เครื่องดูดควันไม่ดูดกลิ่นแก้ไขได้ด้วยตัวเอง

เครื่องดูดควันไม่ดูดกลิ่นแก้ไขได้ด้วยตัวเอง
ในการทำครัวไม่ว่าจะเป็นครัวหนักหรือครัวเบา สิ่งที่จำเป็นต้องมีก็คือ เครื่องดูดควัน เพื่อที่จะสามารถดูดควันดูดกลิ่น และดูดไอน้ำระหว่างการทำอาหารได้อย่างรวดเร็ว เพราะถ้าหากดูดควันได้ช้าก็จะทำให้ควันโขมงเต็มห้องครัว กลิ่นน้ำมันอบอวล แน่นอนว่าการทำครัวอาจสะดุดและเกิดความไม่ปลอดภัยขณะปรุงอาหารได้ แต่ถ้าหากคุณมีเครื่องดูดควันแต่พบว่าการทำงานประสิทธิภาพไม่ได้ดีเท่าเดิม ลองมาดูสาเหตุและวิธีแก้ไขเครื่องดูดควันไม่ดูดกลิ่นกัน

เครื่องดูดควันไม่ดูดกลิ่น-ดูดไม่แรงเกิดจากอะไร

ความแรงลมในการดูดไม่ดี

หากใครพบว่าความแรงลมในการดูดไม่ได้ดีเหมือนตอนที่ซื้อมาตอนแรก อาจเกิดจากไอน้ำ น้ำมัน หรือคราบต่าง ๆ ปรากฏที่ตัวดูดได้ ทำให้ประสิทธิภาพแรงลมในการดูดลดน้อยลงได้นั่นเอง

ใบพัดดูดอากาศมีสิ่งตกค้าง

หากตรวจความแรงลมเสร็จเป็นที่เรียบร้อย แก้ปัญหาเสร็จแล้วแต่ก็ยังดูดได้ไม่ดี แนะนำว่าให้ตรวจเช็กบริเวณใบพัดดูดอากาศว่ามีสิ่งตกค้างหรือคราบต่าง ๆ อยู่เยอะหรือไม่ เพราะในจุดนี้ก็ถือว่าเป็นอีกสิ่งที่ทำให้เครื่องดูดควันไม่ดูดกลิ่นส่งผลต่อการทำงานไม่มีประสิทธิภาพ

ฟิวส์ที่เชื่อมต่อกับเครื่องดูดควันอาจชำรุด

ในกรณีที่คุณทำทั้ง 2 อย่างข้างต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังพบว่ายังทำงานได้ไม่ดีอยู่ สาเหตุอาจเกิดได้จากระบบไฟฟ้าก็เป็นได้ เพราะฟิวส์ในเครื่องดูดควันอาจไม่ได้เชื่อมต่อหรือชำรุดได้

ไม่ได้ตั้งความแรงลมในการดูด

สิ่งที่ใครหลายคนคาดไม่ถึงอาจเป็นสาเหตุที่แท้จริงนั่นก็คือ การไม่ตั้งความแรงลมในการดูด ซึ่งใครที่ซื้อเครื่องดูดควันที่สามารถปรับความแรงลมได้ แต่ไม่ได้มีการปรับแรงดูดเพิ่มเลยก็ทำให้เครื่องดูดควันไม่ดูดกลิ่นทำงานไม่มีประสิทธิภาพตามที่ควรจะเป็นเช่นกัน

วิธีแก้ไขเมื่อเครื่องดูดควันไม่ดูดกลิ่น

  1. แนะนำให้นำตะแกรงกรองหน้าที่อยู่ตรงเครื่องดูดควันมาทำความสะอาดให้เรียบร้อยเพราะอาจมีน้ำมัน ไอน้ำ และคราบอื่น ๆ ติดฝังแน่นอยู่เป็นสาเหตุให้เกิดการอุดตัน และลมไม่สามารถดันออกมาได้
  2. ใบพัดบางรุ่นจะมีตะแกรงที่ใส่คาร์บอนลงไป เมื่อเวลาดูดจะสามารถดูดควันได้ ดูดกลิ่นได้ ดูดน้ำมันได้ แต่ตัวน้ำมันนี้อาจทำให้เกาะติดคาร์บอน จนดูดได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ หากทำความสะอาดตะแกรงเป็นที่เรียบร้อย แต่ยังเกิดปัญหาอยู่  แนะนำให้หาคาร์บอนก้อนโต ๆ มาเปลี่ยน
  3. ในกรณีที่สาเหตุเกิดจากระบบไฟฟ้า อาจจะเป็นในเรื่องของฟิวส์หลวมก็สามารถขยับให้แน่นขึ้นได้ แต่ถ้านอกเหนือจากนี้ แนะนำให้ปรึกษากับแบรนด์ที่คุณซื้อเครื่องดูดควัน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร และจะสามารถแก้ไขอย่างไร

สรุปบทความ

เมื่อได้อ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนคงจะรู้แล้วว่าเครื่องดูดควันไม่ดูดกลิ่นเกิดจากอะไร เบื้องต้นแนะนำแก้ไขตามสเต็ปที่เราได้มีการอธิบายไปเบื้องต้นก่อน แต่ถ้าทำทุกอย่างแล้วยังเป็นแบบเดิมอยู่ อาจถึงเวลาที่คุณต้องซื้อ เครื่องดูดควันใหม่ก็เป็นได้ ซึ่งทาง Tecnogas ก็มีให้เลือกมากมายหลายแบบที่เหมาะกับการทำครัวหลากสไตล์ หากใครที่กังวลว่าไม่รู้จะเลือกแบบไหนดีก็สามารถปรึกษาทางเราได้ เราพร้อมที่จะให้คำแนะนำที่ดีที่สุดในการเลือกเครื่องดูดควัน

เปลวไฟสีต่าง ๆ บนเตาแก๊สบอกอะไรบ้าง

เปลวไฟสีต่าง ๆ บนเตาแก๊สบอกอะไรบ้าง
สำหรับใครที่ใช้เตาแก๊สเป็นประจำ เมื่อเวลาจุดเตาเราก็จะเห็นเปลวไฟสีต่าง ๆ ซึ่งแต่ละสีนั้นก็มีความหมายหลายอย่าง และสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ แน่นอนว่าเราจะเกิดคำถามว่าทำไมสีเปลวไฟถึงเป็นแบบนี้กันอยู่บ่อย ๆ แต่สุดท้ายก็ปล่อยผ่านไป ซึ่งหากคุณได้เข้ามาอ่านบทความนี้ ก็อยากให้อ่านกันต่อไปเพื่อที่จะได้เข้าใจเรื่องของเปลวไฟและเตาแก๊สที่ทำให้เกิดเปลวไฟกันมากยิ่งขึ้น

เปลวไฟสีต่าง ๆ ที่พบได้ในเตาแก๊ส

อย่างที่ทุกคนรู้กันดีแล้วปกติเปลวไฟจะมีหลายสีมาก ๆ โดยหลัก ๆ แล้วสามารถเกิดได้จากเชื้อเพลิง ออกซิเจนที่อยู่ในบริเวณนั้น และอาจเกิดจากปัจจัยอื่นได้อีกด้วย สำหรับ เปลวไฟสีต่าง ๆ สามารถแสดงให้เห็นอะไรบ้างมาดูกัน

