยเฉพาะ

7. GUlaxy Podcast : ดอยปุยตะลุยแดก

ถ้าหากใครกำลังมองหาพอดแคสต์ รีวิวร้านอาหารก็ขอแนะนำให้มาฟังที่ช่อง GUlaxy Podcast : ดอยปุยตะลุยแดก ที่จะเป็นการรีวิวร้านอาหารหลากหลายที่ พร้อมกันนั้นยังรีวิวอาหารที่ให้คุณค่าทางโภชนา เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้สุขภาพดีได้อีกด้วย นับว่าเป็นช่องความรู้ที่อัดแน่นจริงๆ

สรุปบทความ

รวมพอดแคสต์เกี่ยวกับอาหาร

ก็จบกันไปแล้วกับพอดแคสต์ ทั้ง 7 ช่องที่อยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ลองไปฟังกัน รับรองว่าแต่ละช่องมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร รับรองว่าแต่ละคอนเทนต์ที่ได้รับจะเพิ่มประสบการณ์ในการรับรู้หรือทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำอาหารอย่างแน่นอน สุดท้ายนี้ทาง Tecnogas ก็ขอลากันไปก่อน ถ้าหากสนใจเลือกซื้อเครื่องครัวคุณภาพ ที่ช่วยให้การทำอาหารสะดวก เพลิดเพลิน และเพิ่มระดับความอร่อยรีบดูหน้าแรกกันได้เลย

แนวเพลงที่เหมาะสำหรับการทำอาหาร มีอะไรบ้าง

แนวเพลงที่เหมาะสำหรับคนชอบทำอาหาร

ถ้าอยากทำให้การทำอาหารเป็นเรื่องที่เพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น การเปิดเพลงระหว่างการทำครัวเป็นสิ่งที่ใครหลายๆ คนเลือกทำ โดยแต่ละคนก็มักจะมีแนวเพลงที่เหมาะแก่การทำอาหารอยู่แล้ว แต่ถ้าหากใครไม่รู้ว่าจะเปิดเพลงแนวไหนดี หรือเบื่อเพลงแนวเดิมๆ แล้วล่ะก็ ในบทความนี้จะแนะนำแนวเพลงทำอาหาร ที่เหมาะกับทุกคนให้ พร้อมทั้งมาบอกสาเหตุว่าการเปิดเพลงระหว่างการรับประทานอาหารส่งผลอย่างไรต่อคนเราได้บ้าง

ดนตรี ส่งผลต่อการรับประทานอาหารอย่างไร

ดนตรีมักเป็นการสร้างบรรยากาศการทานอาหารได้มากมายหลายรูปแบบ สามารถเพิ่มความอร่อยได้มากยิ่งขึ้น สามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศเข้าถึงสไตล์อาหารได้มากยิ่งขึ้น สามารถช่วยทำให้ทานอาหารได้เร็วขึ้นหรือช้าลงก็ได้เช่นเดียวกัน และยังมีเพลงบางชนิดที่สามารถทำให้อยากอาหารที่มีประโยชน์ หรือมีเพลงบางชนิดก็ทำให้สนุกกับการทานปิ้ง – ย่าง ได้เช่นกัน

3 แนวเพลงที่เหมาะสำหรับการทำอาหาร

แนวเพลงที่เหมาะสำหรับการทำอาหาร

เมื่อเราได้รู้แล้วว่าดนตรีส่งผลต่อการรับประทานอาหารอย่างไรบ้าง ทีนี้ก็มาดูกันเลยดีกว่าว่าแนวเพลงอะไรบ้างที่เหมาะเปิดระหว่างทำอาหาร  รับรองว่าการเปิดเพลงเหล่านี้ฟังเพลินๆ ทำครัวเพลินๆ ได้อย่างแน่นอน โดยแนวเพลงทั้งหมดจะมี 3 แนวเพลงที่อยากจะแนะนำมีดังต่อไปนี้

1. แนวเพลงแจ๊ส (Jazz)