เปลวไฟสีเหลือง

เปลวไฟสีเหลืองมีอุณหภูมิอยู่ที่ 1100°C ถือว่าเป็นเปลวไฟที่ไม่มีคุณภาพและทำให้เกิดอันตรายได้ง่าย เนื่องจากมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่เป็นอย่างมาก โดยสาเหตุเกิดจากอากาศเข้าน้อยจนเกินไป โดยเปลวไฟนี้จะทำให้เกิดเขม่าควันที่อาจอยู่บริเวณก้นหม้อ ก้นกระทะ หรือแม้แต่ที่ตั้งเตาได้ แนะนำให้รีบหาทางแก้ไขจะเป็นการดีที่สุด

เปลวไฟสีแดง

เปลวไฟสีแดงมีอุณหภูมิอยู่ที่ 600-800°C ถือว่าเป็นเปลวไฟที่ไม่มีคุณภาพและสามารถทำให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน เนื่องจากมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่เยอะไม่แพ้กับเปลวไฟสีเหลือง แต่สาเหตุการเกิดแตกต่างกัน นั่นคือเตาที่จุดไฟมีการส่งก๊าซมากเกินไป หรือว่าง่าย ๆ เชื้อเพลิงกับออกซิเจนมีปริมาณที่ไม่สมดุลกัน ดังนั้นเมื่อทำอาหารไปสักพักก็จะเกิดเขม่าควันก้นหม้อ ก้นกระทะ หรือแม้แต่ที่ตั้งเตาได้เช่นเดียวกัน

เปลวไฟสีขาว

เปลวไฟขาวมีอุณหภูมิอยู่ที่ 1300-1500°C นับว่าเป็นเปลวไฟที่อยู่ในมาตรฐานก็คือมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง เพราะไม่เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขณะจุดเตาแก๊สออกมานั่นเอง แต่ต้องบอกเลยว่าเปลวไฟสีขาว ไม่ใช่เปลวไฟที่ดีที่สุด เพราะสาเหตุที่เป็นสีขาวเกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์

เปลวไฟสีฟ้า

เปลวไฟสีฟ้ามีอุณหภูมิอยู่ที่ 1400-1600°C นับว่าเป็นเปลวไฟที่มีคุณภาพที่สุดสำหรับการทำอาหาร เพราะเกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ไม่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ออกมา ความแรงของไฟอยู่ในระดับเสถียรและสามารถควบคุมความแรงได้อย่างคงที่ ซึ่งหากใครที่มีเตาแก๊สที่บ้านเปลวไฟควรจะเป็นสีฟ้า

สรุปบทความ

ทีนี้ทุกคนก็ได้รู้กันแล้วว่า เปลวไฟสีต่าง ๆ นั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร สามารถเกิดขึ้นได้จากอะไรบ้าง และเปลวไฟขณะทำอาหารควรเป็นสีอะไร หากคุณไม่มั่นใจแนะนำให้รีบไปเปิดเตาแก๊สแล้วลองสังเกตดูว่ามีเปลวไฟถูกต้องหรือเปล่า ถ้าหากเป็นเปลวไฟที่ผิดแปลกแนะนำว่าให้รีบหาทางแก้โดยด่วน เพื่อความปลอดภัยระหว่างการทำอาหาร และยังเสริมสร้างสุขภาพที่ดีสำหรับคนทำครัวได้อีกด้วย

เตาแก๊สมีเขม่าดำทำยังไงดี แนะนำวิธีแก้ไขด้วยตัวเอง

เตาแก๊สมีเขม่าดำทำยังไงดี แนะนำวิธีแก้ไขด้วยตัวเอง
สำหรับใครที่เป็นสายเข้าครัวบ่อย ๆ ทำอาหารแบบเต็มรูปแบบทุกมื้อ พอเห็นอีกทีก็พบว่า เตาแก๊สมีเขม่าดำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พอลองสังเกตภาชนะที่ใช้ทำครัวอื่น ๆ อย่างเช่น หม้อ กระทะ ก็พบว่าที่ตัวก้นก็เกิดดำขึ้นมาเช่นกัน แน่นอนว่าปัญหาของเขม่าดำเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งส่งผลต่อการทำอาหารได้หลายรูปแบบ ถ้าใครอยากจะเคลียร์ปัญหานี้ได้แบบหมดจด สามารถตามอ่านบทความนี้กันได้เลย

ทำไมเตาแก๊สมีเขม่าดำ

สาเหตุที่ทำให้เตาแก๊สมีเขม่าดำ หลัก ๆ แล้วจะเกิดจากเปลวไฟขณะจุดทำอาหารมีความผิดปกติ โดยมีสาเหตุมาจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์หรือไม่มีความสมดุลกันระหว่างตัวแก๊สและออกซิเจน จึงทำให้เกิดเปลวไฟสีแดง ซึ่งเป็นเปลวไฟที่ทำให้เกิดเขม่าดำที่เตาแก๊ส รวมถึงภาชนะอื่น ๆ ได้นั่นเอง และในอีกกรณีก็คือ เกิดเปลวไฟลอย หรือก็คือมีความแรงผิดปกติทำให้ไฟจุดติดยาก อาจส่งผลทำให้เกิดเตาแก๊สเขม่าดำได้เช่นเดียวกัน

เตาแก๊สมีเขม่าดำส่งผลต่อทำอาหารยังไง

เมื่อได้ทราบกันแล้วว่าเตาแก๊สมีเขม่าดำเกิดจากอะไรบ้าง โดยหลัก ๆ แล้วก็เกิดจากเปลวไฟที่มีสีแดง หรือเปลวไฟลอยนั่นเอง และถ้าหากจะถามว่าส่งผลต่อการทำอาหารอย่างไรสามารถสรุปได้ดังนี้
  • เตาแก๊สมีเขม่าดำ ส่งผลต่อการทำอาหาร ไม่ว่าจะเป็นจุดไฟยาก จุดไฟแล้วมีความแรงเกินไป จุดไฟแล้วไม่สามารถคุมความร้อนในระดับที่ต้องการได้ หรือแม้แต่ความร้อนไม่มีความเสถียร ดังนั้นอาหารที่จำเป็นต้องควบคุมอุณหภูมิให้ดีอาจจะสูญเสียรสชาติได้
  • เตาแก๊สมีเขม่าดำ ส่งผลต่อสุขภาพ เนื่องจากที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าเปลวไฟสีแดงเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ และเมื่อมีการเผาไหม้ สิ่งหนึ่งที่จะเกิดตามมาก็คือ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นแก๊สที่ทุกคนรู้กันดีว่าคนเราไม่ควรจะสูดดมเป็นเวลานาน เพราะอาจส่งผลต่อสุขภาพได้ในหลาย ๆ ด้าน ดังนั้นเปลวไฟที่ปกติควรจะมีสีฟ้าเท่านั้น
  • การที่มีเปลวไฟสีแดงจะทำให้ระหว่างการทำอาหารจะเกิดเขม่าไฟที่ก้นหม้อหรือก้นกระทะได้ รวมทั้งบริเวณที่ตั้งเตาก็สามารถเกิดได้เช่นเดียวกัน