สำหรับเพลงแจ๊สอย่างที่ทราบกันดีว่ามีความน่าสนใจตรงที่มีเครื่องเป่าเป็นตัวเอกในการดำเนินเพลง จังหวะก็จะเป็นความเร็วปานกลางค่อนไปทางช้า สามารถสื่ออารมณ์ได้หลากหลายได้ฟีลเหมือนตอนดินเนอร์หรู เหมาะแก่การเปิดฟังตอนทำอาหารช่วงค่ำไปจนถึงตอนกลางคืนเป็นอย่างมาก ซึ่งต้องบอกเลยว่าเพลงนี้สามารถสร้างอิทธิพลในการทำอาหารได้หลากหลาย ทั้งในแง่ของการสร้างความสนุกสนานในการทำอาหาร หรือแม้แต่สไตล์อาหารก็สามารถเลือกทางฝั่งยุโรปได้ด้วยเช่นกัน

2. แนวเพลงบรรเลงโดยอูคูเลเล่ (Ukulele)

แนวเพลงบรรเลงโดยอูคูเลเล่

สำหรับใครที่ต้องการทำอาหารด้วยบรรยากาศสบายๆ เพิ่มความเพลิดเพลินระหว่างการทำอาหารได้เป็นอย่างดีขอแนะนำให้ฟังเพลงอูคูเลเล่ เพราะตัวเครื่องอูคูเลเล่มีเสียงที่ใส สร้างความสดใสระหว่างการฟังได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังทำให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสนุกสนานได้ในเวลาเดียวกัน โดยเหมาที่จะเปิดฟังในช่วงกลางวันเป็นอย่างมาก

3. แนวเพลงแบบเร้กเก้ (Reggae)

ถ้าหากใครต้องการเพลงที่ตื่นเต้นสักหน่อย สร้างความสนุกในการทำอาหารได้อย่างเต็มที่ขอแนะนำเพลงแบบเร้กเก้ที่มีจังหวะครื้นเครงช่วยสร้างจังหวะในการทำอาหารได้เป็นอย่างดี เหมาะกับการทำอาหารทุกช่วงเวลา รับรองจังหวะสร้างความสนุกสนาน การทำอาหารไม่มีเบื่ออย่างแน่นอน

สรุปบทความ 

สำหรับแนวเพลงในการทำอาหารทั้ง 3 แนวก็มีตามที่ได้กล่าวไป แนะนำว่าหากใครไม่เคยเปิดเพลงทำอาหารใน ห้องครัว มาก่อนก็อยากให้ลองดูกันสักตั้ง ว่าระหว่างไม่เปิดเพลงฟังหรือเปิดเพลงฟังมีความแตกต่างกันอย่างไร สุดท้ายนี้ทาง Tecnogas ก็ขอลากันไปก่อน ซึ่งถ้าใครอยากเพลิดเพลินกับการทำครัวให้สนุกสนานมากยิ่งขึ้นการเลือกเครื่องครัวที่ดีมีคุณภาพก็ยิ่งยกระดับการทำอาหารให้อร่อยได้อีกด้วย สามารถดูเครื่องครัวที่สนใจได้ผ่านทางหน้าเว็บไซต์

เลือกซื้อวัตถุดิบทำอาหารอย่างไรให้ปลอดภัย

วิธีเลือกซื้อวัตถุดิบ

ปัจจุบันนี้ต้องบอกว่าการเลือกซื้อวัตถุดิบทำอาหารนับเป็นสิ่งสำคัญ เพราะต้องบอกเลยว่าวัตถุดิบหลายๆ อย่างอาจมีสารปนเปื้อน เมื่อสั่งสมในร่างกายก็จะกลายเป็นสารอันตรายที่ทำให้เกิดโรคหลายๆ อย่างในอนาคตได้ ในบทความนี้ที่ทาง Tecnogas อย่างจะพาทุกคนไปตามอ่านกัน นั่นก็คือวิธีการเลือกซื้อวัตถุดิบทำอาหารอย่างไรให้ปลอดภัย เพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคต มาตามอ่านไปพร้อมๆ กันได้เลย

5 เทคนิคการเลือกซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหาร

สำหรับเทคนิคการเลือกซื้อวัตถุดิบในการทำอาหาร ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเป็นอย่างมาก เพราะคงไม่มีใครอยากที่จะกินของที่ไม่ได้คุณภาพหรือของที่มีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เราไปดูกันดีกว่าว่า 5 เทคนิคการเลือกซื้อวัตถุดิบในการทำอาหารนั้นมีอะไรบ้าง