วิธีแก้ไขเมื่อเตาแก๊สมีเขม่าดำ

  • ปรับวาล์วอากาศใต้เตา – แหงนขึ้นเล็กน้อยแล้วให้ขยับด้านซ้ายและขวาไปเรื่อย ๆ จนกว่าเปลวไฟจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้า
  • เปลี่ยนหัวแรงดันใหม่ – ถ้าหากพบว่าปัญหาคือหัวแรงดันไม่ดีหรือใช้ผิดประเภทแนะนำให้ซื้อมาใหม่ หรือหากใช้รุ่นที่ถูกต้องอยู่แล้ว แนะนำว่าให้ทำการลองจูนและหมุนตรงวาล์วที่ลำเลียงแก๊สใหม่
  • ทำความสะอาดหัวเตาและทางเดินแก๊ส – ให้ทำการถอดเตาออกมาทำความสะอาด รวมถึงทางเดินแก๊ส เพราะการที่ไม่สามารถควบคุมไฟได้อาจเกิดจากการอุดตันของเศษอาหารได้

สรุปบทความ

เมื่อเราได้รู้ปัญหาของเตาแก๊สมีเขม่าดำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นรีบแก้ไขจะเป็นการดีที่สุด เพราะไม่เพียงแต่จะรักษาภาชนะต่าง ๆ ที่ต้องทำอาหารคู่กับเตาเท่านั้น การรักษาเปลวไฟให้เป็นไปอย่างปกติก็จะสามารถเพิ่มความปลอดภัยขณะการทำอาหารได้ และเพิ่มความสะดวกสบายระหว่างการทำอาหารได้เป็นอย่างดียิ่งขึ้นอีกด้วย สำหรับใครที่ลองทำตามวิธีแก้แล้ว แต่กลับพบว่าเตาแก๊สมีการชำรุด ขอแนะนำลองมาส่องเตาแก๊ส ของทาง Technogas เตาคุณภาพที่ทำให้คุณทำครัวได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม

วิธีทำความสะอาดเตาแม่เหล็กไฟฟ้าให้เหมือนใหม่

วิธีทำความสะอาดเตาแม่เหล็กไฟฟ้าให้เหมือนใหม่
ในการทำอาหารนับว่าเป็นเรื่องปกติหากเตาแม่เหล็กไฟฟ้าจะเลอะเปรอะเปื้อน หรือมีคราบฝังแน่น เมื่อใช้ไปนาน ๆ ก็ดูโทรม ๆ ไม่เหมือนตอนซื้อมาใหม่ แต่ถ้าคุณรู้วิธีทำความสะอาดเตาแม่เหล็กไฟฟ้าอย่างถูกต้อง รับรองว่าปัญหากวนใจเหล่านี้สามารถหายไปได้อย่างแน่นอน ในบทความนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีทำความสะอาดเตาแม่เหล็กไฟฟ้า โดยก่อนอื่นต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม จากนั้นก็ไปดูวิธีทำกันได้เลย

อุปกรณ์ทำความสะอาดที่ต้องเตรียม

  • ผ้าไมโครไฟเบอร์ 
  • ฟองน้ำล้างจาน
  • น้ำร้อน
  • น้ำยาล้างจาน
  • ผ้าขี้ริ้ว
  • เบกกิ้งโซดา
  • ถุงมือยาง 

วิธีทำความสะอาดเตาแม่เหล็กไฟฟ้า

ก่อนที่จะเข้าสู่วิธีทำความสะอาดเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ขอแนะนำให้ทุกคนทำการประเมินก่อนว่าคราบบริเวณหน้าเตามีเยอะหรือมีน้อย และมีคราบฝังลึกหรือไม่ หากมีคราบน้ำและไม่ฝังลึกให้เลือกใช้วิธีที่ 1 ที่จะแนะนำต่อไปนี้ แต่ถ้ามีคราบเยอะและฝังลึกให้เลือกวิธีที่ 2 แทน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ วิธีทำความสะอาดเตาแม่เหล็กไฟฟ้าวิธีที่ 1 (หมั่นทำเป็นประจำ)
  1. จัดเตรียมน้ำอุ่นใส่ลงไปในภาชนะแล้วนำน้ำยาล้างจานมาผสมแล้วคนให้เข้ากัน
  2. ใส่ถุงมือยางเพื่อป้องกันความร้อน
  3. นำผ้าขี้ริ้วมาชุบกับน้ำอุ่นที่ผสมกับน้ำยาล้างจานบิดน้ำพอประมาณไม่ต้องแห้งเกินไป
  4. นำผ้าขี้ริ้วมาเช็ดที่เตาแม่เหล็กไฟฟ้า แนะนำว่าถ้าเตาอุ่น ๆ อยู่จะทำให้เช็ดคราบได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
  5. เมื่อขัดถูคราบหมดแล้ว ให้นำผ้าไมโครไฟเบอร์มาเช็ดหน้าเตาให้แห้งก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
วิธีทำความสะอาดเตาแม่เหล็กไฟฟ้าวิธีที่ 2 (ทำความสะอาดแบบจัดเต็ม)
  1. จัดเตรียมน้ำอุ่นใส่ลงไปในภาชนะแล้วนำน้ำยาล้างจานมาผสมแล้วคนให้เข้ากัน
  2. ใส่ถุงมือยางเพื่อป้องกันความร้อน
  3. นำผ้าขี้ริ้วมาชุบกับน้ำอุ่นที่ผสมกับน้ำยาล้างจานบิดน้ำให้แห้งหมาด ๆ
  4. โรยผงเบกกิ้งโซดาที่เตาแม่เหล็กไฟฟ้าให้ทั่ว
  5. นำผ้าขี้ริ้วมาเช็ดที่เตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีการโรยผงเบกกิ้งโซดาเอาไว้ขัดถูให้สะอาด
  6. นำผ้ามาคลุมทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที – 1 ชั่วโมง ให้เบกกิ้งโซดาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ หากพบว่าแห้งให้หาน้ำเทลงไปอยู่เสมอ ๆ 
  7. จากนั้นให้ใช้ผ้าขี้ริ้วเช็ดปาดบริเวณหน้าเตาแม่เหล็กไฟฟ้า
  8. นำฟองน้ำไปชุบน้ำเย็นเช็ดบริเวณหน้าเตาแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อเก็บคราบทั้งหมดอีกครั้ง
  9. สุดท้ายให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์มาเช็ดหน้าเตาแม่เหล็กไฟฟ้าให้แห้งก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

สรุปบทความ

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แนะนำให้คุณกลับไปเช็กห้องครัวเลยว่าที่เตาไฟฟ้ามีคราบเปรอะเปื้อนหรือเปล่า เพราะหากว่ามีแนะนำว่าให้รีบทำตามวิธีทำความสะอาดเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่เราแนะนำ จะทำให้ห้องครัวของคุณดูสะอาดมากยิ่งขึ้น ขณะปรุงอาหารก็สะอาดถูกสุขอนามัย นอกจากนี้การดูแลและทำความสะอาดอยู่เสมอ ก็ยิ่งยืดอายุการใช้งานได้นานมากขึ้นอีกด้วย สำหรับใครที่ยังไม่มี เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ขอแนะนำให้ลองมาเลือกชมสินค้าที่ Tecnogas กันได้ เพราะเรามีเตาแม่เหล็กไฟฟ้าและอุปกรณ์เครื่องครัวหลายแบบให้เลือกซื้อ สามารถเพิ่มความคล่องตัวในขณะที่คุณปรุงอาหารได้เป็นอย่างดี

แนะนำ 3 สไตล์ห้องครัวเหมาะกับโทนสีดำอย่างลงตัว

แนะนำ 3 สไตล์ห้องครัวเหมาะกับโทนสีดำอย่างลงตัว

ในการทำห้องครัวก็จะสามารถอิงตามสไตล์บ้านต่าง ๆ ได้ เพื่อที่ว่า Mood and tone ของแต่ละห้องเป็นไปในสไตล์เดียวกัน หรือหากว่าง่าย ๆ ทั้งภายนอกบ้านและภายในบ้านมีสไตล์เดียวกัน รับรองว่าอยู่แล้วจะรู้สึกกลมกลืนเป็นอย่างมาก และสไตล์ห้องครัวที่มาในโทนสีดำในตอนนี้ถือว่าเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ว่าแต่จะสามารถเป็นสไตล์ไหนได้บ้างนั้น ตามไปอ่านด้วยกันได้เลย

สไตล์ครัวที่เหมาะกับโทนสีดำ

ถ้าหากอยากจะรู้ว่าห้องครัวสีดำจะเหมาะกับสไตล์ไหนบ้าง ต้องบอกเลยว่าเหมาะในหลายสไตล์มาก ๆ เพราะสีดำสามารถเข้ากันได้กับทุกสี ขึ้นอยู่กับว่าจะใส่มากหรือใส่น้อยเท่านั้นเอง แต่ถ้าถามว่าเทรนด์ห้องสีดำมาแรงสไตล์ห้องครัวไหนที่นิยมทำบ้างต้องบอกเลยว่ามี 3 สไตล์ดังต่อไปนี้

ครัวสไตล์โมเดิร์น (Modern)

ห้องครัวที่เหมาะกับสีดำมากที่สุดคงหนีไม่พ้นสไตล์โมเดิร์นที่เน้นดีไซน์มีความสวย ดูดี และหรูหรา สามารถใช้ห้องครัวได้อย่างคล่องแคล่วและว่องไว โดยมากมักจะทำเป็นสีดำหมดทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นงานผนัง งานเพดาน งานพื้น งานเฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องครัวต่าง ๆ ก็มักจะเป็นสีดำหมด แต่ถ้าหากใครรู้สึกดำมากไป อาจเน้นเฉพาะบริเวณเคาน์เตอร์ เครื่องใช้ครัว และบริเวณผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ก็เพียงพอกับการเป็นสไตล์โมเดิร์นได้แล้ว

ครัวสไตล์มินิมอล (Minimal)

สำหรับสไตล์มินิมอลก็ถือว่าเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน และในช่วงนี้ก็นิยมสไตล์มินิมอลที่เน้นโทนขาว – ดำ เป็นหลัก ในด้านของการดีไซน์ยังคงยึดแบบเดิม คือ เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เน้นความโล่ง โปร่งสบาย ดังนั้นการเลือกเครื่องครัวแบบฝังไปกับเคาน์เตอร์จะทำให้ดูสะอาดตา หากไม่ทำครัวบ่อยก็ไม่จำเป็นต้องมีตู้ด้านบนเคาน์เตอร์ก็จะช่วยให้ห้องดูโล่งได้ ที่ต่อให้แม้มีสีดำแซมบ้างบางจุดก็ตาม

ครัวสไตล์ลอฟท์ (Loft)

สำหรับห้องครัวสไตล์ลอฟท์ ก็คือสไตล์ห้องครัวที่เน้นเปลือยทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นส่วนของผนังที่โชว์ให้เห็นปูนเปลือยหรือแม้กระทั่งเป็นอิฐก็ได้เช่นกัน ในส่วนงานท่อต่าง ๆ ก็โผล่มาอย่างชัดเจนให้ดูราวกับว่าเป็นงานตกแต่งที่หากเลือกเป็นสีดำบอกเลยว่าโดน ส่วนหน้าเคาน์เตอร์ต่างๆ เน้นสีดำเข้าไปด้วยรับรองเพิ่มเสน่ห์ที่น่าดึงดูดอย่างแน่นอน

ตกแต่งหัวครัวด้วยเครื่องครัวสีดำ

การตกแต่งห้องครัวไม่ว่าจะเป็นสไตล์ห้องครัวแบบไหนก็ตาม แต่ถ้าหากมีเตาแก๊สแบบตั้งพื้นที่สามารถติดตั้งได้โดยง่ายอย่าง TG PL 998 BLACK FREESTANDING ต้องบอกเลยว่าเหมาะกับทุกแนวเพราะมีดีไซน์ที่เรียบง่าย ให้ความรู้สึกพรีเมียม มีความหรูหราแบบโมเดิร์น แน่นอนว่าคุณภาพเกรดพรีเมียมนำเข้าจากอิตาลี การันตีความสวยที่สามารถลงล็อกกับห้องครัวสีดำได้เป็นอย่างดี

สรุปบทความ

สำหรับสไตล์ห้องครัวสีดำที่ฮิต ๆ ก็จะมี 3 แบบ คือ โมเดิร์น มินิมอล และลอฟท์ ซึ่งสามารถตกแต่งห้องครัวสีดำได้ตามสไตล์ที่ชื่นชอบได้เลย และถ้าถามว่า เครื่องครัวสีดำ สามารถเข้ากับห้องครัวสไตล์อื่นได้หรือไม่? ก็ต้องบอกว่าสามารถเข้ากันได้ เพราะสีดำคือสีที่สามารถอยู่กับสีไหนก็ได้ ทำให้เวลาเลือกใช้เครื่องครัวหลายคนเลยมักจะเลือกสีดำก่อนเป็นอันดับต้น ๆ นั่นเอง สำหรับที่มองหาเครื่องครัวสีดำ เราขอแนะนำให้ทุกคนมาเลือกชมเครื่องครัวสีดำที่ Tecnogas รับรองว่ามีหลายเลือกหลายแบบลงตัวทุกสไตล์ห้องครัวได้อย่างแน่นอน