1. การเลือกซื้อผัก

เทคนิคการเลือกซื้อผัก

การเลือกผักคือควรเลือกผักที่มีความสด สะอาด มีรอยกัดแทะของแมลงไม่เยอะ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผักปลอดสารพิษ ไม่ควรเลือกผักที่มีความช้ำ เหี่ยว หรือใกล้เน่าเป็นอันขาด นอกจากนี้แนะนำให้เลือกซื้อผักสดตามฤดูกาล เพราะจะได้ราคาที่ถูกในขณะเดียวกันคุณภาพก็ดีอีกด้วย

2. การเลือกซื้อเนื้อสัตว์

การเลือกซื้อเนื้อสัตว์ควรซื้อในแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ หรือก็คือผ่านการตรวจสอบของสัตวแพทย์ที่สามารถการันตีได้ว่าโรคจากสัตว์จะไม่มีการปนเปื้อนมา สำหรับการเลือกเนื้อสัตว์แต่ละชนิดจะมีจุดสังเกตที่แตกต่างกันสามารถเช็กการซื้อวัตถุดิบได้จากสิ่งเหล่านี้

  • เนื้อวัว เลือกเนื้อที่มีสีแดง ตัวมันสีเหลือง เนื้อมีความนุ่มเห็นเส้นเนื้อชัดเจน
  • เนื้อหมู เลือกเนื้อที่มีสีชมพู ตัวมันสีขาว 
  • เนื้อไก่ เลือกเนื้อสัมผัสที่มีความอ่อนนุ่ม หนังไม่เหนียว ไม่มีรอยช้ำ
  • เนื้อเป็ด เลือกเนื้อสัมผัสที่ไม่มีรอยช้ำ ห้ามเลือกเนื้อเหนียวหรือเป็ดที่มีกลิ่นสาบ
  • กุ้ง สังเกตจากเปลือกสีเขียวน้ำเงิน หางไม่มีรอยคล้ำ ไม่ส่งกลิ่นเหม็น
  • ปลา สังเกตจากตาใส เหงือกแดง เนื้อไม่เละ
  • หอย เลือกตอนที่ยังไม่ตาย

3. การเลือกซื้ออาหารกระป๋อง

การเลือกซื้ออาหารกระป๋องมีจุดเด่นที่จะต้องสังเกตก็คือในส่วนของฉลากที่จะต้องมีการระบุข้อความชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ เลขทะเบียนอาหาร สถานที่ตั้งผู้ผลิต วัน เดือน ปีที่ผลิต รหัสได้จดทะเบียน ปริมาณสุทธิ และอีกอย่างที่ต้องสังเกตคือลักษณะกระป๋องจะต้องไม่มีรอยบุบ รอยรั่ว หรือขึ้นสนิม

4. การเลือกซื้ออาหารแห้ง

ในการซื้อวัตถุดิบ อย่างอาหารแห้ง แนะนำให้ซื้อในปริมาณมากๆ จะได้รับราคาที่ถูกกว่า ซึ่งจุดสังเกตก็คือไม่เลือกซื้ออันที่ขึ้นรา มักจะพบในกระเทียม ถั่วเมล็ดแห้ง และอื่นๆ อีกมากมาย

5. การเลือกซื้ออาหารสำเร็จรูป

วิธีการเลือกซื้ออาหารสำเร็จรูป

ในการเลือกซื้ออาหารสำเร็จรูปควรเลือกซื้อจากสถานที่ที่สะอาด ตัวอาหารมีการทำอาหารผ่านความร้อน ตัวภาชนะปิดทึบ แน่นสนิท ไม่มีรอยรั่ว เป็นอาหารที่ทำสดใหม่เป็นประจำทุกวัน

วัตถุดิบแบบไหนที่ควรหลีกเลี่ยง 

  • สถานที่ที่ขายไม่มีความสะอาด หรือเป็นแหล่งที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ หรือไม่ได้รับการรับรอง
  • วัตถุดิบทุกชนิดจะมีอายุของมัน ไม่ควรซื้อของที่เกินอายุ ซึ่งในจุดนี้จะมีวิธีการสังเกตอยู่โดยสามารถดูได้ตั้งแต่ความสด ความสะอาด การช้ำของวัตถุดิบ
  • วัตถุดิบบางชนิดจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการรับรองผ่าน อย. หากไม่มีการรับรองห้ามซื้อเป็นอันขาด ยกตัวอย่างเช่น อาหารกระป๋อง