แนะนำไอเทมชุดครัวสีดำ สวยลงตัวทุกมุมมอง

แนะนำไอเทมชุดครัวสีดำ สวยลงตัวทุกมุมมอง

ถ้าหากใครกำลังวางแผนการทำห้องครัวสีดำอยู่ แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องเลือกประกอบเข้าด้วยกันก็คือ ชุดครัวสีดำ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลาดีไซน์ทีหลัง หรือไม่ก็เสียเวลาบิวท์อินทีหลังนั่นเอง ดังนั้นการออกแบบตั้งแต่แรกเริ่มนับว่าเป็นอะไรที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเลือกเตาแก๊ส การเลือกเคาน์เตอร์ หรือแม้แต่กระเบื้องที่ใช้ในห้องครัวก็ต้องคำนวณและวางแผนตั้งแต่ต้น เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปทำความรู้จักชุดครัวที่จำเป็นต้องมีกันเลยดีกว่า

รวมไอเทมชุดครัวสีดำ

ถ้าอยากจะมีห้องครัวสีดำ มีหลายอย่างมากที่จำเป็นต้องเลือกให้ดีแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เครื่องครัว เฟอร์นิเจอร์ หรือวัสดุต่าง ๆ ที่นำมาก่อสร้าง โดยการเลือกวัสดุและอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นสามารถยึดได้จากดีไซน์ก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นค่อยเข้าไปดูฟังก์ชันต่าง ๆ ว่าตรงกับที่ต้องการหรือไม่ สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานหรือเปล่า เพราะถ้าหากเปลี่ยนทีก็เป็นอันต้องรื้อใหม่ได้เลยนะ ดังนั้นมาดูกันว่าไอเทมชุดครัวสีดำที่ต้องใส่ใจเลือกเป็นพิเศษมีอะไรบ้าง

เตาแก๊สตั้งพื้น Tecnogas รุ่น TG PL 998 BLACK FREESTANDING

สิ่งที่ต้องเลือกเป็นอันดับต้น ๆ ของชุดครัวสีดำก็คือ เตาแก๊ส นั่นเอง และเตาแก๊สของทาง Tecnogas ที่สามารถเข้ากับห้องครัวสีดำได้ก็คือ เตาแก๊สตั้งพื้นรุ่น TG PL 998 BLACK FREESTANDING ที่สามารถเข้ากับห้องครัวสีดำได้หลายสไตล์ ตัวดีไซน์มีความโดดเด่นได้ลุคเรียบหรู ทำให้ห้องครัวดูมีเสน่ห์ขึ้นเป็นกอง

เคาน์เตอร์ครัวสีดำ

การเลือกเคาน์เตอร์ครัวสีดำจำเป็นที่จะต้องใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง แนะนำให้เริ่มจากการเลือกวัสดุที่ทนทานต่อการทำครัวประเภทต่าง ๆ ตัวหน้าเคาน์เตอร์สามารถทำความสะอาดได้ง่ายดาย โดยมากเคาน์เตอร์ที่มีคุณลักษณะเด่นแบบนี้จะมีราคาที่แพง แต่ถ้าลงทุนครั้งเดียวแล้วใช้ยาว ๆ หลายปีบอกได้เลยว่าคุ้ม

กระเบื้องสีดำ

กระเบื้องสีดำคือสิ่งที่ทำให้ห้องครัวคุณดำได้อย่างสะใจ โดยมากมักจะติดตั้งกระเบื้องบริเวณผนังเคาน์เตอร์ครัว เพื่อที่เวลาทำอาหารเกิดมีคราบน้ำมัน คราบไอน้ำ หรือแม้แต่คราบอาหารกระเด็นขึ้นมาก็สามารถเช็ดถูได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความสะอาดมากนัก ในส่วนของพื้นก็แนะนำให้ใช้เป็นกระเบื้องหรือแกรนิตที่ทำความสะอาดเช็ดถูได้ง่าย

เฟอร์นิเจอร์โทนสีดำ

นอกจากนี้แล้วเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะเน้นโทนสีดำ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะกินข้าว เก้าอี้กินข้าว ตู้กับข้าวต่าง ๆ ก็ควรเนียนไปกับห้องครัวสีดำที่ได้มีการดีไซน์ไว้ด้วย ในกรณีที่บ้านของคุณทำห้องครัวทะลุกับห้องกินข้าวได้

สรุปบทความ

การทำห้องครัวเป็นสิ่งที่ต้องดีไซน์และออกแบบไว้ตั้งแต่แรก และจำเป็นจะต้องเลือกชุดครัวสีดำตั้งแต่ต้นจะเป็นการดีที่สุด โดยเฉพาะเตาแก๊สที่จะต้องคำนวณทั้งขนาดและพื้นที่จะวางไว้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าความสวยและความสะดวกการใช้งานก็สำคัญไม่น้อย ถ้าหากคุณอยากได้เครื่องครัวสีดำ ที่มีคุณภาพ มีให้เลือกหลายแบบ สามารถลงตัวได้กับห้องครัวหลายสไตล์ขอให้แนะนำมาดูสินค้าของ Tecnogas กันได้ รับรองคุณจะได้รับการบริการที่ดีและจะได้เครื่องครัวที่ตรงใจที่สุด

ห้องครัวสีดำเทรนด์ใหม่ที่มีเสน่ห์อย่างลงตัว

ห้องครัวสีดำเทรนด์ใหม่ที่มีเสน่ห์อย่างลงตัว

ถ้าหากใครชอบดูดีไซน์บ้านบ่อยๆ จะพบเลยว่าห้องครัวสีดำกำลังเป็นเทรนด์มาแรงแซงทางโค้งเมื่อเทียบกับแบบอื่น ๆ เพราะสีดำนั้น ถือว่าเป็นสีที่มีเสน่ห์ที่น่าดึงดูด แฝงไปด้วยความเรียบหรู ดูสง่า เคร่งขรึม ทำให้ดูมีอะไร ถ้าหากใครชอบทำให้บ้านดำทั้งบ้านต้องบอกเลยว่าตอบโจทย์แบบสุด ๆ เพราะห้องครัวสีดำนี้จะลงตัวกับเครื่องครัวสีดำ ได้ด้วยเช่นกัน มาทำความเข้าใจห้องครัวสีนี้แบบเจาะลึกกันเลยดีกว่า

ทำไมห้องครัวสีดำถึงมีเสน่ห์

ห้องครัวสีดำ ที่ใครหลายคนต่างก็บอกว่ามีเสน่ห์ ต้องทำความเข้าใจความหมายของสีดำเสียก่อน สีดำเป็นการแสดงให้เห็นถึงความลึกลับ ชวนหลงใหล ชวนเข้าไปค้นหา ในขณะเดียวกันก็สามารถเป็นอิสระได้จากทุกสิ่ง หรือก็คือมีความโดดเด่นของตัวสีเอง โดยไม่จำเป็นต้องใช้สีอื่นเข้ามาช่วย ก็สามารถให้บรรยากาศของห้องครัวมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบหรูหราตระการตา หรูหราแบบเรียบหรู หรือจะเป็นแนวเฉพาะแบบที่เจ้าของบ้านชื่นชอบก็เป็นได้ อ่านมาถึงตรงนี้ใครที่ลังเลอยู่ลองมาดู 3 เหตุผลว่าทำไมห้องครัวสีดำถึงมีเสน่ห์

ให้ความหรูหราทุกมุมมอง

อย่างที่กล่าวไปว่าห้องครัวสีดำมีความหรูหราเป็นอย่างมาก โดยการตีความความหรูหรานั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน หากอยากเพิ่มความหรูหรามากขึ้น นอกจากใช้โทนสีดำแล้ว สามารถเลือกวัสดุในการทำห้องครัวเกรดพรีเมียมที่เน้นความสวยงาม แข็งแรง คงทน สิ่งเหล่านี้จะช่วยเสริมความหรูหราดูแพงได้ เพราะวัสดุต่าง ๆ เป็นของแพงจริง ๆ

มีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง

การดีไซน์ห้องครัวจะสามารถสะท้อนความเป็นตัวตนของเจ้าของบ้านได้ หากเลือกโทนสีดำก็จะแสดงถึงความลึกลับ น่าสนใจ น่าค้นหา นอกจากนี้การดีไซน์ห้องครัวสีดำยังให้ความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ ทำให้คุณรู้สึกเพลิดเพลินกับการทำอาหารอย่างกับเชฟมือโปร แน่นอนว่าแต่ละจานที่เสิร์ฟประหนึ่งหลุดออกมาจากร้านหรู ห้องครัวสีดำมักจะสามารถแสดงภาพลักษณ์แบบนี้ได้

ดูสะอาดตาไม่เลอะง่าย

สิ่งที่เห็นแน่นอนที่สุดก็ คือ ห้องครัวสีดำดูสะอาดตา ไม่เลอะง่าย เพราะสีดำต่าง ๆ จะช่วยพลางสายตาเวลาเกิดคราบน้ำมัน ไอน้ำ เศษอาหารได้อย่างแนบเนียน ผิดกับครัวที่เป็นโทนสีอ่อนอย่าง เช่น สีขาว สีครีม ที่สามารถเห็นสิ่งสกปรกได้อย่างชัดเจน

เลือกเครื่องครัวสีดำกับ Tecnogas

ถ้าหากคุณกำลังตามหาเครื่องครัวสีดำแบบฝัง มีดีไซน์สวย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในความหรูหราของห้องครัวสีดำ ขอแนะนำให้รู้จักกับ TG PL 998 BLACK FREESTANDING เตาแก๊สพร้อมเตาอบ ผลิตจากวัสดุเกรดพรีเมียม ประตูเตาอบผลิตจากกระจก Inner Glass Cool Door สามารถแต่งบิวท์อินกับเคาน์เตอร์ครัวได้อย่างแนบเนียน

สรุปบทความ

ทุกคนคงจะเห็นแล้วว่าห้องครัวสีดำนับเป็นเสน่ห์ที่น่าดึงดูด ทำให้ห้องครัวดูสวย ดูหรู ดูแพงได้ในเวลาเดียวกัน หากยิ่งเลือกวัสดุในการทำห้องครัวให้มีสีดำ เช่น เคาน์เตอร์ครัวสีดำเรียบแบบเป็นเงา ก็ยิ่งเสริมให้ห้องครัวดูโดดเด่นและสามารถเข้าคู่กันได้ดีกับเครื่องครัวสีดำอีกด้วย ซึ่งหากทำห้องครัวสีอื่นที่ไม่ใช่ขาว – ดำ การคุมโทนจะเป็นไปได้ยากมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากใครที่ชื่นชอบสีดำแนะนำให้ลองทำห้องครัวสีดำกันได้เลย!

วิปปิ้งครีมมีกี่แบบ? รู้จักกับชนิดของวิปปิ้งครีม

วิปปิ้งครีมมีกี่แบบ? รู้จักกับชนิดของวิปปิ้งครีม
วิปปิ้งครีม นับว่าเป็นของโปรดของใครหลายคน ส่วนมากก็มักพบในเครื่องดื่มและของหวานเป็นหลัก และถ้าหากทุกคนได้ลองกินวิปปิ้งครีมก็จะรู้เลยว่าวิปปิ้งครีมแต่ละแบบนั้น มีทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน เพราะสูตรการทำวิปปิ้งครีมมีหลายอย่าง และเหมาะกับแต่ละเมนูหลายแบบ ในบทความนี้ก็จะพาทุกคนไปรู้จักกันว่าวิปปิ้งครีมมีกี่แบบกันแน่ โดยรายละเอียดทั้งหมดมีดังต่อไปนี้

วิปปิ้งครีมและวิปครีมเหมือนกันมั้ย?

ก่อนที่จะไปรู้ว่า วิปปิ้งครีมมีกี่แบบ จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนจะต้องแยกให้ออกระหว่างวิปปิ้งครีมและวิปครีมว่ามีความแตกต่างกันที่ตรงไหน ถ้าอธิบายง่าย ๆ สรุปได้ดังนี้
  • วิปปิ้งครีม คือ ของเหลวที่เป็นผลิตจากนมต่าง ๆ ที่จะมีรสชาติจืด ๆ แถมยังมีความมันอีกด้วย โดยวิปปิ้งครีมแบบนี้เหมาะมากในการทำอาหาร ในขณะเดียวกันก็เหมาะกับการทำของหวานด้วยเช่นเดียวกัน
  • วิปครีม คือ การนำวิปปิ้งครีมที่ปกติจะมาในลักษณะเป็นของเหลว นำมาตีให้ขึ้นฟูอยู่ทรงได้หลายแบบ อีกทั้งยังได้สัมผัสที่แตกต่างกันด้วย โดยมากจะทำการใส่น้ำตาลเพิ่มความอร่อย หรือใส่กลิ่นให้มีความหอมด้วยได้เช่นกัน เหมาะมากกับการนำไปสอดใส่ในขนม หรือไม่ก็เป็นครีมบนหน้าเค้ก

วิปปิ้งครีมมีกี่แบบ?

ในส่วนต่อมาก็จะว่าด้วยเรื่องสำคัญอย่าง วิปปิ้งครีมมีกี่แบบ เบื้องต้นจะมีแบบเดียวหากไม่ได้มีการตีให้ฟูขึ้น แต่ถ้าทำการแปรรูปผ่านการตีที่หลากหลาย ทั้งในแง่ของส่วนผสมต่างเอง ก็ทำให้วิปปิ้งมีเนื้อที่แตกต่างกันได้อย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่าเรื่องรสชาติก็มีความแตกต่างกัน ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 แบบดังนี้

1. Dairy Whipping Cream

วิปปิ้งครีมแท้ ไขมันเนยอยู่ที่ 30-35% ทำมาจากนมวัวเนื้อครีมมีสีเหลืองอ่อน เนื้อสัมผัสบางเบา ทานปุ๊บละลายในปากปั๊บ ถ้าหากหมายมั่นอยากจะทำให้ฟูขึ้นรูปอยู่นานวิปครีมแท้ถือว่าไม่เหมาะ เพราะยุบตัวไวมาก 