สรุปบทความ

สำหรับวิธีการเลือกซื้อวัตถุดิบ อย่างไรที่ปลอดภัยต่อหลากกายก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ สามารถนำไปใช้ในการจ่ายตลาดได้ทุกเมื่อ และเมื่อช้อปปิ้งเสร็จและพร้อมที่จะเข้า ห้องครัว กันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็สามารถมาทำอาหารอร่อยๆ ได้อย่างเต็มที่ รับรองว่าจะได้อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างแน่นอน ซึ่งทาง Tecnogas ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่ใช่น้อย และถ้าหากต้องการเลือกซื้อเครื่องครัวก็สามารถเข้ามาที่หน้าเว็บไซต์กันได้เลย

กิจกรรมแคมป์ปิ้งกับการทำอาหารเป็นของคู่กัน

เมนูแคมป์ปิ้งน่าทาน

ช่วงเวลานี้ก็ใกล้ที่จะสิ้นสุดฤดูหนาวของเมืองไทยแล้ว และกำลังจะเริ่มเข้าสู่หน้าร้อนภายในตัว สำหรับใครที่มีแพลนออกแคมป์ปิ้งก่อนหมดฤดูหนาวแล้วล่ะก็ ต้องห้ามพลาดกับการทำอาหารที่ถือว่าเป็นมื้อพิเศษ ที่หากได้ทำคู่กับการออกแคมป์ปิ้งรับรองว่าสนุกขึ้นเป็นกอง แค่นั้นไม่พอยังได้เติมเต็มความอร่อยกับบรรยากาศสุดฟินสัมผัสลมหนาวช่วงสุดท้ายอีกด้วย มาดูกันเลยดีกว่าว่า เมนูแคมป์ปิ้ง มีอะไรบ้าง

7 เมนูแคมป์ปิ้ง ส่งท้ายลมหนาว

เมื่อความหนาวใกล้สิ้นสุดลงก็เป็นช่วงที่เหล่านักท่องเที่ยวต่างกอบโกยกันเที่ยวส่งท้ายลมหนาว อีกทั้งยังสามารถเตรียมเมนูแคมป์ปิ้ง สุดปังออกทานอาหารได้อย่างจัดเต็ม โดยเมนูที่ทางเราอยากจะแนะนำมีด้วยกันทั้งหมด 7 เมนู ที่เหมาะแก่การแคมป์ปิ้ง และสามารถอัปลงโซเชียลสวยๆ ได้ โดยรายละเอียดต่างๆ มีดังนี้

1. ข้าวไข่ลาวา

สำหรับอากาศหนาวๆ ที่ต้องการเติมไออุ่นอีกทั้งยังได้สารอาหารครบถ้วนนั่นก็คือ ข้าวไข่ลาวาที่ตัวไข่นั้นมีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่มละมุน เมื่อได้มีการตัดที่ตัวไข่ก็จะมีน้ำเยิ้มๆ อร่อยๆ ออกมาให้ทานคลุกกับข้าวที่ปรุงอย่างครบรส สามารถอิ่มท้องได้อย่างเต็มที่กันเลยทีเดียว เหมาะทานเป็นข้าวเช้าเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะได้มีแรงเที่ยวทั้งวัน

2. ไข่กระทะ

เมนูแคมป์ปิ้งไข่กระทะ

ถ้าหากกำลังมองหา   เมนูแคมป์ปิ้ง  มื้อเช้าที่เป็นที่นิยม สามารถทำได้ง่ายๆ อีกทั้งยังได้ฟีลสำหรับการมาท่องเที่ยวแบบสุดๆ ก็ขอแนะนำไข่กระทะ ที่ตัวไข่เป็นไข่ดาวจะเลือกแบบดิบหรือแบบสุกก็ได้ แต่ที่พิเศษยิ่งกว่าใครก็คือการเลือกท็อปปิ้งที่คุณชื่นชอบ จะใส่ผัก ใส่เนื้อสัตว์ ใส่อะไรก็ได้พร้อมปรุงรสด้วยซอสรับรองว่าอร่อยเหาะ ทานเพลินๆ ในมื้อเช้าได้แบบเต็มอิ่ม