2. Non-Dairy Whipping Cream

วิปปิ้งครีมเทียม ไขมันเนยอยู่ที่ 28-30% ทำมาจากไขมันพืชที่แปรรูปให้เป็นไขมันเนยที่สามารถตีขึ้นฟูได้ง่าย เนื้อครีมเป็นสีขาวขึ้นรูปฟูอยู่นาน แถมยังมีการเติมน้ำตาลเพิ่มความอร่อย

3. Canned Whipping Cream

วิปปิ้งครีมที่ขายเป็นกระป๋อง เวลาจะใช้งานจำเป็นจะต้องเขย่าก่อนใช้เพื่อให้วิปปิ้งครีมที่บีบออกมามีการขึ้นรูปฟู ราคาขึ้นอยู่กับว่าเป็นวิปปิ้งครีมแท้หรือวิปปิ้งครีมเทียม 

4. Whipping Powder

วิปปิ้งครีมที่ทำการแปรรูปให้เป็นผงเพื่อสะดวกต่อการเก็บและใช้งาน และหากมีการใช้งานจำเป็นต้องผสมนมหรือไม่ก็น้ำเพื่อให้วิปปิ้งครีมขึ้นรูป

สรุปบทความ

สำหรับคำถามที่ว่า วิปปิ้งครีมมีกี่แบบ ก็ต้องบอกว่ามีหลายแบบมาก ๆ ทั้งวิปครีมหรือวิปปิ้งครีมก็มีความแตกต่างกันเห็นได้ชัด ซึ่งบางแบบจะเหมาะกับใส่ขนมหวานที่มักอบใน เตาอบขนาดเล็ก และถ้าหากทำหลายคนอาจจำเป็นต้องใช้ เตาอบตั้งโต๊ะ ซึ่งตัวเนื้อครีมจะอยู่ทรงมากกว่ากับการทำครีมสำหรับใส่เครื่องดื่ม ถ้าหากใครหมายมั่นตั้งใจจะเป็นมือโปรในการทำขนมหวานหรือเบเกอรี่ การมีเตาอบที่มีคุณภาพและสามารถใช้งานสะดวก ง่ายจะช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับเมนูของหวานได้เป็นอย่างดี ดังนั้นถ้ายังไม่มีเตาอบสามารถเข้ามาเลือกชมสินค้าของ Tecnogas และเลือกเตาอบที่ถูกใจคุณไปใช้งานกันได้เลย!

วิธีทำผัดหมี่ซั่วเจไม่ติดกระทะ อร่อยง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก

วิธีทำผัดหมี่ซั่วเจไม่ติดกระทะ อร่อยง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก
เมนูยอดฮิตในช่วงเทศกาลกินเจที่เห็นได้บ่อย และทุกคนที่กินเจเป็นอันต้องทานนั่นก็คือ ผัดหมี่ซั่วเจ เพราะอาหารจานนี้ทางจีนมีความเชื่อว่าเป็นมงคลเป็นอย่างมาก เมื่อเข้าสู่ช่วงเทศกาลจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายคนเลือกที่จะทานเมนูนี้ เพราะไม่เพียงแต่ความเป็นสิริมงคลเท่านั้น ยังถือว่าเป็นจานอาหารที่ได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่อีกด้วย ในบทความนี้จึงจะพาทุกคนไปดูวิธีทำผัดหมี่ซั่วเจ รับรองทำง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ติดกระทะอย่างแน่นอน

วิธีต้มเส้นหมี่ซั่ว

อย่างที่ทราบกันดีว่าเมนู ผัดหมี่ซั่วเจ จุดที่สามารถชี้ความอร่อยมากที่สุดคงหนีพ้น “เส้นหมี่ซั่ว” โดยแนะนำว่าให้เตรียมหมี่ซั่วแห้งมาใช้ในการต้ม ซึ่งสามารถเลือกใช้เส้นสีขาวหรือสีเหลืองได้ตามใจชอบเลย แต่สำหรับการต้มจำเป็นต้องใส่ใจสักหน่อย โดยสามารถทำตามได้ดังต่อไปนี้
  • เริ่มจากการนำหมี่ซั่วมาตัดครึ่งตามรอยพับของเส้น และนำไปแช่ในน้ำสะอาดไว้ก่อนราว ๆ 10 นาที จากนั้นก็นำเส้นขึ้นมาพัก วางไว้บนตะแกรงสะเด็ดน้ำหมดไปก่อน
  • เริ่มตั้งหม้อขึ้นมานำน้ำเปล่ามาเทลงหม้อให้เดือด จากนั้นให้นำตะแกรงที่ใส่เส้นหมี่ซั่วลงไปลวกประมาณ 1 – 2 นาทีก็สามารถช้อนขึ้นมาได้เลย แนะนำว่าอย่าลวกเส้นนิ่มเกิน เพราะตอนผัดจะลำบากเส้นอาจเละและติดกระทะได้ แนะนำว่าลวกให้นิ่มพอประมาณ

วัตถุดิบทำผัดหมี่ซั่วเจ

วัตถุดิบเตรียมเส้นสำหรับต้ม

  • เส้นหมี่ซั่ว (แห้ง)
  • น้ำเปล่า

วัตถุดิบที่เป็นองค์ประกอบหลัก

  • เห็ดหอม 5 ดอก
  • เต้าหู้แข็ง  1/3  ก้อน
  • กะหล่ำปลี 1/2 หัว  
  • เห็ดหูหนู 1/4 ถ้วย
  • แครอท 1/4 ถ้วย

เครื่องปรุงรส

  • ซอสเห็ดหอม 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 2 ช้อนชา
  • พริกไทย 1/4 ช้อนชา

สิ่งที่ต้องเตรียมตอนผัดหมี่ซั่วเจ

  • น้ำมันสำหรับผัด 4 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำผัดหมี่ซั่วเจ

ขั้นตอนแรก : ต้มเส้นหมี่ซั่วให้เรียบร้อยและวางพักไว้ (สามารถทำวิธีต้มเส้นข้างต้นได้เลย) ขั้นตอนที่สอง : การหั่นวัตถุดิบหลัก
  • เห็ดหอม 5 ดอก มาแช่กับน้ำให้นิ่ม แล้วก็หั่นออกมาเป็นเส้น
  • เต้าหู้แข็งนำมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมแบบพอดีคำ
  • กะหล่ำปลีนำมาหั่นเป็นชิ้น ๆ ให้เหมาะกับการผัด
  • เห็ดหูหนูนำมาหั่นแบบพอดีคำ
  • แครอทสามารถหั่นได้ 2 แบบ คือ หั่นเป็นเส้น กับหั่นเป็นสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก
ขั้นตอนที่สาม : การผัดหมี่ซั่วเจ
  • ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะจนร้อน จากนั้นให้นำเต้าหู้ลงไปทอด รอให้เหลืองเล็กน้อย และค่อยตามด้วยเห็ดหอมเพื่อความหอมระหว่างการผัด
  • จากนั้นนำผักที่เตรียมไว้ พร้อมกับเส้นหมี่ซั่วที่สะเด็ดน้ำเรียบร้อยลงในกระทะ
  • ทำการปรุงรสโดยใส่เครื่องปรุง ได้แก่ ซอสเห็ดหอม ซีอิ๊วขาว น้ำตาล และพริกไทย จากนั้นผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน จนเห็นว่าทุกอย่างสุกก็สามารถเสิร์ฟหมี่ซั่วเจได้เลย

สรุปบทความ

ก็จบกันไปแล้วสำหรับวิธีทำผัดหมี่ซั่วเจ ซึ่งการทำในแต่ละขั้นตอนจำเป็นจะต้องใส่ใจอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ผัดหมี่ซั่วเจที่เส้นนิ่มกำลังดี ผัดแล้วไม่ติดกระทะ และแน่นอนสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือการเลือกกระทะและ เตาแก๊ส ที่สามารถควบคุมความแรงหรืออุณหภูมิขณะทำอาหารได้เป็นอย่างดี หากคุณกำลังมองหาเตาแก๊สที่มีความหลากหลาย สามารถเข้าได้กับห้องครัวหลายแบบ สามารถเลือกซื้อเตาแก๊สเกรดพรีเมียมจาก Tecnogas ได้เลย

แนะนำสูตรทำพะโล้เจง่าย ๆ ต้อนรับเทศกาลกินเจ

แนะนำสูตรทำพะโล้เจง่าย ๆ ต้อนรับเทศกาลกินเจ
เมื่อเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจจะมีเมนูอาหารมากมายหลายอย่างที่มีสูตรเฉพาะสำหรับคนที่กินเจ และเมนูที่ถือว่าเป็นที่นิยมจานหนึ่งเลยก็คือ พะโล้เจ ต้องบอกว่าเป็นเมนูที่เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี และมีความอร่อยที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ถ้าหากจะมองหาเมนูที่สามารถคลุกเคล้ากับข้าวเพิ่มความอร่อยอีกระดับขอแนะนำเมนูนี้เลย เราไปทำความรู้จัก เตรียมวัตถุดิบ พร้อมทั้งวิธีทำกันเลยดีกว่า

พะโล้เจต่างจากพะโล้ทั่วไปยังไง

พะโล้เจ คือ การทำพะโล้ที่ไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์นานาชนิด ไข่ ผักที่มีกลิ่นฉุนบางประเภท เช่น กระเทียม รากผักชี กระเทียมโทนจีน งดใช้เครื่องปรุงรสที่มีผลผลิตมาจากสัตว์ ในส่วนของรสชาติเองก็ต้องคงความเสถียรไม่หวานเกินไป ไม่เค็มเกินไป ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการทานเจมีหลายอย่างที่ต้องหลีกเลี่ยง แตกต่างกับพะโล้ธรรมดาที่สามารถใส่เนื้อสัตว์ได้เต็มที่ หากใครอยากหาผงพะโล้มาปรุงอาหารก็สามารถใช้ได้เลย โดยไม่ต้องกังวลว่ามีส่วนผสมต้องห้ามหรือเปล่า ในส่วนของรสชาติก็สามารถจัดเต็มได้ตามที่ตัวเองชื่นชอบได้เลย

วัตถุดิบที่ต้องเตรียมสำหรับพะโล้เจ

วัตถุดิบที่ต้องทอด

  • เต้าหู้ขาว 1 ก้อน
  • เห็ดหอมแห้ง 5 ดอก
  • ฟองเต้าหู้ 20 กรัม
  • หมี่กึ่งหั่นเป็นแว่น 100 กรัม

เครื่องเทศและเครื่องปรุงรสที่ต้องมี

  • อบเชย 2 ก้าน
  • โป๊ยกั๊ก 4 ดอก
  • น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทย  ½ ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 3 ½ ทัพพี

สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับทอดและต้ม

  • น้ำมันพืช
  • น้ำเปล่า

ขั้นตอนการทำพะโล้เจ

ขั้นตอนแรก : เตรียมวัตถุดิบให้พร้อมปรุง
  • นำเต้าหู้ขาวมาหั่นให้เป็นแว่น ๆ จากนั้นเตรียมตั้งกระทะและ นำเต้าหู้ขาวไปทอดกับน้ำมันพืชรอให้เหลืองกรอบจากนั้นวางพักไว้
  • นำเห็ดหอมแห้งทั้ง 5 ดอกมาแช่น้ำให้จนชุ่มเรียบร้อย และนำหมี่กึ่งที่หั่นเป็นแว่นแล้วไปผัดลงในกระทะที่มีน้ำพืชเช่นเดียวกันแล้ววางพักไว้เช่นกัน
ขั้นตอนที่สอง : ทำเครื่องพะโล้เจ
  •  ให้ทำการเตรียมหม้อตั้งไฟและใส่น้ำตาลปี๊บเคียวให้เปลี่ยนสีเข้ม จากนั้นก็ให้นำซีอิ๊วขาวใส่ลงไปคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  • หลังจากนั้นจึงต้องใส่เครื่องเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอบเชย โป๊ยกั๊ก พริกไทย ตามลงไปขนให้ทั่วเพื่อให้เกิดกลิ่นหอมขึ้นมาก่อน
ขั้นตอนที่สาม : เคี่ยวพะโล้เจ
  •  เมื่อตั้งหม้อพร้อมทำเครื่องพะโล้เจเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ให้นำเต้าหู้ขาว เห็ดหอมแห้ง หมี่กึ่งที่เตรียมไว้มาใส่ลงหม้อ ตามด้วยน้ำเปล่า โดยใส่ให้ท่วมวัตถุดิบแล้วทำการเคี่ยวเป็นเวลา 30 นาที
  • จากนั้นให้ลองชิมรสชาติดู หากรู้สึกว่ารสชาติเข้มข้นจนเกินไป สามารถใส่น้ำเพิ่มได้ เพียงเท่านี้พะโล้เจก็พร้อมเสิร์ฟเป็นที่เรียบร้อย

สรุปบทความ

เมื่อได้อ่านจบกันไปแล้ว สำหรับใครที่มีครอบครัวใหญ่เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับการทำพะโล้เจในช่วงเทศกาลอิ่มบุญ เพราะไม่เพียงแต่ทานได้หลายคนแล้ว พะโล้เจยังเหมาะเป็นจานสำคัญของหลาย ๆ ครอบครัว เพราะความอร่อยรสชาติดีอย่าบอกใคร ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเตรียมวัตถุดิบคุณภาพดีเท่านั้น สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ การเลือกใช้ เตาแก๊ส ที่มีคุณภาพก็จะช่วยทำให้พะโล้เจอร่อยได้มากยิ่งขึ้น ใครที่กำลังมองหาเตาแก๊สอยู่สามารถเลือกซื้อที่ Tecnogas เรามีบริการจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพชั้นนำมากมายที่จะมาช่วยทำให้การเข้าครัวของคุณง่ายกว่าที่เคย

Follow Us

TEL. 02-274-3434
EMAIL : webmaster@sbo-brand.com

The Signature Brand Co., Ltd. 
771 Pracha Uthit Road, Samsen Nok,Huai Khwang District, Bangkok 10310