3. สเต๊กเนื้อ

เมนูแคมป์ปิ้ง ที่ใครอยากจะมาสไตล์ดินเนอร์สุดหรูขอแนะนำให้ทำสเต๊กเนื้อที่ต้องบอกเลยว่า สามารถดื่มด่ำกับการทานตอนพระอาทิตย์ตกดินที่ค่อยๆ ลับขอบฟ้า แสงไฟสลัวๆ สร้างบรรยากาศที่อิ่มเอมใจ โดยสเต๊กเนื้อมีจุดเด่นตรงที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม สามารถเลือกระดับความนุ่มของเนื้อได้ตามใจชอบ อีกทั้งยังให้สารอาหารที่มาก เหมาะอย่างยิ่งกับการทานคู่กับเครื่องดื่มอย่างเช่น ไวน์ เป็นต้น

4. ขนมปังโทสต์ไข่แฮมชีส

ถ้ากำลังมองหามื้อเช้าแบบพกพาสะดวกไปกินที่ไหนก็ได้แบบชิลล์ๆ อีกทั้งยังได้สารอาหารครบถ้วนเต็มอิ่มแน่นท้องตลอดทั้งวัน ขอแนะนำให้เลือกทำขนมปังโทสต์ไข่แฮมชีส ที่จะใส่ทั้งผัก ทั้งไข่ ทั้งแฮม ชีส ไส้กรอก พร้อมปรุงรสด้วยมายองเนส กับมะเขือเทศ จานนี้รับรองว่าอร่อยเด็ดใครหลายคนทานแล้วติดใจอย่างแน่นอน

5. ชาบู

เมนูแคมป์ปิ้งชาบู

ถ้ามาแคมป์ปิ้งกันเป็นแก๊งอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวๆ การเลือกเมนูยอดฮิตแบบชาบู สามารถช่วยได้ โดยน้ำซุปนี่สามารถเตรียมน้ำซุปมาได้ตามที่ตัวเองชอบ พร้อมบรรดาผักหลากหลายชนิด เห็นนานาสายพันธุ์ ที่พิเศษสุดๆ ก็คือการเตรียมเนื้อสัตว์ทั้งหมู เนื้อ ไก่ หรือจะเป็นสายทะเลอย่างกุ้ง หมึก หอย และอื่นๆ อีกมากมาย ใครที่อยากจะตอกไข่ด้วยก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

6. ข้าวผัดมาม่าหมูสับ

ข้าวผัดมาม่าหมูสับ ถือว่าเป็นเมนูที่เต็มไปด้วยความอร่อยและที่สำคัญทำง่ายแบบสุดๆ โดยการทำก็จะเป็นการนำข้าวกับมาม่ามาผัดเข้าด้วยกัน ผักและเนื้อสัตว์ต่างๆ ที่ตัวเองชื่นชอบ พร้อมกันนั้นก็ใส่ไข่ลงไปด้วย ในส่วนของการปรุงรสก็สามารถใช้ผงมาม่าได้เลยรับรองอร่อยเหาะอย่างแน่นอน

7. หม้อไฟเกาหลี

สำหรับเมนูสุดท้ายที่เหมาะแก่การตั้งแคมป์ปิ้งก็คือหม้อไฟเกาหลีหรือบูเดชิเก ที่ตัวน้ำจะเป็นการใส่ซอสโคชูจังตัวซุปก็จะมีความข้นพอประมาณ ซึ่งความข้นนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนเลยว่าชอบข้นน้อย ข้นมากแค่ไหน โดยวัตถุดิบในการใช้หม้อไฟก็จะมีผักที่ชื่นชอบ ต้นหอมญี่ปุ่นซอย แครอท ผักกาดขาว ไส้กรอก เบคอน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรือจะใส่เป็นต็อกบกกีก็ได้

สรุปบทความ 

ก็จบกันไปแล้วกับการแนะนำ เมนูแคมป์ปิ้ง ที่สามารถเติมเต็มความอร่อยระหว่างทริปแคมป์ปิ้งได้ ซึ่งต้องบอกเลยว่ากิจกรรมการทำอาหารระหว่างทริปอย่างการเข้า ห้องครัว ก็สามารถเติมเต็มความสัมพันธ์ของคนที่ไปออกทริปด้วยกันให้พัฒนาขึ้นได้ เพราะยิ่งมีกิจกรรมร่วมกันมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะสามารถเพิ่มความสนิทสนมกันได้มากขึ้นด้วยเท่านั้น และที่สำคัญการทำอาหารก็นับเป็นเรื่องสนุกที่เติมเต็มความอิ่มท้องให้กับทุกคนได้อย่างดีอีกด้วย

เมนูวาเลนไทน์ ดื่มด่ำความสุขง่าย ๆ ได้ที่บ้าน

เมนูวาเลนไทน์

เมื่อได้เข้าสู่วาเลนไทน์เทศกาลแห่งความรัก หลายๆ คนอาจจะออกไปเดตนอกบ้าน แต่ความจริงแล้วก็สามารถเดตในบ้านได้เหมือนกัน เพียงแค่เข้า ห้องครัว ทำของอร่อยๆ ร่วมกันกับคู่เดต หรือจะทำเซอร์ไพรส์ให้กับคนรักก็ได้เช่นเดียวกัน และในบทความนี้ทาง Tecnogas ก็พร้อมจะพาทุกคนไปดูเมนูวาเลนไทน์ อร่อยๆ ที่สามารถเพิ่มความหวาน ความฟิน ในช่วงวันวาเลนไทน์ได้อย่างแน่นอน ว่าแต่มีอะไรบ้างนั้นตามไปอ่านด้วยกันได้เลย

10 เมนูวาเลนไทน์ เดตกับคนรักที่บ้าน

วางแผนเตรียมสถานที่ในการเดตที่บ้านพร้อมแล้ว แต่เมนูยังไม่พร้อมเพราะคิดไม่ออกจะทำอะไรดี มาดูกันดีกว่ากับ 10 ไอเดียที่สามารถเติมความหวาน ความฟินให้กับที่บ้าน สร้างดินเนอร์สุดปังให้กลายเป็นความทรงจำดีๆ โดยมีเมนูวาเลนไทน์ ที่น่าแนะนำดังต่อไปนี้

1. พิซซ่า

เมนูวาเลนไทน์ที่น่าสนใจ เมนูพิซซ่า

สำหรับเมนูวาเลนไทน์ ที่น่าสนใจก็คือเมนูพิซซ่าที่สามารถทำแป้งหนานุ่มก็ได้ แป้งบางกรอบก็ได้ ก็สามารถสร้างความอร่อยได้ และแน่นอนว่าการเติมท็อปปิ้งที่ทั้งคู่ชื่นชอบ พร้อมยืดเส้นซีทยาวๆ รับรองอร่อยฟินแน่นอน

2. ซี่โครงหมูบาร์บีคิว

ถ้าหากใครกำลังมองหาอาหารจานหลักที่เต็มไปด้วยความอร่อยแบบอิ่มท้อง ขอแนะนำให้เลือกซี่โครงหมูบาร์บีคิว ที่ตัวซี่โครงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เวลาในการปรุงเพื่อความนุ่ม แน่นอนรสชาติยังเต็มไปด้วยความเข้มข้น สามารถสัมผัสความฟินได้เต็มปากเต็มคำ

3. สเต๊ก

อีกจานเด็ดที่เหมาะกับการดินเนอร์ในช่วงวาเลนไทน์เป็นอย่างมากก็คือ สเต๊ก ที่ทุกคนสามารถไปร้านหรูหรือหากอยากจะทำเองก็สามารถเลือกสเต๊กที่ตัวเองชื่นชอบได้ ไม่ว่าจะเป็นสเต๊กไก่ เนื้อ หมู ปลา ก็สามารถรังสรรค์ความอร่อยได้ไม่มีเบื่อ เพราะสามารถทำซอสได้หลากหลายสไตล์ตรงกับความต้องการ

4. ขาหมูเยอรมัน

อีกหนึ่งจานที่หากไปร้านอาหารมักจะสั่งกันมาบ่อยๆ ก็คือขาหมูเยอรมันชิ้นโตๆ ที่สามารถกินแบบคู่รัก หรือกินได้แบบครอบครัวโดยตัวเนื้อแนะนำว่าให้สั่งข้างนอกกรอบ ข้างในสัมผัสเนียนนุ่ม จุ่มซอสที่ให้ช่วยในการตัดเลี่ยน นับว่าเป็นอีกหนึ่งจานอร่อยที่ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด

5. พาสต้า

หากกำลังมองหาเมนูวาเลนไทน์ สไตล์อิตาเลี่ยนต้องห้ามพลาดกับเมนูพาสต้าที่สามารถเติมเต็มความอร่อยได้มากมายหลายแบบ เพราะสามารถเลือกได้ตั้งแต่เส้นพาสต้า หน้าของพาสต้า ซอสของพาสต้า ที่สามารถรังสรรค์ความอร่อยเฉพาะคู่รักได้ เหมาะเป็นเมนูที่สร้างความประทับใจได้เป็นอย่างดี

6. แพนเค้ก

ถ้าหากกำลังมองหาเมนูของหวานที่เหมาะกับช่วงวาเลนไทน์มากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นแพนเค้กที่สามารถทำออกมาเป็นรูปหัวใจน่ารักๆ ได้ สามารถใส่ท็อปปิ้งหลากหลายได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นวิปครีม ช็อกโกแลต น้ำผึ้ง สตรอว์เบอร์รี่ กล้วย และอื่นๆ อีกมากมาย

7. วาฟเฟิล

วาฟเฟิลขนมที่เหมาะจะทานในช่วงวาเลนไทน์

ขนมหวานที่เหมาะจะทานในช่วงวาเลนไทน์อีกอย่างหนึ่งก็คือแพนเค้ก ซึ่งเหมาะมากๆ ที่จะทำออกมาหนึ่งจานแล้วทานคู่กันโดยที่ผลัดกันป้อนไปมา โดยตัววาฟเฟิลก็แนะนำให้เป็นแบบหนานุ่มหวานหอมอมเนย แค่นั้นไม่พอสามารถใส่ท็อปปิ้งต่างๆ ที่ตัวเองชื่นชอบได้รับรองอร่อยติดใจ

8. คุกกี้แยม

ถ้าอยากจะมอบของขวัญวันวาเลนไทน์อย่างคุกกี้หรือช็อกโกแลตนับเป็นตัวเลือกที่แสดงความรักได้ดีที่สุด แต่ที่สามารถเติมความหวานแบบซ่อนเปรี้ยวได้คงหนีไม่พ้นคุกกี้แยมที่มีรสชาติต่างๆ ที่สามารถให้ความหวานของผลไม้ได้ ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ส้ม สับปะรด และอื่นๆ อีกมากมาย

9. สตรอว์เบอร์รี่ชอร์ตเค้ก

ของหวานเมนูวาเลนไทน์ ที่เรียกได้ว่าเติมความหวานแบบละมุนสัมผัสความนุ่มได้อย่างเต็มที่ กับสตรอว์เบอร์รี่ชอร์ตเค้ก ที่ตัวครีมจะเป็นสีขาวสะอาดตาดูหน้าทาน ในขณะที่หน้าเค้กเป็นสตรอว์เบอร์รี่เต็มปากเต็มคำโรยทั่ว รับรองว่าจานนี้ฟินอินเลิฟถึงใจแน่นอน

10. คัพเค้กเรดเวลเวท

อยากจะทำขนมให้เป็นของแทนใจขอแนะนำให้มาทำคัพเค้กเรดเวลเวทความอร่อยแบบหวานซ่อนเปรี้ยวที่มาในชิ้นกะทัดรัดดูหน้าตาน่ารักน่าทาน งานนี้เหมาะให้กลับบ้านเอาไปทานแบบอร่อยๆ เพลินๆ หรือจะทานคู่กันสร้างบรรยากาศแห่งความรักก็ได้เหมือนกัน

สรุปบทความ

สำหรับเมนูวาเลนไทน์ ทั้ง 10 เมนูนี้ต้องบอกเลยว่าสามารถเติมความหวานได้แบบสุดๆ ที่สำคัญยังมีแต่ความอร่อยที่อบอวลชวนฝัน ที่จะสร้างโมเมนต์ดีๆ ให้กับคู่รักได้กับทุกคู่อย่างแน่นอน และเหมาะสุดๆ สำหรับใครที่ยังไม่มีของขวัญวาเลนไทน์ก็สามารถทำของหวาน ของคาวเหล่านี้กันได้ แต่ถ้าจะดีต้องแซมดอกกุหลาบกันสักหน่อย เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความรักได้ในหลากหลายมิติ

Follow Us

TEL. 02-274-3434
EMAIL : webmaster@sbo-brand.com

The Signature Brand Co., Ltd. 
771 Pracha Uthit Road, Samsen Nok,Huai Khwang District, Bangkok 10310